เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]

“ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC บอกทิศทางดี

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC ไทย-กัมพูชา ขอพูดทีเดียวหลังเจรจา บอกทิศทางดี ด้าน “บิ๊กเล็ก” หวังพรุ่งนี้มีข่าวดี มั่นใจ 90% ยอมรับกังวลบ้าง แต่มีผู้สังเกตการณ์ประเทศอื่น เขมรคงไม่กล้า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ฝ่ายเลขานุการ รายงานผลการหารือ ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม จากการพูดคุยมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี โดยจะแถลงรายละเอียดเมื่อมีการหารือเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.68) ซึ่งการเจรจาในวันพรุ่งนี้ได้ให้แนวทาง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าในการหารือครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบได้ ด้านพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประขุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า มีความมั่นใจ […]

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

จีน-ญี่ปุ่นปฏิเสธข่าวบริจาคโดรนให้กัมพูชา-ไทย

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – จีนปฏิเสธข่าวที่ว่าได้บริจาคโดรนให้กัมพูชา เพื่อใช้ตามแนวชายแดน ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดหาอากาศยานต่อสู้ไร้คนขับ ให้กับประเทศไทย เฟซบุ๊กของสถานทูตจีนประจำประเทศไทยโพสต์ข้อความระบุว่า โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ว่ามีรายงานข่าวจากบางสำนักอ้างว่าจีนได้บริจาคโดรนให้แก่กัมพูชา เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยระบุว่าจากการตรวจสอบแล้วขอยืนยันว่ารายงานข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ภาพที่ถูกนำไปใช้ในรายงานข่าวเหล่านั้นเป็นภาพที่ถ่ายในระหว่างงานสาธิตการบิน ซึ่งจัดโดย “บริษัท ไชนา เนชั่นแนล แอโร-เทคโนโลยี อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต คอร์ปอเรชั่น” (China National Aero-Technology Import & Export Corporation) หรือ “แคทิค” (CATIC) ในกัมพูชาเมื่อเดือนมกราคม 2024 และไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแต่อย่างใด ฝ่ายจีนขอยืนยันอีกครั้งว่านับตั้งแต่ความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาปะทุขึ้น จีน ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดความตึงเครียดด้วยวิธีการของตนเอง จีนไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ จากเรื่องนี้ และสนับสนุนให้อาเซียนในการอำนวยความสะดวกเพื่อหาทางออกทางการเมืองสำหรับสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาผ่านแนวทางของอาเซียน จีนพร้อมที่จะสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับประเทศในภูมิภาค ได้แก่ ไทย กัมพูชา และมาเลเซีย เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการเสริมสร้างการหยุดยิงให้มีความมั่นคงและฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด ในขณะเดียวกันสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกรุงพนมเปญของกัมพูชา ออกแถลงการณ์เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา ชี้แจงข่าวลือที่แพร่กระจายในขณะนี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะจัดหาโดรนรบให้กับประเทศไทย สถานทูตฯ ขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และขอชี้แจงอย่างชัดเจนว่าทางการญี่ปุ่นไม่เคยมีแผนที่จะมอบอุปกรณ์ประเภทนี้ให้แก่ไทย […]

สิงคโปร์ว่าเหตุปะทะไทย-กัมพูชาเป็นความถดถอยของอาเซียน

สิงคโปร์ 6 ส.ค. – นายวิเวียน บาลากริชนัน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า เหตุปะทะด้วยระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นล่าสุด ไม่เพียงแต่เป็นความถดถอยสำหรับสันติภาพในภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความน่าเชื่อถือของอาเซียนด้วย ปัญหาเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้นได้จุดประเด็นคำถามเกี่ยวกับความสามารถของอาเซียนในการป้องกันและการจัดการกับวิกฤติการณ์และนายบาลากริชนันกล่าวว่า แม้ปัญหาเรื่องดินแดนดังกล่าวจะไม่ใช่เรื่องแปลกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เขาก็เน้นย้ำว่าความรุนแรงเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ นายบาลากริชนันกล่าวว่า เมื่อมีความรุนแรงเกิดขึ้น เป็นการสะท้อนถึงความล้มเหลวของความเป็นผู้นำ เขายังเตือนไม่ให้ปล่อยให้เรื่องต่างๆ เลวร้ายลงจนกลายเป็นเหตุวิกฤติร้ายแรง เนื่องจากภูมิภาคนี้กำลังเผชิญกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจโลกที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ นายบาลากริชนัน กล่าวเรื่องนี้ในเวทีการประชุมอาเซียนและเอเชียครั้งที่ 17 ซึ่งจัดโดยสถาบันกิจการระหว่างประเทศแห่งสิงคโปร์ในวันที่ 5 สิงหาคม โดยเขาอธิบายว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยเป็นความเสียหายร้ายแรงสำหรับกลุ่มอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์กล่าวต่อผู้ฟังซึ่งประกอบด้วยนักการทูต นักวิชาการ และผู้นำทางธุรกิจประมาณ 300 คนที่โรงแรมพาร์ครอยัล บีชโร้ดว่า “ไม่จำเป็นต้องพูดให้ดูดีกว่าความเป็นจริง นี่คือความถดถอย ความถดถอยครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่เพื่อสันติภาพและเสถียรภาพเท่านั้น แต่เพื่อความน่าเชื่อถือในอาเซียนด้วย” เขากล่าวว่า ประเทศในภูมิภาคนี้อยู่กับข้อพิพาทด้านดินแดนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขมานาน ซึ่ง นายบาลากริชนันกล่าวย้ำว่าการมีอยู่ของข้อพิพาทเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนำไปสู่ความรุนแรงเสมอไป แค่มีพื้นที่ที่ยังไม่ได้กำหนดขอบเขตหรือกำลังมีข้อพิพาท ไม่ได้หมายความว่าจะต้องนำไปสู่ความรุนแรง และความจริงที่ว่าความรุนแรงเกิดขึ้นเป็นความล้มเหลวทางการทูต และอาจมีความซับซ้อนเมื่อความเป็นผู้นำมีความอ่อนแอ นายบาลากริชนันกล่าวว่า ทางแก้คือให้ประเทศต่างๆ ดูแลสังคมของตนเองก่อน ซึ่งเป็นประเด็นที่เขามักจะเน้นย้ำโดยกล่าวว่านโยบายต่างประเทศเริ่มต้นจากภายในประเทศ เขาตั้งข้อสังเกตว่าการต่อต้านโลกาภิวัตน์และการค้า รวมถึงการใช้อัตราภาษีและห่วงโซ่อุปทานเป็นเครื่องมือ มักมีต้นกำเนิดมาจากความไม่มั่นคงภายในและการขาดความเชื่อมั่นว่าระบบที่มีอยู่ เขาระบุว่า หากแนวรบภายในประเทศไม่สงบ […]

“ภูมิธรรม” รับสั่งการที่ประชุม ครม. ฟ้อง​ “แพ่ง-​อาญา” กัมพูชา

ทำเนียบ 6 ส.ค.-“ภูมิธรรม” รับสั่งการที่ประชุม ครม.วานนี้​ มอบหน่วยงานเกี่ยวข้องเล็งฟ้อง​ “แพ่ง-​อาญา” กัมพูชา​ เหตุก่ออาชญากรรม​ร้ายแรง​ ย้ำ​ไม่ใช่การฟ้องศาลโลก​ ยังตอบไม่ได้ GBC จบหรือไม่ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงข้อสังการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​วานนี้ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทั้งทางแพ่งและทางอาญา​ ว่า​ เราจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูเนื่องจากเป็นการก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรง ไม่ใช่เป็นการฟ้องศาลโลก แต่ให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ​ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย​ รวมถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าไปดูว่าจะสามารถ ใช้ช่องทางใดในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทางกัมพูชา ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ​ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย จากการรายงานของเจ้าหน้าที่มีแนวโน้มเป็นเช่นไร​ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า แนวโน้มยังไม่ทราบ​ อยู่ที่ข้อเท็จจริง​ เนื่องจากขณะนี้ยังคุยไม่จบ เอาไว้คุยให้จบ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในการประชุมวันพรุ่งนี้ จะได้ข้อยุติหรือไม่ หรือยังต้องคุยกันอีก นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่ทราบ.-314.-สำนักข่าวไทย

คนกัมพูชาหันไปใช้สินค้าในประเทศแทนสินค้าไทย

พนมเปญ 6 ส.ค. – ผู้บริโภคชาวกัมพูชา เปลี่ยนไปใช้บริการสินค้าท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกแทนสินค้าไทย หลังเกิดการปะทะทางทหารบริเวณพรมแดนระหว่างกัมพูชากับไทย ผู้บริโภคชาวกัมพูชา กำลังหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและมองหาทางเลือกอื่นแทนสินค้าไทย นับตั้งแต่เกิดการปะทะระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศตามแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาท เมื่อ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยในกรุงพนมเปญ ร้านกาแฟท้องถิ่นคึกคักไปด้วยลูกค้า ต่างจากร้านกาแฟไทยชื่อดังซึ่งเคยเป็นที่นิยมของชาวกัมพูชาในเมืองหลวง แต่ตอนนี้แทบไม่มีลูกค้าเข้าใช้บริการ ในช่วงหลายปีมานี้ สินค้าแบรนด์ไทยขยายตัวอย่างรวดเร็วในกัมพูชา โดยมีสถานีบริการน้ำมันกว่า 180 แห่ง, ร้านกาแฟกว่า 250 แห่ง ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารกว่า 100 แห่งที่บริษัทไทยเป็นเจ้าของ ทั้งหมดนี้ล้วนพบว่าจำนวนผู้บริโภคลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวกัมพูชาหลายคนบอกว่า พวกเขาเริ่มหันมาอุดหนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศมากขึ้น จากปัญหาความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย หลายคนบอกว่าตอนนี้ไม่อยากอุดหนุนสินค้าไทย อยากใช้ของกัมพูชามากกว่า และหวังว่าสินค้ากัมพูชาจะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น ส่วนผู้ค้าปลีกและผู้นำเข้าสินค้าในท้องถิ่นบอกว่า พวกเขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคเช่นกัน พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตรายหนึ่งบอกว่า เมื่อก่อนลูกค้ามองหาสินค้าไทย แต่ตอนนี้พวกเขาเริ่มมองหาสินค้ากัมพูชาและสนับสนุนสินค้ากัมพูชามากขึ้น ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งบอกว่า จะปรับเปลี่ยนการจำหน่ายสินค้าเพื่อสนับสนุนสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นให้มากขึ้น หลังจากการประชุมนัดพิเศษที่มีนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา กัมพูชาและไทยตกลงที่จะหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขมีผลบังคับใช้ในเวลาหลังเที่ยงคืนวันดังกล่าว ยุติการปะทะกันนาน 5 วัน.-815.-สำนักข่าวไทย

จีนเดินหน้าหนุนพลิกฟื้นสัมพันธ์ ‘ไทย-กัมพูชา’

ปักกิ่ง 6 ส.ค. – นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าววันอังคารว่าจีนจะยังคงสนับสนุนอาเซียนในการส่งเสริมการเจรจาเพื่อสันติภาพ พร้อมดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในแบบของตนเองเพื่อการพลิกฟื้นความสัมพันธ์กัมพูชา-ไทย สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มีการจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี (GBC) ระหว่างกัมพูชากับไทยที่มาเลเซียในวันที่ 4-7 ส.ค. โดยจีนได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมวิสามัญของการประชุมคณะกรรมการดังกล่าวในวันที่ 7 ส.ค. นี้ นายกัวกล่าวว่าไม่มีการต่อสู้ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย นับตั้งแต่การหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างจีน กัมพูชา กับไทยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. โดยสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มคลี่คลาย ขณะกัมพูชาและไทยดำเนินการหยุดยิงอย่างค่อยเป็นค่อยไป กัมพูชาและไทยจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปภายใต้การประสานงานเชิงรุกของมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียน เพื่อการสื่อสารหลายระดับผ่านช่องทางต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนากลไกเฝ้าติดตามการหยุดยิง ซึ่งเกื้อหนุนการยุติการสู้รบอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยจีนชื่นชมและยินดีกับสิ่งนี้ จีนยังคงรักษาการสื่อสารใกล้ชิดกับกัมพูชาและไทย รวมถึงมาเลเซียและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการหยุดยิง การสื่อสาร และการเจรจา ตลอดจนช่วยลดทอนความรุนแรงของสถานการณ์ตามเจตจำนงของกัมพูชาและไทย จีนจะยังคงสนับสนุนอาเซียนในการส่งเสริมการเจรจาเพื่อสันติภาพ รักษาจุดยืนอันเป็นธรรมและยุติธรรม และดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในแบบของตนเอง เพื่อการพลิกฟื้นความสัมพันธ์กัมพูชา-ไทย.-813.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : เสียงปืนสงบ แต่กัมพูชาไม่นับศพทหาร

5 ส.ค. – ในการโจมตีไทย กัมพูชาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายครั้ง พอหลังหยุดยิงยังเกิดปัญหาเกี่ยวกับศพทหารที่ถูกทิ้งคาสนามรบ รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปติดตามว่า การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายอาชญากรรมสงครามอย่างไร ทหารผู้พลีชีพในสนามรบ ไม่ว่าฝ่ายไหนสมควรได้รับคำยกย่องและให้เกียรติ อย่างน้อยจากผู้บังคับบัญชาที่มอบหมายหน้าที่ แต่ขณะนี้มีร่างทหารกัมพูชามากมายที่ถูกทอดทิ้งมานาน บริเวณชายแดนได้กลายเป็นอีกปมปัญหาเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทหารกัมพูชาเหล่านี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจังหวัดอุดรมีชัย พวกเขายินดีที่รอดชีวิต จนกระทั่งมีข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเพื่อนทหารของพวกเขาที่ไม่ได้กลับออกมาจากสนามรบ กำลังกลายเป็นปมปัญหาใหญ่บนชายแดน รัฐบาลกัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้ศพทหารเป็นเครื่องมือในสงครามจิตวิทยา และหันเหเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความล้มเหลวของกองทัพไทย รวมไปถึงใช้กลบเกลื่อนการสูญเสียกำลังพลและเป็นฝ่ายที่ทอดทิ้งร่างของทหาร เพราะเกรงว่าจะถูกครอบครัวผู้เสียชีวิตกล่าวโทษ ส่วนฝ่ายไทยในทุกระดับได้ดำเนินการตั้งแต่แจ้งเตือน เรียกร้อง ไปจนถึงประณามการเพิกเฉยในการดูแลร่างทหารผู้เสียชีวิตที่สมควรได้รับการดูแลตามหลักกฎหมายมนุษยธรรม การปฏิบัติต่อทหารผู้วายชนม์ในการสู้รบ มีหลักการ กฎหมาย และพิธีสารที่ครอบคลุม ให้คู่กรณีนำศพของผู้เสียชีวิตกลับไปสู่ครอบครัวหรือญาติมิตร อนุสัญญาเจนีวา มีหลักปฏิบัติต่อผู้เสียชีวิตจากการสู้รบ ตั้งแต่การค้นหาผู้ตายและป้องกันมิให้ร่างถูกทำลาย คู่พิพาทจะต้องทำบันทึกรูปพรรณผู้ตาย ร่างผู้เสียชีวิตต้องได้รับการปฏิบัติอย่างสมเกียรติ ถ้าเป็นไปได้ให้เป็นไปตามพิธีศาสนาของผู้เสียชีวิต ห้ามแยกชิ้นส่วนและห้ามทอดทิ้งร่าง คู่พิพาทแต่ละฝ่ายจะต้องอำนวยความสะดวก และพิทักษ์ร่างผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้ง จากการปฏิบัติมิชอบ นอกจากนั้นพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 1 กำหนดรายละเอียดการค้นหาและป้องกันร่างผู้เสียชีวิต กฎหมายและพิธีสารเหล่านี้ยึดมั่นถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งศาลอาญาระหว่างประเทศเคยมีคำวินิจฉัยว่า การกระทำที่เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีชีวิตหรือเสียชีวิตแล้ว ถือว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามหลายประเทศได้นำหลักกฎหมายเหล่านี้บรรจุในคู่มือทางทหารที่ยึดถือกันด้วย ที่ผ่านมาแม้ฝ่ายไทยชี้ว่ารัฐบาลและกองทัพกัมพูชา เพิกเฉยและละเมิดการปฏิบัติต่อศพทหารของตนเอง ที่ละเมิดกฎหมายและขัดกับหลักศีลธรรม […]

กัมพูชาไม่สนสัญญาการค้าเปลี่ยนแบรนด์ PTT Station

กรุงเทพฯ 5 ส.ค.- ปั๊มน้ำมัน PTT Station ในกัมพูชาถูกเปลี่ยนเป็นแบรนด์อื่น โดยไม่สนใจสัญญาการค้าทางกฎหมาย แหล่งข่าวจาก บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน)หรือ OR เปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าของสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ในกัมพูชาร่วมกลุ่มยกเลิกสัญญาตัวแทนจำหน่ายกับบริษัท PTT (Cambodia) ยกเลิกการใช้แบรนด์ PTT เปลี่ยนเป็นแบรนด์ใหม่ของกัมพูชา จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาว่า หากเจ้าของสถานีบริการ ในกัมพูชาต้องการยกเลิกสัญญานั้น จะต้องทำตามเงื่อนไขแจ้งยกเลิกสัญญา 6เดือนล่วงหน้า หากมีปลดป้ายPTTก่อนกำหนด ถือว่าผิดเงื่อนไขที่ทำไว้ ORจะมีการปกป้องสิทธิภายใต้สัญญาดังกล่าวซึ่งการปะทะตามชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของORน้อยมาก เนื่องจากจำนวนสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ในกัมพูชาอยู่ที่ 186 แห่งเทียบจำนวนปั๊ม PTT Station ในไทยที่มีอยู่ราว 2,300 แห่ง หนังสือพิมพ์ Kampuchea Thmey Daily ของกัมพูชา รายงานผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ (3 ส.ค.) ว่า เจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันส่วนใหญ่ที่ซื้อสิทธิ์การใช้แบรนด์ PTT (Cambodia) ได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญาตัวแทนจำหน่าย […]

เดินหน้าถก GBC ที่มาเลเซีย ชี้กัมพูชาต้องหยุดยิงถาวร

ทำเนียบ 5 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยไทยเดินหน้าหารือต่อเนื่อง GBC ที่มาเลเซีย ชี้กัมพูชาต้องหยุดยิงถาวร มั่นใจรัฐบาลยึดหลักกฎหมาย ผลประโยชน์ชาติและศักดิ์ศรีไทยไม่ยอมให้ใครมารุกราน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการ ศบ.ทก. เผยถึงการประชุมเลขานุการคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) ของฝ่ายไทย ที่เริ่มขึ้นในวันนี้เป็นวันที่สอง เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นมาเลเซีย ซึ่งเป็นการหารือเชิงเทคนิคและความมั่นคงกับฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืน ทั้งนี้การหารือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อวางแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้เกิดเสถียรภาพในระยะยาว โดยเฉพาะการยุติการกระทำที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่ พร้อมยกระดับมาตรการคุ้มครองประชาชนในพื้นที่ให้มีความปลอดภัยสูงสุด โดยในช่วงเช้าของวันนี้ พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ VDO Conference เพื่อให้กำลังใจแก่คณะผู้แทนฝ่ายไทย พร้อมทั้งให้แนวทางสำคัญในฐานะผู้นำสูงสุดของกองทัพ โดยเน้นย้ำให้ยึดหลักกฎหมายของประเทศไทย,กฎหมายระหว่างประเทศ, ผลประโยชน์แห่งชาติ และศักดิ์ศรีของประเทศไทยเป็นหลักในการดำเนินงาน “คณะเจรจาของฝ่ายไทยดำเนินการอย่างรอบคอบ รอบด้าน และใช้สติเป็นเครื่องมือในการสร้างสันติภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ ภายใต้หลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยรัฐบาลจะเดินหน้าสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนและถาวร ผ่านเวทีการหารือในทุกระดับ โดยยังคงยึดมั่นในเจตนารมณ์แห่งสันติวิธี แต่จะไม่ยอมให้ใครบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือกระทำการที่ละเมิดต่อความมั่นคงและศักดิ์ศรีของประเทศได้” นายจิรายุ กล่าว […]

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]

1 9 10 11 12 13 119
...