จับตาการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา พรุ่งนี้ (4 ส.ค.)

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – พรุ่งนี้ (4 ส.ค.) จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ จากเดิมจะประชุมที่กัมพูชา แต่ทางการไทยขอให้เปลี่ยนสถานที่เป็นมาเลเซีย ทางกัมพูชาก็ขอให้มีผู้ร่วมสังเกตการณ์ คือ จีน และสหรัฐ ซึ่งทางการไทยตอบรับ การประชุมวันพรุ่งนี้จะนำไปสู่การแก้ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาได้อย่างไร ฟังการวิเคราะห์จาก รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง .-สำนักข่าวไทย

สดุดี-บำรุงขวัญวีรบุรุษของแผ่นดิน

3 ส.ค. – วันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) กระบวนการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา จะเกิดขึ้นอีกครั้งที่มาเลเซีย หลายฝ่ายคาดหวังจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเติม เพื่อต่อยอดหลังการหยุดยิง วันนี้จะพาไปติดตามภาพรวมขวัญกำลังใจทหารไทยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

โฆษกรัฐบาลยันไทยมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนเข้มงวด

ทำเนียบฯ 3 ส.ค. – โฆษกรัฐบาลอัด “พล.ท.มาลี” เบี่ยงเบนกล่าวหา ยันไทยมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนเข้มงวด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน ด้านกองทัพแจ้ง 20 จังหวัด หากพบการบินโดรนจัดการเต็มที่ เมื่อเวลา 12.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวว่า รัฐบาลไทยขอเตือนกองกำลังของกัมพูชาที่ใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บินเข้ามาในอาณาเขตอธิปไตยของประเทศไทย จะดำเนินการทำลายทันทีเมื่อรุกล้ำอธิปไตย รัฐบาลไทยโดยกองทัพบก และฝ่ายความมั่นคง ได้ยกระดับมาตรการแอนตี้โดรนอย่างเป็นรูปธรรม ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 20 จังหวัด ผ่านระบบ VTC เพื่อกำชับมาตรการป้องกันและควบคุมการใช้โดรนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณศาลากลางจังหวัด คลังอาวุธ สถานีขนส่ง สถานีตำรวจ สนามกีฬา และสนามบินโดยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดบูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาคเอกชน และประชาชน ในการดำเนินการแอนตี้โดรน และจัดตั้งชุดลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย รวมถึงดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย หากพบพฤติการณ์ที่เข้าข่ายก่อการร้ายหรือเป็นสายลับ ซึ่งมีโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต […]

“นพดล” เสนอ 5 แนวทางแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา

พรรคเพื่อไทย 3 ส.ค. – “นพดล” เสนอ 5 แนวทางแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา มองการทูตต้องรวดเร็ว ตอกย้ำความชอบธรรมของไทย นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ตลอดจนแนวทางการนำสันติภาพกลับมาสู่ชายแดนว่า ภายหลังการหยุดยิง เป้าหมายและยุทธศาสตร์ที่จะดำเนินไปในการเจรจาเพื่อนำสันติสุขกลับมาบริเวณชายแดนนั้น ตนขอเสนอดังนี้ 1.ต้องเน้นการพูดที่กระชับรวดเร็ว Diplomacy of speed โดยเน้นการสื่อสารทางการทูต จุดยืนกฎหมายระหว่างประเทศและท่าทีของไทยให้รวดเร็วมากขึ้น และต้องรวดเร็วและแม่นยำกว่ากัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศมีศักยภาพที่จะทำได้2.ต้องเน้นยุทธศาสตร์สร้างความชอบธรรมให้ประเทศไทยในเวทีโลกอย่างเข้มข้น เเข็งขันต่อเนื่อง เพราะเราเป็นประเทศมหาอำนาจขนาดกลาง ต้องเน้นกฎหมายระหว่างประเทศและความชอบธรรมเป็นหลังพิง แต่ก่อนอาจมีคำกล่าวว่า Might is right ก็คือพลังอำนาจ คือความถูกต้อง แต่ปัจจุบันตนคิดว่า Right is might ความถูกต้องเป็นพลังอำนาจ3.ทางการทูตต้องตอกย้ำความชอบธรรมของไทยใน 5 ประเด็นอย่างต่อเนื่อง คือ ไทยมุ่งแก้ปัญหาโดยสันติวิธีด้วยการเจรจาทวิภาคีตามกรอบ MOU 2543 ไม่ประสงค์ที่จะให้มีการยกระดับไปเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชาไม่ทำตามข้อผูกพัน, กัมพูชาเป็นฝ่ายวางกับระเบิดละเมิดอนุสัญญาออตตาวา, กัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกรานไทย ฝ่าฝืนกฎบัตรสหประชาชาติ ไทยเพียงใช้สิทธิป้องกันตนเอง, กัมพูชายิงระเบิดใส่เป้าหมายทางพลเรือน […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

Elephant in Surin Province with mahout

สื่อจีนรายงานผลกระทบท่องเที่ยวสุรินทร์

สุรินทร์ 3 ส.ค. – สื่อทางการจีนรายงานว่า การท่องเที่ยวในจังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจท่องเที่ยวเกี่ยวกับช้าง ยังคงได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งและการปะทะกันตามแนวพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชา สถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ของทางการจีนรายงานว่า ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งแม้ว่าได้ยุติลงชั่วคราวจากข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อจังหวัดสุรินทร์ของไทย ที่ซึ่งช้างซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวท้องถิ่นกำลังแบกรับภาระหนัก   รายงานระบุว่า สัตว์ที่มีตัวใหญ่ยักษ์อย่างช้าง มีความอ่อนโยนอย่างมาก อีกทั้งยังไวต่อเสียงและแรงสั่นสะเทือน จึงได้รับผลกระทบอย่างมากจากเสียงปืนใหญ่และเสียงคำรามของยานพาหนะทางทหารที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ควาญช้างในพื้นที่เล่าว่า ช้างเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัว อยู่กันมาตั้งแต่ช้างลืมตาดูโลก เมื่อใดก็ตามที่เกิดระเบิดขึ้นใกล้ ๆ ช้างจะตกใจมาก และจะร้องไห้ แสดงปฏิกิริยาเหมือนคน ซีจีทีเอ็นรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวท้องถิ่นกล่าวว่า ช้างเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนจังหวัดสุรินทร์ ทำให้จังหวัดนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทุกงานทุกเทศกาลต่าง ๆ ในจังหวัดสุรินทร์ ล้วนมีช้างเป็นสัตว์อยู่ในงานด้วย นอกจากความสำคัญทางวัฒนธรรมแล้ว ช้างยังเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจจังหวัดสุรินทร์ เพราะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เน้นไปที่ปางช้าง เส้นทางขี่ช้างเที่ยว และการแสดงต่าง ๆ ช่วยเกื้อหนุนชีวิตความเป็นอยู่ของชาวสุรินทร์หลายพันครอบครัว แต่เมื่อเกิดการปะทะตามพรมแดนที่อยู่ใกล้กับสุรินทร์ ทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทาง เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย.-815(814).-สำนักข่าวไทย

รวมข่าวปลอมเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

03 สิงหาคม 2568แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ ในเหตุปะทะทางชายแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2025 มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางฝั่งประเทศกัมพูชาเพื่อดิสเครดิตประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นี้คือส่วนหนึ่งของข้ออ้างจากกัมพูชาและต่างประเทศที่ยืนยันได้ว่าเป็นข้อมูลเท็จ ข้ออ้าง 1 คลิปเครื่องบิน F 16 ของกองทัพไทยถูกยิงตกในฝั่งกัมพูชา สรุป ภาพการทำสงครามในต่างประเทศ คลิปดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์สู้รบระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนเมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา ข้ออ้าง 2 คลิปการยิงขีปนาวุธจากฝั่งกัมพูชามายังประเทศไทย สรุป ภาพการทำสงครามในต่างประเทศ คลิปดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าเป็นคลิปการยิงขีปนาวุธจากเมืองดอนบาส ประเทศยูเครนเมื่อต้นปี 2025 ที่ผ่านมา ข้ออ้าง 3 พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา อ้างว่ามีภาพยืนยันว่าไทยใช้เครื่องบินพ่นก๊าซพิษใส่ประชาชนชาวเขมร สรุป เหตุการณ์เก่าจากต่างประเทศ การตรวจสอบพบว่า ภาพดังกล่าว แท้จริงแล้วคือภาพการใช้เครื่องบินพ่นสารดับไฟ เพื่อการดับไฟป่าในลอส แอนเจลิส เมื่อเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา ข้ออ้าง 4 ระบุนักบิน F 16 ที่สังหารชาวเขมร สรุป ภาพนักแสดงชาวไทยจากละครโทรทัศน์ […]

เพื่อนบ้านหลั่งน้ำตา วางดอกไม้ไว้อาลัยเหยื่อจรวด BM-21 ตกใส่ปั๊ม

ศรีสะเกษ 2 ส.ค.-เพื่อนบ้านหลั่งน้ำตา วางดอกไม้ไว้อาลัยให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย จากเหตุกัมพูชายิงจรวดใส่ปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะที่ศูนย์พักพิงจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ เรียกขวัญกำลังใจให้กับผู้อพยพ ชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆ ในอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ร่วมกันวางดอกไม้ไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมันบ้านผือ ที่ถูกกัมพูชา โจมตีโดยการยิงจรวด BM-21 ใส่ เมื่อวันที่24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีก 15 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีแม่และลูกวัย 8 ขวบ ท่ามกลางความโศกเศร้า นอกจากชาวบ้านแล้วยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ที่มาร่วมวางดอกไม้แสดงความไว้อาลัย โดยก่อนการวางดอกไม้ ได้ร่วมกันเขียนข้อความแสดงความไว้อาลัย และชูข้อความพร้อมดอกไม้ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ว่าการที่ทหารกัมพูชาโจมตีพื้นที่พลเรือนถือเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม ขอให้ผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี พร้อมขอประณามกัมพูชา ที่เลือกยิงเป้าหมายเป็นประชาชน ทั้งที่ตำบลเมืองถือเป็นพื้นที่สีเขียว แต่ยังมีกระสุนตกใส่ หากตกใส่หมู่บ้าน เชื่อว่าจะมีความสูญเสียเกิดขึ้นมากกว่านี้ ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ที่มาร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยด้วย พวกเธอเล่าทั้งน้ำตาบอกว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนดี เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน เจอหน้ากันทุกวัน ลูกสาวยังเป็นเพื่อนกันอีกด้วย ตอนทราบข่าวรู้สึกตกใจ เสียใจ […]

ทำลายหัวจรวด BM-21 ลูกที่ 6 จ.อุบลราชธานี

อุบลราชธานี 2 ส.ค.-เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวจรวด BM-21 ลูกที่ 6 ที่ทหารกัมพูชายิงเข้ามาตกในหมู่บ้าน อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี จุดนี้อยู่บริเวณสวนยางพารา ในอำเภอน้ำขุ่น จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD พบหัวจรวด BM-21 ยังสมบูรณ์ ยังไม่ทำงาน ไม่ระเบิด โดยส่วนหัวทิ่มลงในดิน เหลือแต่ท่อนท้ายโผล่ขึ้นมาประมาณ 3 นิ้ว เจ้าหน้าที่ระบุว่า อันตรายกว่าทุกจุดที่ผ่านมา ขอให้ทุกคนปิดโทรศัพท์มือถือ และถอยห่างออกจากพื้นที่ประมาณ 200 เมตร หาที่กำบัง จากนั้นได้นำยางรถบรรทุกเก่าวางซ้อนตั้งขึ้นที่ปากหลุมถึง 4 เส้น ก่อนจะโยงสายชนวน และนำระเบิดซีโฟร์ขนาด 3 ปอนด์ไปวางในหลุมหัวจรวด ต่อสายชนวนไฟฟ้าลากมาไกลประมาณ 150 เมตร จากนั้นจึงจุดชวนทำลายหัวจรวดได้สำเร็จ แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมกว้าง 4 เมตรความลึกลงไปในดิน 4 เมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำลายหัวจรวด BM-21 ลักษณะเดียวกันนี้ ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกในจังหวัดอุบลราชธานี 5 ลูก […]

รองโฆษกรัฐบาล ประฌามกัมพูชาไม่ใส่ใจศพทหารของตนเอง

ทำเนียบ 2 ก.ค.-รองโฆษกรัฐบาล ประฌามกัมพูชาไม่ใส่ใจศพทหารของตนเอง ขณะที่รัฐบาลไทยประกาศสดุดีวีกรรม พร้อมเชิดชูทหารไทยคือศักดิ์ศรีของชาติ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียด ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักแห่งความเป็นหนึ่งเดียวของชาติ ซึ่งสะท้อนผ่านพลังของประชาชนที่พร้อมยืนหยัดร่วมกัน สนับสนุน รัฐบาลโดยกองทัพไทย บุคลากรทุกหน่วย และให้เกียรติแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องแผ่นดินอย่างสูงสุดสมเกียรติ “สิ่งที่ประเทศไทยมี และเป็นจุดแข็งที่ไม่มีใครพรากไปได้ คือความรักชาติของคนไทย ความสามัคคีของคนในชาติที่ไม่สั่นคลอน และความศรัทธาอย่างลึกซึ้งต่อทหารผู้เสียสละในแนวหน้า ซึ่งเป็นเกราะปกป้องประเทศในยามวิกฤต” รองโฆษกรัฐบาล กล่าว นางสาวศศิกานต์ กล่าวว่า การที่กัมพูชาปฏิเสธว่าร่างทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะตามแนวชายแดน “ไม่ใช่ทหารของตน” เป็นการลดทอนเกียรติภูมิของผู้เสียสละอย่างไร้ยางอาย ต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในคุณค่าของความเสียสละ และเชิดชูเกียรติทหารในฐานะผู้ปกป้องแผ่นดิน ผู้เป็นหลักชัยแห่งศักดิ์ศรีของชาติ “รัฐบาลขอยืนยันว่า ทหารไทยทุกนาย และประชาชนผู้เสียสละ คือสัญลักษณ์ของเกียรติภูมิ ความมั่นคง และเอกราชของชาติ การยืนหยัดของพวกเขาคือพลังของประเทศ และจะได้รับการยกย่องด้วยเกียรติยศสูงสุดจากแผ่นดินไทยอย่างสมศักดิ์ศรี“ นางสาวศศิกานต์ กล่าว.-315.-สำนักข่าวไทย

1 11 12 13 14 15 119
...