“อนุดิษฐ์” จี้เร่งฟ้อง ICC เอาผิดกัมพูชาลอบวางระเบิด

กล้าธรรม 13 ส.ค.- “อนุดิษฐ์” จี้รัฐบาลเร่งฟ้อง ICC เอาผิด “กัมพูชา” ลอบวางระเบิดทำทหารไทยสูญเสียขาแล้ว 5 นาย มั่นใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวาชัดเจน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม(กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทำให้ตั้งแต่เดือน ก.ค.68 จนถึงวันนี้ ทหารไทยสูญเสียขาไปแล้วถึง 5 นาย ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างที่จะระบุได้ชัดเจน ว่า ประเทศไทยเราไม่ได้เป็นคนวางกับระเบิดไว้แน่นอน เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เห็นจะมีทหารเขมรไปเหยียบเลยสักคน โดยกัมพูชาจะดูตามพื้นที่ที่เราลาดตระเวน และอาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีทหารปฏิบัติภารกิจ แอบเข้ามาวางกับระเบิดไว้ เลยทําให้ทหารไทยหยียบกับระเบิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ “รัฐบาลต้องเร่งดําเนินการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฟ้องร้องต่อนานาชาติ เพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน และสามารถที่จะเอาเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ผมเชื่อว่า รัฐบาลและกองทัพคงจะมองประเด็นนี้อยู่ และก็ไม่น่าจะละเลย อย่างไรก็ตามควรสื่อสารกับพี่น้องประชาชนว่าอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากัมพูชาพยายามจะใช้โดรนมาเพื่อสกัดกั้นการวิ่งขึ้นของเครื่องบินเอฟ16 ในกรณีที่อาจจะมีการสู้รบกันในอนาคตนั้น น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ข้อมูลตรงนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะว่าความเร็วของเครื่องบินรบอย่างเอฟ 16 คงไม่มีใครสามารถบังคับให้โดรนมาเจอกันได้ทั้งตอนออกตัว หรือจะอยู่กลางอากาศก็ตาม […]

ทบ.โต้กลับกัมพูชา ย้ำหลักฐานชัด ทุ่น PMN-2 เพิ่งลักลอบติดตั้ง

13 ส.ค.- กองทัพบกโต้กัมพูชาปฏิเสธเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ย้ำมีหลักฐานชัดเป็นทุ่น PMN-2 ที่เพิ่งลักลอบติดตั้ง เรียกร้องยุติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง–อนุสัญญาออตตาวา จากกรณี พล.ท. มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงปฏิเสธเหตุการณ์ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 บริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งส่งผลให้กำลังพลฝ่ายไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า “ฝ่ายไทยยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชายังคงมีทุ่นระเบิดอยู่ในครอบครองจำนวนมาก และได้ลักลอบนำมาวางในพื้นที่ต่าง ๆ ตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อมุ่งทำร้ายฝ่ายไทย ทั้งที่กัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และได้ให้สัตยาบันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 แต่กลับนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบอย่างละเอียดของฝ่ายไทย พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ในเหตุครั้งนี้เป็นชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่พบในหลายพื้นที่ที่กัมพูชาลักลอบติดตั้งเพื่อทำร้ายกำลังพลไทยมาโดยตลอด ข้ออ้างของกัมพูชาว่าพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีวัตถุระเบิดตกค้างจากสงครามในอดีต เป็นเพียงการปฏิเสธที่ขาดน้ำหนัก เนื่องจากหลักฐานเชิงประจักษ์ในทุกจุดเกิดเหตุชี้ชัดว่า พื้นที่โดยรอบบริเวณที่เกิดการเหยียบทุ่นระเบิดจะพบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 อีก 3–5 ลูก ในสภาพที่เพิ่งถูกติดตั้งใหม่อย่างชัดเจน ทั้งที่หากเป็นทุ่นเก่าจากสงครามในอดีต จะเป็นชนิดอื่น ไม่ใช่ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณะ ทั้งที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้รับฟังข่าวสาร […]

กต.ประณามกัมพูชา “ไม่สุจริตใจ” ลอบใช้ทุ่นระเบิดเกิดเหตุซ้ำซาก

12 ส.ค.- กต.ออกแถลงการณ์ “รัฐบาลไทย” ประณามอย่างรุนแรงที่สุด “กัมพูชา” ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากพฤติกรรม “ไม่สุจริตใจ” ขัดกฎบัตรสหประชาชาติ-อนุสัญญาออตตาวา เรียกร้องยุติการกระทำทันที จ่อประท้วง “เลขายูเอ็น-ออตตาวา” พร้อมเรียกร้องผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจากอาเซียน พิจารณาอย่างถี่ถ้วน กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 4 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

โฆษกรัฐบาล บอกกัมพูชาอย่ามั่ว ปมหนังสติ๊กยิงเมล็ดพืช

ทำเนียบ 12 ส.ค. – โฆษกรัฐบาล บอกกัมพูชา อย่ามั่ว-อย่าใช้วิธีสกปรก หลังมีภาพกล่าวหาไทยใช้หนังสติ๊กยิง ความจริงยิงเมล็ดพืชปลูกป่า นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะ กก. ศบ.ทก. กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่ภาพเจ้าหน้าที่กรมอุทยานทำกิจกรรม ยิงเมล็ดพืชปลูกป่าตามกิจกรรมปลูกป่าโดยไม่ต้องเดินเท้า ซึ่งเป็นภารกิจที่ภาคเอกชนร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ขอเตือนไปยังฝั่งกัมพูชาว่าอะไรที่ไม่รู้ก็พยายามอย่ามั่วเดี๋ยวจะเสียทรง เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวมีในประเทศไทยที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชรวมทั้งป่าไม้อย่างต่อเนื่องเป็นกิจกรรมที่ใช้หนังสติ๊กยิงเมล็ดพันธุ์พืชออกไปในพื้นที่ที่ไม่ต้องเดินเท้าเข้าไป อันเป็นกิจกรรมสำคัญของประเทศไทย “ไม่รู้ก็เช็กข้อมูล ไม่เข้าใจก็ให้สอบถาม อย่าใช้วิธีการสกปรกโดยไม่มีความรู้หรือไม่มีข้อมูลในการกล่าวหาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง“ นายจิรายุ กล่าว.-315-สำนักข่าวไทย

Cambodia National Assembly chamber

สภากัมพูชาผิดหวังความเห็นประธานสภาไทย

พนมเปญ 12 ส.ค.- รัฐสภากัมพูชาแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อการแสดงความเห็นของนายวัน มูฮัมหมัด นอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรของไทยที่เห็นชอบกับคำกล่าวของแม่ทัพภาคที่สองของไทยกรณีปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม แถลงการณ์ของรัฐสภากัมพูชาลงวันที่ 11 สิงหาคม 2568 ระบุว่า การที่นายวัน นอร์สนับสนุนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 ต่อคำกล่าวของพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่สองที่ประกาศว่า จะยึดปราสาทตาควายและปิดปราสาทตาเมือนธมก่อนที่จะเกษียณอายุราชการจากกองทัพในอีก 51 วัน ถือเป็นหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เป็นการยั่วยุที่จงใจและมีการวางแผนล่วงหน้า และเป็นความพยายามรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา ซึ่งอ้างว่าปราสาททั้ง 2 แห่งอยู่ดินแดนของกัมพูชา นอกจากนี้ยังระบุว่า การสนับสนุนของประธานรัฐสภาไทยถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรงด้วย รัฐสภากัมพูชายังได้ขอให้ประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐ มาเลเซีย และจีน เรียกร้องให้ไทยยึดมั่นตามข้อหยุดยิง ผ่านการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการยุติการละเมิดทั้งหมดโดยทันทีและให้ไทยรื้อถอนรั้วลวดหนามทั้งหมดที่กัมพูชาอ้างว่าวางไว้อย่างผิดกฎหมายในดินแดนของกัมพูชา แถลงการณ์ดังกล่าวปิดท้ายว่า รัฐสภากัมพูชาขอย้ำจุดยืนที่แน่วแน่ของกัมพูชาเรื่องส่งเสริมสันติภาพ ปกป้องสันติภาพ และเป็นมิตรกับทุกประเทศทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก กัมพูชายังดำเนินการส่งเสริมสันติภาพผ่านความคิดริเริ่มหลายอย่าง เช่น กฎบัตรสันติภาพสากล ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา เพื่อขับเคลื่อนการเจรจาอย่างครอบคลุม เสริมสร้างความไว้วางใจ ส่งเสริมความเข้าใจระหว่างกัน และยกระดับความร่วมมือในระดับโลกเพื่อสร้างสันติภาพและความมั่งคั่งร่วมกัน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

รมว.พณ. เล็งคุยทูตลาวขอผ่านทางส่งสินค้าจากอุบลฯ ไปกัมพูชา

สนามหลวง 12 ส.ค.- รมว.พาณิชย์ ชี้ ฟื้นการค้าชายแดน เน้นรักษาตลาดเดิม-เร่งหาตลาดใหม่ มอง ผู้ประกอบการปรับตัวส่งสินค้าข้ามแดนไทย-กัมพูชา เล็ง คุยทูตลาวขอผ่านทางส่งสินค้าจากอุบลไปกัมพูชา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการฟื้นฟูการค้าบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หากมีการประเมินเปิดด่าน ว่า รอข้อมูล แต่ศูนย์ที่เราตั้งก็มีการปรึกษา เรื่องการค้าชายแดน วันนี้สินค้า Modern Trade ของเราที่กัมพูชา ก็พอมี ซึ่งผู้ประกอบการก็มีการปรับตัวเรื่องการขนส่งไปใช้ทางเรือ และทาง สปป ลาว และเมื่อวานนี้ได้เจอทูต สปป ลาว คิดว่าจะไปหารืออีกครั้งว่าจะขอผ่านจากอุบลราชธานีไปลาว ผ่านไปยังกัมพูชา จะมีค่าผ่านทางอย่างไร จะหารือเพื่อลดค่าใช้จ่าย เมื่อถามถึงแนวโน้มการฟื้นฟูตลาดยากหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้เน้นรักษาตลาดเดิมให้ได้ไว้ก่อน ขณะเดียวกัน ก็เร่งหาตลาดใหม่ให้กับผู้ประกอบการ.-315 -สำนักข่าวไทย

“จิรายุ” ย้ำชัดไทยไม่รับอำนาจศาลโลก จ่อยื่นหลักฐานฟ้อง ICC

ทำเนียบรัฐบาล 11 ส.ค. – “จิรายุ” ย้ำชัดไทยไม่รับขอบเขตอำนาจศาลโลก เตรียมยื่นหลักฐานฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ ICC เอาผิดกัมพูชา เป็นอาชญากรรมสงคราม ทำร้ายพลเรือนอย่างชัดเจน พร้อมขอประณามอย่างรุนแรงที่สุด ปมวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำกำลังพลไทยบาดเจ็บครั้งที่ 3 วันนี้ (11 สิงหาคม 2568) เวลา 15.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยกรณีกำลังพลเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนบริเวณรอยต่อ ช่องโดนเอาว์-กฤษณา (บริเวณภูมะเขือ) อ. กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 นาย ซึ่ง 1 ในนี้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด นายจิรายุกล่าวว่า ล่าสุด เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 (ลงวันที่ 9 […]

ทบ.ยันคุมตัว 18 ทหารเขมร ยึดหลักกฎหมายสากล

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบก แถลงโต้กัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติสากล ยืนยันควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีกัมพูชายื่นข้อเรียกร้องต่อทางการไทย เพื่อให้ส่งตัวทหารที่ถูกควบคุมตัวไว้กลับประเทศ ขอเรียนว่าฝ่ายกัมพูชาอาจไม่เข้าใจหลักปฏิบัติในระบบของสากล ยืนยันการปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล ซึ่งเชื่อว่าประเทศพันธมิตรและองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ มีความเข้าใจ และไม่ได้มีความกังวลใดๆ อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง โดยเฉพาะการที่ฝ่ายไทยได้เปิดโอกาสให้องค์กรสากลที่เกี่ยวข้องสามารถประสานขอเข้าเยื่ยมชมได้ตลอดตั้งแต่วันแรกๆ ที่ฝ่ายไทยได้มีการควบคุมตัว   อย่างเช่นเมื่อ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีคณะผู้แทนจาก ICRC ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด้านการคุ้มครอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เจ้าหน้าที่โครงการของ ICRC และล่าม รวม 4 คน เพิ่งมาเยื่ยมชมไป จึงขอยืนยันว่าการควบคุมทหารกัมพูชาทั้ง 18 คนนั้น เป็นไปตามหลักกฎหมายสากล ที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวา ไม่ใช่การควบคุมตัวอย่างผิดกฎหมายตามที่ กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้กล่าวอ้าง ทั้งนี้การถูกควบคุมตัวดังกล่าว จำเป็นต้องคงไว้ จนกว่าสถานะการณ์การหยุดยิงหรือสถานการณ์การสู้รบ จะมีความสมบูรณ์เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแล้วเป็นหลัก ทั้งนี้เพื่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด จะไม่หวนกลับมาทำการสู้รบกับฝ่ายไทยอีก ซึ่งเป็นไปตามแนวทางหลักสากล และเชื่อว่าด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชายังมีเรื่องสำคัญอื่น ที่ควรให้ความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน […]

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

เร่งสำรวจ-เยียวยาความเสียหายจากเหตุปะทะชายแดน

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ทุกภาคส่วนผนึกกำลัง เร่งสำรวจและเยียวยาความเสียหายจากเหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะ ต.เสาธงชัย บ้านเรือนประชาชนเสียหายเกือบ 200 หลัง จากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ใน จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะ ต.เสาธงชัย ต.บึงมะลู และพื้นที่ใกล้เคียง ด้าน อ.กันทรลักษ์ ได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดและกระสุนปืนใหญ่ ทั้งบ้านเรือน คอกสัตว์ สถานที่ราชการ รวมถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดประชุมทุกภาคส่วน เพื่อเร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย โดยเฉพาะ ต.เสาธงชัย มีบ้านเรือนเสียหายเกือบ 200 หลัง เพื่อให้ความช่วยเหลือและของบฯ ซ่อมแซม รวมทั้งเงินบริจาคจากภาคเอกชน.-สำนักข่าวไทย

“นพดล” ชี้ผลการเจรจา GBC มีทิศทางดี เสนอเร่งประชุม RBC-JBC ต่อเนื่อง

กทม. 10 ส.ค. – “นพดล” ชี้ผลการเจรจา GBC มีทิศทางดี แต่มีงานต้องทำอีกมาก เสนอเร่งประชุม RBC และ JBC ต่อเนื่อง ขอเอาใจช่วยรัฐบาลในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ด้วยการปกป้องอธิปไตย นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า แม้ผลการเจรจา GBC จะมีทิศทางที่ดี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น แต่คงต้องติดตามว่ากัมพูชาจะทำตามที่ตกลงครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีคณะผู้สังเกตการณ์และตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไข โดยทางฝ่ายมาเลเซีย จะได้รู้ว่าใครทำตามข้อตกลง GBC หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าควรมีการประชุมในระดับพื้นที่หรือระดับแม่ทัพภาค (RBC) เพื่อลงในรายละเอียดต่อไป แต่หมุดหมายที่สำคัญคือ การประชุม JBC หรือคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม เพราะถ้าไม่ปักปันเขตแดนและทำหลักเขตแดนให้ชัดเจน ในอนาคตจะมีข้อพิพาทด้านเขตแดนเกิดขึ้นอีก ซึ่งตนคิดว่าการทำงานของคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค ภายใต้การประชุม JBC ตามกรอบ MOU 2543 จะช่วยให้มีความชัดเจนเรื่องเขตแดน และช่วยให้ไม่มีปัญหากระทบกระทั่งเรื่องการอ้างสิทธิในดินแดนของแต่ละฝ่ายในอนาคตได้ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า 25 ปีที่ผ่านมา มีการประชุม JBC ไปน้อยมากเพียงแค่ 10 กว่าครั้ง […]

1 7 8 9 10 11 121
...