กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

กรุงเทพฯ 31 ม.ค.- “รมว. ธรรมนัส” ยืนยันจะพิทักษ์กระทรวงเกษตรฯ ไม่ให้ถูกใครมาทำลายและย่ำยี ไม่จำเป็นต้องจัดระเบียบ “ที่ปรึกษา” เพราะไม่ได้ทำสิ่งไม่ถูกต้อง ส่วนคนผิด ให้กฎหมายจัดการ ย้ำต่อผู้ใต้บังคับบัญชา หากดำเนินคดีใครแล้ว อย่าถอนแจ้งความ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวถึงเหตุการณ์ที่นายศรีสุวรรณ จรรยาและพวกร้องเรียนกรมการข้าวและกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จนนำไปสู่การจับกุมฐานข่มขู่รีดไถอธิบดีกรมการข้าวว่า อย่ามองภาพลักษณ์ของกระทรวงเกษตรฯ ในทางลบเนื่องจากเป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ใช่ผู้ร้าย ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดจะพิทักษ์หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรฯ อย่างเต็มที่ ไม่ให้ใครมาทำลายและย่ำยี ส่วนประเด็นของ “ที่ปรึกษาหมู” ย้ำว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด โดยอธิบดีกรมการข้าวและภรรยายืนยันแล้วว่า ไม่ได้พาไปจ่ายเงินให้นายศรีสุวรรณที่บ้าน ตลอดจนพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกล่าวชัดว่า เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 นายหมูพาอธิบดีกรมการข้าวและภรรยาไปเจรจากับนายศรีสุวรรณที่บ้านเพื่อเจรจาขอให้ยุติการร้องเรียน ไม่มีการพูดคุยเรื่องผลประโยชน์หรือจ่ายเงินแต่อย่างใด นอกจากนีี้ไม่จำเป็นต้องจัดระเบียบที่ปรึกษาเพราะไม่มีใครทำอะไรโดยพลการ ดังนั้นควรจบเรื่องนี้ได้แล้ว ขอให้เดินหน้าเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรดีกว่า เรื่องทางคดีให้กฎหมายจัดการคนผิด ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า ขอเตือนสื่อมวลชนว่า นำเสนอข้อมูลที่นำไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อน ถ้าถามคลุมเครือ แล้วแปลความคลุมเครือ จะทำให้เกิดความเสียหาย บางรายการที่ได้ฟัง อยากโทรศัพท์ไปตำหนิทันที เมื่อข้าราชการถูกละเมิดแล้วดำเนินคดีสื่อมวลชน ก็มาขอให้ถอนแจ้งความซึ่งได้ย้ำผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วว่า […]

กรุงเทพฯ 30 ม.ค.-อธิบดีกรมการข้าวเปิดใจครั้งแรก หลังแจ้งความรวบ “ศรีสุวรรณ” กับพวก ชี้แค้นถูกตบทรัพย์ บุกถึงบ้านเพื่อชี้แจงแล้วว่า ผลสอบออกมาไม่ผิด ถาม “ศรี” เป็นใครถึงไม่หยุด “ธรรมนัส” โผล่ให้กำลังใจ ระบุ ผลสอบข้อเท็จจริงตามที่ถูกร้องก่อนหน้านี้ ไม่พบความผิด โดยงบ 1.5 หมื่นล้าน โอนให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเงินช่วยเหลือชาวนา “โครงการไร่ละพัน” นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวแถลงที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดใจครั้งแรก หลังแจ้งตำรวจปปป. ซ้อนแผนบุกจับนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินและพวกรวม 3 คนที่รีดไถเงินเพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการกรมการข้าวโดยอ้างว่า ส่อพิรุธทุจริต นายณัฐกิตติ์กล่าวว่า ได้ร่วมกับนางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยารวบรวมข้อมูลมานานพอสมควรก่อนไปแจ้งความต่อตำรวจปปป. โดยเมื่อได้รับการติดต่อจากกลุ่มคนเหล่านี้ ถูกข่มขู่รีดทรัพย์ จนกระทั่งในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ตัดสินใจไปที่บ้านนายศรีสุวรรณด้วยความคับแค้นใจว่า จะร้องเรียนอะไร ในเมื่อผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่มีบัตรสนเทห์ ไม่พบความผิด คราวนั้นได้ชักชวน “พี่หมู” ที่ปรึกษาร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปด้วยเพื่อเป็นพยานเนื่องจากเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือ แต่ไม่เคยเรียนเรื่องนี้ต่อร้อยเอกธรรมนัสมาก่อน ทั้งนี้ “พี่หมู” […]

กรุงเทพฯ 29 ม.ค.- ที่ปรึกษากฎหมายของรมว. เกษตรฯ เผย ถูกพาดพิงว่า เป็นผู้แนะอธิบดีกรมการข้าวจ่ายเงินค่าเคลียร์ แลกกับการไม่ร้องเรียน ทั้งยังเป็นผู้นัดแนะให้ภรรยาอธิบดีนำเงินไปจ่ายที่บ้าน “ศรีสุวรรณ” ยืนยัน ทราบเรื่องการร้องเรียนอธิบดีกรมการข้าวจากเฟซบุ๊กของ “พี่ศรี” จากนั้นรู้อีกทีตอนตำรวจบุกจับ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่า มีการให้สัมภาษณ์ของบางคนเกี่ยวกับเรื่องที่อธิบดีกรมการข้าวถูกข่มขู่รีดไถ โดยระบุว่า “ที่ปรึกษาของผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ทราบเรื่องและเรียกนายณัฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวเข้าพบ แต่ปรากฏว่า ที่ปรึกษาผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ แนะนำให้จ่ายเงินค่าเคลียร์ให้นายศรีสุวรรณ จรรยาเนื่องจากเห็นว่า เรื่องจะได้ยุติ หากมีการแถลงข่าว อาจจะทำให้เกิดความเสียหายตามมา ทั้งยังเป็นผู้นัดแนะให้ภรรยาอธิบดีกรมการข้าวนำเงินไปมอบให้นายศรีสุวรรณที่บ้านนั้น นายธนดลกล่าวว่า ในคำให้สัมภาษณ์ไม่ได้มีการระบุชื่อที่ปรึกษาผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ทำให้คนเข้าใจผิดว่า เป็นนายธนดลที่แนะนำเช่นนั้น ยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องการถูกตบทรัพย์ของอธิบดีกรมการข้าวมาก่อน ทราบแต่เพียงว่า นายศรีสุวรรณจะมาร้องจากที่นายศรีสุวรรณโพสต์เฟซบุ๊กว่า จะมาร้องเรียนต่อร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในวันที่ 26 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. โดยมีผู้ส่งลิงก์เฟซบุ๊กมาแจ้ง เมื่อทราบว่า นายศรีสุวรรณจะเข้ามาร้องเรียนจึงเตรียมตัวรับหนังสือแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ปรากฏว่า นายศรีสุวรรณไม่ได้เข้ามายังกระทรวงเกษตรฯ ตามที่โพสต์เฟซบุ๊กไว้ ทราบข่าวอีกทีตอนที่ตำรวจบุกจับกุมที่บ้าน นายธนดลกล่าวย้ำว่า […]

“ธรรมนัส” รมว.เกษตรฯ โทรศัพท์หา “อนุทิน” รมว.มหาดไทย ขอโทษเหตุ ฮ. กระทรวงเกษตรฯ ลงจอดสนามโรงเรียนบ้านเกาะพยาม จ.ระนอง ขณะมอบสิ่งของให้เด็กนักเรียน ด้าน “อนุทิน” ตอบเราซี้กัน ไม่มีปัญหา โฆษกเกษตรฯ ชี้แจงเอกสารการนำ ฮ. ลงจอดถูกต้อง

กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – กระทรวงเกษตรฯ เตรียมรวบรวมข้อมูลการนำเข้าสินค้าให้ดีเอสไอ หลังพนักงานสอบสวนแจ้งขอจากการหารือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงยุติธรรมวานนี้ ดีเอสไอต้องการข้อมูลการนำเข้าสินค้าประมงตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงเดือนสิงหาคม 2566 โดยกระทรวงเกษตรฯ พร้อมจะส่งข้อมูลให้ทั้งการนำเข้าสินค้าพืช ปศุสัตว์ และประมง นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษากฎหมายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ เตรียมรวบรวมข้อมูลการนำเข้าสินค้าเกษตรทุกชนิดทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมงให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จากการที่ได้รับมอบหมายจากร้อยเอกธรรมนัส ให้เป็นผู้แทนกระทรวงร่วมหารือกับพ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าหารือด้วย สำหรับฝ่ายกระทรวงยุติธรรมมีพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ รวมถึงคณะพนักงานสอบสวนเข้าร่วมด้วย โดยชี้แจงถึงการสอบสวนคดีหมูและตีนไก่เถื่อนว่า ทำควบคู่กันไปและการสอบสวนดำเนินคดีของดีเอสไอทำในรูปแบบคณะกรรมการ พร้อมแจ้งว่า ต้องการข้อมูลการนำเข้าสินค้าประมงย้อนหลัง ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 ถึงเดือนสิงหาคม 2566 ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ พร้อมส่งมอบให้ครอบคลุมทั้งการนำเข้าสินค้าพืช ปศุสัตว์ และประมงเพื่อให้พนักงานสอบสวนไปพินิจพิเคราะห์ซึ่งแสดงถึงความพร้อมของกระทรวงเกษตรฯ ที่จะทำงานร่วมกับกระทรวงยุติธรรมในการทำความจริงให้ปรากฏ โดยจะส่งมอบให้เร็วที่สุด นายธนดลกล่าวย้ำว่า การเดินทางไปยังกระทรวงยุติธรรมวานนี้ […]

กรุงเทพฯ 16 ม.ค.- คดี “หมูเถื่อน” ฉาวอีก มีผู้โทรศัพท์หาอดีตอธิบดีกรมหนึ่ง อ้างในสำนวนคดีมัดตัวไว้หมดแล้ว ให้รีบมาพบพนักงานสอบสวน โดยพร้อมจะให้เบอร์ติดต่อ หากอยู่ข้างพนักงานสอบสวน ในฐานะพยาน จะเป็นผลดีต่ออดีตอธิบดีคนดังกล่าวเอง หลักฐานคลิปเสียงถึงมือ “รมว. ธรรมนัส” แล้ว คืนที่ผ่านมามีคลิปหลุดที่เกี่ยวข้องกับคดี “หมูเถื่อน” เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย โดยมีบุคคลหนึ่งโทรศัพท์หาอดีตอธิบดีกรมหนึ่ง บุคคลที่โทรศัพท์หาอดีตอธิบดีแจ้งว่า หวังดี อยากให้อดีตอธิบดีมาพบพนักงานสอบสวนเนื่องจากถูกพยานหลายฝ่ายให้การมัดตัวไว้หมดแล้ว บุคคลที่โทรศัพท์เข้ามา ไม่ยอมบอกว่า ตัวเองเป็นใครเนื่องจากทำงานแบบไม่เปิดเผยตัว แต่พร้อมจะให้เบอร์โทรศัพท์ของพนักงานสอบสวนในคดีเพื่อพูดคุยกับผู้ทำสำนวนเนื่องจากในกระบวนการสืบสวนสอบสวน จะมีพยานหลักฐานทั้งที่ปรากฏเป็นข่าวและไม่เป็นข่าว รวมถึงติดตามเส้นทางการเงิน จนเป็นที่มาของการออกหมายจับหลายคน จึงต้องการให้อดีตอธิบดีอยู่ข้างพนักงานสอบสวนในฐานะพยานซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออดีตอธิบดีเอง ทั้งนี้อดีตอธิบดีซึ่งเป็นผู้บันทึกเสียงไว้ ได้ตอบในการสนทนาว่า ไม่ทราบว่า จะต้องไปเป็นพยานอะไรตรงไหนเนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติงานขณะเป็นอธิบดีอาจมีผู้ใส่ความซึ่งหากได้รับความเสียหายจะต้องฟ้องกลับ แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่า บุคคลที่โทรศัพท์เข้ามาหาอดีตอธิบดีคนนี้ เป็นนักข่าวอิสระซึ่งเคยเป็นนักข่าวของสำนักข่าวหนึ่ง โดยเป็นบุคคลที่เคยถูกนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ร้องเรียนเรื่องขัดขวางการทำลาย “หมูเถื่อน” ในคดีพิเศษ 161 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยเข้าไปแทรกแซงและเรียกรับผลประโยชน์จากผู้รับเหมา ตลอดจนขู่ให้แก้ไขสัญญาเปลี่ยนผู้รับเหมาที่รับจ้างฝังหมูเถื่อน โดยหลักฐานทั้งหมดอยู่ในมือของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว จนเป็นที่มาของการให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เหตุใดพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงเบี่ยงเบนจากคดี “หมูเถื่อน” […]

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติคาด ราคาหมูหน้าฟาร์มจะทยอยปรับขึ้นจนเข้าสู่ต้นทุน แต่จะปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป เชื่อ “หมูเถื่อน” ไม่มีลักลอบนำเข้ามาใหม่แล้ว แต่อาจยังมีตกค้างในห้องเย็นต่างๆ จึงต้องแก้ทั้ง “หมูเถื่อน- หมูถูก” ไปพร้อมกัน โดยมั่นใจว่า ราคาในปี 67 จะไม่ได้ขยับขึ้นจนผู้บริโภคเดือดร้อน หากภาครัฐช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มได้เริ่มปรับขึ้นแล้ว 2 บาทต่อกิโลกรัมเมื่อวันพระที่ 10 มกราคม 2567 ทำให้ราคาอยู่ที่ 68 – 74 บาทต่อกิโลกรัมตามแต่ละภูมิภาค คาดว่า ราคาจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นจนเข้าสู่ต้นทุนซึ่งอยู่ที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม แต่การปรับเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องปรับราคาหน้าฟาร์มเพื่อลดผลกระทบจากภาวะขาดทุนนาน 11 เดือน โดยเฉพาะผู้เลี้ยงรายย่อยซึ่งมีต้นทุนสูงกว่ารายใหญ่และขายราคาหน้าฟาร์มได้ต่ำกว่า ขณะเดียวกันเชื่อว่า การปรับราคาหน้าฟาร์มจะไม่กระทบผู้บริโภคเนื่องจากราคาชิ้นส่วนสุกรก่อนหน้านี้สูงกว่าปัจจุบัน โดยหมูเนื้อแดงราคาประมาณ 160 – 170 บาทต่อกิโลกรัม หากราคาหน้าฟาร์มปรับสู่ต้นทุนที่ 80 บาทต่อกิโลกรัม ราคาหมูเนื้อแดงจะอยู่ที่ประมาณ 160 บาทต่อกิโลกรัมเช่นเดิม […]

กรุงเทพฯ 12 ม.ค. – “ธรรมนัส” หารือ “ปีติพงศ์” ต่อยอดนโยบาย “โฉนดเพื่อการเกษตร” ด้วยการเพิ่มมูลค่าที่ดิน ส.ป.ก. และสินทรัพย์ในพื้นที่ส.ป.ก. เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรเป็น 3 เท่า ภายใน 4 ปีของรัฐบาล ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้หารือกับนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และอดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าที่ดินและสินทรัพย์ในเขตปฏิรูปที่ดินและคณะกรรมการพิจารณาทบทวนระเบียบและกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรเพื่อเตรียมกำหนดแนวทางการเพิ่มมูลค่าที่ดินส.ป.ก. และสินทรัพย์ในพื้นที่ ส.ป.ก. พร้อมกันนี้มีนายชวลิต ชูขจร อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวีรชัย นาควิบูลย์วงศ์ และนายสรรเสริญ อัจจุตมานัส อดีตเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้าร่วมหารือด้วย ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ยกระดับ “ส.ป.ก.4-01” เป็น “โฉนดเพื่อการเกษตร” ซึ่งมีกฎหมายรองรับให้เกษตรกรเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง และไม่ตกไปอยู่ในมือของเอกชน โดยจะเป็นการเพิ่มโอกาสแก่เกษตรกรในการเพิ่มมูลค่าที่ดินและเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนสำรหับประกอบอาชีพ โดยเชิญนายปีติพงศ์มาให้คำแนะนำที่สำคัญเป็นกรอบทิศทางในการผลักดันให้โฉนดเพื่อการเกษตรสามารถรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรตัวจริงในการโอนสู่ผู้อื่นนอกจากทายาทโดยธรรม รองรับการเพิ่มมูลค่าที่ดินและสินทรัพย์ในพื้นที่ ส.ป.ก. รวมทั้งแก้ไขข้อจำกัดเพื่อเพิ่มประโยชน์และเพิ่มมูลค่าโฉนดเพื่อการเกษตร ในส่วนการทบทวนระเบียบและกฎหมาย เน้นแก้ไขอุปสรรคสำคัญที่ต่อการผลิต การรับรองมาตรฐาน การขออนุมัติ/อนุญาต […]

กรุงเทพฯ 12 ม.ค. – รมว. เกษตรฯ เผยเตรียมถามดีเอสไอถึงความคืบหน้าคดี “หมูเถื่อน” โดยมองว่า ดำเนินคดีผู้กระทำผิดรายใหญ่ล่าช้า ฉุนมอบนโยบายเร่งรัดทำคดีให้จบ แต่เบนประเด็นไปจับ “ตีนไก่” หากไม่อยากทำคดี “หมูเถื่อน” จะเอามาทำเอง ย้ำอย่าโยงเอาเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงเกษตรฯ ไปเกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิดรายใดรายหนึ่ง ส่วนที่ปรากฏรูปตนเองกับ “เฮียเก้า” ก็ไม่เกี่ยวอะไร หากทำผิด ไม่เอาไว้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจค้นบ้านของนายหลี่ เซิ่งเจียวหรือ “เฮียเก้า ตามที่ขอศาลออกหมายจับเฮียเก้ากับพวกรวม 4 คนฐานลักลอบนำเข้า “ตีนไก่” แล้วนำมาบรรจุใหม่ ติดป้ายสินค้าจากประเทศไทยและส่งออกไปยังประเทศจีน โดยระบุว่า การปราบปรามสินค้าเกษตรเถื่อนทุกชนิด หน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ ทั้งกรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตรดำเนินการมาตลอด กรณีที่ต้องการให้ยกเป็นคดีพิเศษจึงจะส่งเรื่องให้ดีเอสไอ หากไม่ได้ส่งข้อมูลให้ หน่วยงานอื่นไม่สามารถไปจับกุมและดำเนินคดีได้ ในการเข้าตรวจค้นบ้านเฮียเก้า แล้วพบภาพที่เฮียเก้าถ่ายกับนักการเมืองหลายคน รวมทั้งร้อยเอกธรรมนัสด้วยนั้น ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า เฮียเก้าเป็นนายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชียจึงรู้จักกับนักการเมืองหลายคน อย่าเอามาเป็นประเด็นว่า ผู้กระทำผิดถ่ายรูปกับใคร หากกระทำผิด เราไม่เอาไว้ จะรู้จักตนไม่หรือไม่ […]

กรุงเทพฯ 12 ม.ค. – รมว. เกษตรฯ เป็นประธานการลงนาม MOU  ระหว่างกยท. และธ.ก.ส. เรื่อง “การส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มสวนยางพาราและการจัดทำโฉนดต้นยางพารา” เพื่อแปลงสินทรัพย์เป็นทุนให้เกษตรกร โดยสามารถนำโฉนดต้นยางพาราเป็นเอกสารค้ำประกันเงินกู้ในการต่อยอดอาชีพได้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีลงนาม MOU ระหว่างนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และนายณรงค์ ขันติวิริยะกุล รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เรื่อง “การส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มสวนยางพารา และการจัดทำโฉนดต้นยางพารา” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแปลงสินทรัพย์จากสวนยางเป็นทุน เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ชาวสวนยางพารา ตลอดจนขับเคลื่อนโครงการ Carbon Credit ในสวนยางพารา เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายจัดทำโครงการโฉนดต้นไม้สำหรับต้นไม้ที่เป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อให้เกษตรกรนำไม้ยืนต้นไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินกับธ.ก.ส. เป็นการเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกร เพื่อต่อยอดอาชีพด้านการเกษตรได้อย่างยั่งยืน การร่วมมือกันของทั้งสองหน่วยงานในการจัดทำโฉนดต้นยางพาราครั้งนี้ จึงเป็นการขับเคลื่อนให้เกษตรกรชาวสวนยางสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของสถาบันการเงินได้มากขึ้นและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองหน่วยงานจะร่วมมือกันดำเนินกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยางพารา อาทิ การขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ Carbon Credit ในสวนยางพารา การส่งเสริมการขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งจะนำไปสู่ความกินดีอยู่ดีของเกษตรกรไทย นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการกยท. […]