รมว.ยุติธรรม ประชุมมอบนโยบาย เดินหน้าคดีเร่งด่วน

ก.ยุติธรรม 4 ธ.ค. .-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินหน้าทุกคดีเร่งด่วน นัดประชุมติดตามงานสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ขณะที่การปฏิรูปดีเอสไอคาดมีความชัดเจนก่อนปีใหม่นี้


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแก่ข้าราชการระดับสูงทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ถ่ายทอดสดไปยังสำนักงานยุติธรรมทั่วประเทศ เพื่อรับฟังนโยบาย แนวทางการขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงยุติธรรม โดยใช้เวลามอบนโยบายกว่า 2ชั่วโมง


พล.อ.อ.ประจิน กล่าวภายหลังมอบนโยบาย ว่า กระทรวงยุติธรรมยังคงสานต่อทุกนโยบายที่ดำเนินการมา เพื่อตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมเดินหน้าทุกคดีอย่างเร่งด่วน ทั้งการติดตามคดีสหกรณ์เครดินยูเนี่ยนคลองจั่น คดีทุจริตเงินกู้ธนาคารกรุงไทย และคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม เช่น กระบวนการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นมาพิจารณาใหม่ กรณีการตรวจพิสูจน์การเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำงานของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ คาดมีความชัดเจนภายใน 1เดือน โดยทุกคดีที่เร่งด่วน ได้สั่งการให้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าสัปดาห์ละ 2ครั้ง คือทุกวันอังคาร และวันศุกร์ 

พล.อ.อ.ประจิน ยังกล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการปฏิรูปกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลรายละเอียด คาดว่าก่อนปีใหม่นี้คงมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งในเรื่องรูปแบบ การปรับเปลี่ยนบทบาทอย่างไรไม่ให้ทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ซึ่งยืนยันว่าดีเอสไอยังคงเป็นหน่วยงานที่จำเป็นในการสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชน และภายในสัปดาห์จะแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับช่องทางการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน


สำหรับกระทรวงยุติธรรมได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนไว้ 6 ด้าน คือ 1. การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มุ่งลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด 2. การสร้างความปลอดภัยและความสงบสุขในสังคม แก้ไขการกระทำความผิดซ้ำ เข้าสู่กระบวนการดูแลและฟื้นฟู 3. การอำนวยความยุติธรรมโดยการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน Thailand 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” 4. การพัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ 5. การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมความมั่นคง บรูณาการทุกหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย ให้ทำงานสอดคล้องกัน และ 6. การเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ สร้างภาวะเอื้อต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม ภายใต้กรอบกฎหมายเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ