อัลมาตี 12 ม.ค.- ทางการเมืองอัลมาตี เมืองใหญ่ที่สุดของคาซัคสถานควบคุมตัวประชาชนอีก 1,678 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าเข้าร่วมเหตุไม่สงบที่สั่นคลอนประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน และเป็นเหตุรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ประกาศตัวเป็นเอกราชเมื่อ 30 ปีก่อน ยอดผู้ถูกควบคุมตัวรายใหม่ทำให้คาซัคสถานควบคุมตัวประชาชนรวมแล้วประมาณ 12,000 คน และเปิดการสอบสวนคดีอาญามากกว่า 300 คดีต่อการก่อเหตุไม่สงบครั้งใหญ่และการทำร้ายเจ้าหน้าที่ การชุมนุมประท้วงไม่พอใจราคาเชื้อเพลิงแพงเมื่อวันที่ 2 มกราคมได้ลุกลามไปทั่วประเทศ สะท้อนถึงความไม่พอใจรัฐบาลที่ปกครองประชาชน 19 ล้านคนด้วยระบอบเบ็ดเสร็จ ทางการหาทางคลายความไม่พอใจด้วยการจำกัดเพดานราคาเชื้อเพลิงเป็นเวลา 180 วัน คณะรัฐมนตรีลาออกทั้งชุด และปลดอดีตประธานาธิบดีนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ วัย 81 ปี ที่ปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2533-2562 พ้นจากตำแหน่งประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปและกลายเป็นความรุนแรง ผู้ประท้วงเผาที่ทำการรัฐบาลในเมืองอัลมาตีที่เป็นเมืองหลวงเก่า ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟของคาซัคสถานโทษว่า เหตุไม่สงบเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายที่มีต่างชาติสนับสนุน และได้ขอให้องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมหรือซีเอสทีโอ (CSTO) ประกอบด้วย 6 ประเทศที่เป็นอดีตรัฐในสหภาพโซเวียตนำโดยรัสเซียส่งกำลังพล 2,500 นาย มาช่วยรักษาความสงบ ผู้นำคาซัคสถานเผยเมื่อวานนี้ว่า ซีเอสทีโอจะเริ่มถอนกำลังพลในสัปดาห์นี้ เนื่องจากปฏิบัติภารกิจสำเร็จแล้ว และสถานการณ์ในคาซัคสถานกลับมามีเสถียรภาพแล้ว.-สำนักข่าวไทย