ชาวอเมริกันสองในสามพอใจผลงานไบเดนเรื่องโควิด
ผลสำรวจล่าสุดพบว่า ชาวอเมริกันสองในสามพอใจผลงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และส่วนใหญ่สนับสนุนให้ผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคนี้
ผลสำรวจล่าสุดพบว่า ชาวอเมริกันสองในสามพอใจผลงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดนในการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และส่วนใหญ่สนับสนุนให้ผ่านร่างกฎหมายเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคนี้
สหรัฐปรับพื้นที่สนามกีฬาทั่วประเทศเป็นคลินิกสนาม จัดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ชาวอเมริกัน เพื่อผลักดันยอดการฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
นิวยอร์ก 11 ธ.ค. – ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันของรอยเตอร์/อิปซอสชี้ว่า ผู้หญิงชาวอเมริกันรู้สึกวิตกกังวลมากกว่าผู้ชายเรื่องการรีบเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันในช่วงวันที่ 2 – 8 ธันวาคมที่ผ่านมาพบว่า ผู้หญิงอเมริกันร้อยละ 35 ระบุว่า ไม่สนใจเท่าใดหรือไม่สนใจเลยที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9 จากผลสำรวจครั้งก่อนในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่วัคซีนอยู่ระหว่างการพัฒนา ขณะที่ผู้หญิงร้อยละ 55 ระบุว่า สนใจมากหรือค่อนข้างสนใจเข้ารับการฉีดวัคซีน ลดลงร้อยละ 6 จากครั้งก่อน อย่างไรก็ดี ผู้ชายอเมริกันร้อยละ 68 บอกว่า สนใจเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งไม่ต่างไปจากผลสำรวจครั้งที่แล้ว ผลสำรวจเดือนนี้พบว่า ในภาพรวมแล้วชาวอเมริกันที่ยินดีฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีร้อยละ 61 ลดลงร้อยละ 4 จากผลสำรวจเดือนพฤษภาคม และพบว่า ผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานฉีดวัคซีนลดลงจากร้อยละ 62 เหลือร้อยละ 53 ผู้อำนวยการศาสตร์การดำเนินการและพฤติกรรมของคณะสาธารณสุขจอห์นส์ฮอปกินส์บลูมเบิร์ก มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ของสหรัฐกล่าวว่า การโน้มน้าวผู้หญิงให้ยอมรับวัคซีนมีความสำคัญต่อการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากผู้ที่เป็นแม่มักเป็นคนที่จัดการนัดพบแพทย์และคอยติดตามการฉีดวัคซีนต่อเนื่อง ผู้หญิงมีความระมัดระวังสูง และชอบศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม การทำให้พวกเธอเชื่อมั่นว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ได้ใช้ขั้นตอนลัดในกระบวนการอนุมัติจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง. -สำนักข่าวไทย
วอชิงตัน 11 ธ.ค. – ที่ปรึกษาระดับสูงของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเตือนชาวอเมริกันงดจัดงานเลี้ยงฉลองเทศกาลคริสต์มาส และเตรียมรับมือกับการระบาดรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ดร. ไมเคิล ออสเตอร์โฮล์ม วัย 67 ปี ที่ปรึกษาด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของนายไบเดนกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐว่า สหรัฐจะยังคงเผชิญกับการระบาดรุนแรงของโรคโควิด-19 ในอีก 3 – 6 สัปดาห์ข้างหน้าเป็นอย่างน้อย การระบาดจะยังไม่สิ้นสุดแม้ผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวที่จะทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นอย่างมาก เขาเน้นย้ำว่า คงต้องใช้เวลานานอีกหลายเดือนกว่าที่สหรัฐจะมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ใช้อย่างแพร่หลาย แม้ว่าวัคซีนจะได้รับอนุมัติให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ดร. ออสเตอร์โฮล์มยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันช่วยควบคุมการระบาดด้วยการจำกัดการพบปะทางสังคมให้อยู่ในภายในครอบครัวเท่านั้น โดยเฉพาะการงดจัดงานฉลองเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งไม่มีความปลอดภัยในขณะนี้ คณะกรรมการอิสระที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น แนะนำให้องค์การอาหารและยาสหรัฐหรือเอฟดีเออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคเป็นการฉุกเฉิน คาดว่าเอฟดีเออาจประกาศอนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าวภายในไม่กี่วันข้างหน้า เปิดทางให้ทางการสหรัฐสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไปได้เร็วสุดในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ คณะกรรมการอิสระมีกำหนดประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นา บริษัทยาสัญชาติอเมริกันในสัปดาห์หน้าเช่นกัน ทางการสหรัฐรายงานวานนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 จำนวน 3,252 คน ซึ่งเป็นตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในสหรัฐ และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 219,000 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 15.6 ล้านคน […]
สหรัฐตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้ประชาชน 100 ล้านคนภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ทั้งหมด
ชาวอเมริกันฉลองวันขอบคุณพระเจ้าแบบต้องลดความอลังการลงในช่วงที่การระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น
ชาวอเมริกันพากันแห่เดินทางในช่วงก่อนวันหยุด แม้จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงสุดในรอบ 6 เดือน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายใน 1 – 2 วันหลังจากได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเดือนหน้า
ชาวอเมริกันออกมาเฉลิมฉลองชัยชนะของ “โจ ไบเดน” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ในสวนสาธารณะวอชิงตัน สแควร์ ปาร์ค รวมทั้งตามท้องถนน
สหรัฐ 7 พ.ย.- ชาวอเมริกันยังคงมีการชุมนุมประท้วง การนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี นอกศูนย์การประชุมเมืองฟิลาเดลเฟีย โดยกลุ่มสนับสนุน “ทรัมป์” กล่าวหาว่า เดโมแครตพยายามโกงการเลือกตั้ง ส่วนกลุ่มสนับสนุน “ไบเดน” ชูป้ายว่าทรัมป์ควรยอมรับความพ่ายแพ้ กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน ยังคงมีการชุมนุมประท้วงเรื่องการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี นอกศูนย์การประชุมเมืองฟิลาเดลเฟีย กลุ่มผู้สนับสนุนนายทรัมป์พากันกล่าวหาว่า พรรคเดโมแครตพยายามโกงการเลือกตั้ง เหมือนที่นายทรัมป์เคยประกาศโดยไม่มีหลักฐานใดๆ ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนนายไบเดน ชูป้ายข้อความ ว่านายทรัมป์ควรยอมรับความพ่ายแพ้ ในขณะที่การนับคะแนนในหลายรัฐยังคงดำเนินต่อไปโดยนายไบเดนยังมีคะแนนำนายทรัมป์ และคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายวัน เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนทางไปรษณีย์มากเป็นประวัติการณ์.-สำนักข่าวไทย
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ ชาวอเมริกัน ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้ามากกว่า 100 ล้านคน คาดการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ใช้สิทธิถึง 160 ล้านคน หรือราว 67% ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์
ชาวอเมริกันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทะลุ 95 ล้านคนแล้ว นับจนถึงวันก่อนเลือกตั้ง