ออสเตรเลียเข้มงวดมากขึ้นในการคุมโควิด

ซิดนีย์ 2 ส.ค. – รัฐควีนส์แลนด์ ของออสเตรเลีย ขยายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเมืองบริสเบนในวันนี้ ในขณะที่ทหารเริ่มการลาดตระเวนในนครซิดนีย์ เพื่อบังคับใช้ระเบียบให้อยู่ภายในบ้าน ในขณะที่ออสเตรเลียกำลังพยายามหาทางควบคุมการระบาดของโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา


รัฐควีนส์แลนด์กล่าวว่า ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในท้องถิ่น 13 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดเป็นสถิติใหม่ในรอบปี มาตรการล็อกดาวน์ที่เมืองบริสเบน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของออสเตรเลีย มีกำหนดจะสิ้นสุดในวันอังคารแต่จะยังคงบังคับใช้ต่อไปจนถึงวันอาทิตย์ สตีเว่น ไมลส์ รองมุขมนตรีของรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่ ขณะนี้เริ่มเห็นได้ชัดเจนเรื่อย ๆ ว่า การล็อกดาวน์ในระดับต้น ไม่เพียงพอในการควบคุมการระบาด การที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นในออสเตรเลียทำให้กระแสต่อต้านนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน ในเรื่องการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ดังขึ้นเรื่อย ๆ ออสเตรเลียอยู่ในสภาพล็อกดาวน์สลับไปมาหลายครั้งในเมืองต่าง ๆ หลังจากพบการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ที่ติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะมีการล็อกดาวน์ซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อไปจนกว่าออสเตรเลียจะฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรทั้งหมดได้มากกว่านี้ นายมอร์ริสัน กล่าวให้คำมั่นว่า มาตการล็อกดาวน์จะมีน้อยลงเมื่อออสเตรเลียฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยในขณะนี้ฉีดวัคซีนไปได้เพียงร้อยละ 19 นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคาดหมายจะบรรลุเป้าหมายเรื่องการฉีดวัคซีนภายในสิ้นปีนี้

มาตการล็อกดาวน์ในเมืองบริสเบนในพื้นที่รอบ ๆ เกิดขึ้นในขณะที่นครซิดนีย์ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย เริ่มบังคับใช้คำสั่งให้อยู่ภายในบ้านเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งนครซิดนีย์ตั้งอยู่ กล่าววันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 207 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขสูงระดับนี้มาตั้งแต่เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว รัฐนิวเซาท์เวลส์ ขอให้กองทัพมาช่วยในการบังคับใช้กฎห้ามออกจากบ้าน และในวันนี้ ทหารราว 300 นาย ซึ่งไม่ได้ติดอาวุธและปฎิบัติตามคำสั่งของตำรวจ เริ่มตระเวนไปตามบ้านเพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ที่ผลการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นบวกจะแยกกักตัวในบ้าน นอกจากนั้น ยังลาดตระเวนพร้อมกับตำรวจตามถนนในนครซิดนีย์ และสอบถามประชาชนที่พบตามถนนถึงเหตุผลที่ออกมาเดินตามถนนไม่อยู่ภายในบ้าน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น