ลอนดอน 7 เม.ย. – นักวิทยาศาสตร์เผยผลการศึกษาที่พบว่า 1 ใน 3 หรือคิดเป็นร้อยละ 34 ของชาวอเมริกันส่วนใหญ่กว่า 230,000 คนที่หายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทหรือความผิดปกติทางจิตภายใน 6 เดือน
ผลการศึกษาครั้งล่าสุด ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเดอะแลนซิตเฉพาะทางด้านจิตเวชศาสตร์ (The Lancet Psychiatry) ได้วิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 236,379 คนที่ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน และพบว่าผู้ป่วยร้อยละ 34 มีอาการป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบประสาทหรือมีความผิดปกติทางจิตภายใน 6 เดือนหลังหายจากอาการป่วย นักวิทยาศาสตร์ยังระบุว่า อาการผิดปกติดังกล่าวพบในกลุ่มผู้ป่วยที่หายจากโรคโควิด-19 มากกว่ากลุ่มผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่หรือติดเชื้อในระบบหายใจในช่วงเวลาเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญ และชี้ให้เห็นว่าโรคโควิด-19 ส่งผลให้เกิดอาการดังกล่าวอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ร้อยละ 17 เป็นโรควิตกกังวล และร้อยละ 14 เป็นโรคผิดปกติทางอารมณ์ ซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าว และไม่พบความเชื่อมโยงกับระดับความรุนแรงของอาการป่วยแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญอิสระหลายรายต่างรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการศึกษาดังกล่าว นายไซมอน เวสเซลี ผู้อำนวยการสถาบันจิตเวชของมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจลอนดอนให้ความเห็นว่า ผลการศึกษาดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นข้อพิสูจน์ที่ไร้ข้อกังขาว่า โรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อสมองและจิตใจในระดับเท่า ๆ กัน ด้านนายลีอา มิลลิแกน ผู้บริหารระดับสูงของเอ็มคิว เมนทัล เฮลท์กล่าวว่า โรคโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพจิตของแต่ละคน ซึ่งมีส่วนทำให้ระดับอาการป่วยทางจิตเพิ่มสูงขึ้น และจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมโดยด่วน.-603