“ไชยา” ยันไฟไหม้ ก.เกษตรฯ ไม่มีเอกสารสำคัญเสียหาย

กทม. 4 ก.พ.- “ไชยา” รุดตรวจสอบ หลังเกิดเพลิงไหม้ห้องคณะทำงานชั้น2 กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันไม่มีเอกสารสำคัญเสียหาย และไม่อยากให้โยงว่าเป็นการเผาทำลายหลักฐานคดีศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก


เวลา 14.40 น. นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาที่กระทรวงฯ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องครัวและห้องประชุมคณะทำงานของตนชั้น 2 เบื้องต้นไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุได้ เนื่องจากกองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศปิดพื้นที่ ห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายใน

นายไชยา กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานความเสียหาย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บริเวณห้องครัว ก่อนจะลามไปที่ห้องคณะทำงาน ห่างจากห้องทำงานตน ประมาณ 5 ล็อก หรือ 30 เมตร ซึ่งมีเพียงน้ำเจิ่งนอง ที่เกิดจากการใช้น้ำดับเพลิงในห้องทำงานเท่านั้น ยืนยันไม่มีเอกสารสำคัญใดๆ เสียหาย แต่อาจมีเพียงเอกสารงานรูทีนธรรมดาๆ ที่เสียหาย อีกทั้ง ที่ผ่านมา การจัดเก็บเอกสารสำคัญของกระทรวง เชื่อว่าถูกจัดเก็บโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด โดยไม่อยากให้มีการเชื่อมโยงว่าเหตุดังกล่าวเป็นการเผาทำลายพยานหลักฐานในคดีของนายศรีสุวรรณ และนายเจ๋ง ดอกจิก ที่ร้องเรียนกรมการข้าว หรือ โยงไปที่เรื่องการเมือง ว่านายเจ๋ง เดินทางมาพบที่กระทรวงฯ ยืนยันว่านายเจ๋งไม่เคยมาหาหรือร้องเรียนเรื่องใดที่กระทรวง สามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดได้


ส่วนกรณีการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ และนายเจ๋ง ดอกจิก เรื่องตรวจสอบทีโออาร์ จัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวง 2 ลำ ว่าล็อกสเปกเครื่องยนต์หรือไม่นั้น ทั้งนี้แม้ว่าตนจะมีหน้าที่ ที่กำกับดูแลกรมฝนหลวง แต่ดูแลในด้านนโยบายเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่หรืออำนาจ อนุมัติงบประมาณแต่อย่างใด ส่วนเรื่องร้องเรียนของกรมฝนหลวง มีการร้องเข้ามา 2 เรื่อง คือ กรณี นายศรีสุวรรณและนายเจ๋ง ดอกจิก นั้น เป็นการยื่นเรื่องร้องเรียนผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายเป็นผู้รับเรื่องไว้ ไม่ได้มายื่นเรื่องผ่านตน ส่วนอีก 1 เรื่อง มีการยื่นหนังสือร้องเรียนเข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร ตามระบบราชการ โดยผู้ร้องขอปกปิดเอกสาร เมื่อตรวจสอบเอกสารแล้ว เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเป็นผู้ชี้แจง เพราะผู้ร้อง เป็นผู้มีความรู้เรื่องเทคนิค กลไกต่างๆ ของเครื่องบิน ระเบียบต่างๆ จึงได้ทำบันทึกทั้ง 2 เรื่องเสนอรัฐมนตรีเป็นตามลำดับชั้นเรียบร้อย เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องเดียวกันที่จะต้องหาข้อเท็จจริง ว่าเป็นไปตามข้อร้องเรียนหรือไม่ เบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำเรื่องชี้แจงมาแล้ว ได้ทำบันทึกเสนอรัฐมนตรีฯ โดยมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีปลัดกระทรวงเป็นหัวหน้าคณะ

นายไชยา ยังย้ำว่า เรื่องเกี่ยวกับกรมการข้าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะไม่ได้ดูแล ขณะที่เรื่องกรมฝนหลวงในขณะนี้ยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นเพียงกระบวนการมีผู้ร้องและตั้งกรรมการสอบ และสามารถชี้แจงข้อสงสัยได้เกือบทุกข้อและเสนอให้รัฐมนตรี พิจารณาแล้ว เรื่องดังกล่าวมีคณะกรรมการทั้งหมด 5 ชุด ซึ่งเป็นข้าราชการเป็นผู้ดูแล ดำเนินการจัดซื้อโดยระบบอีบิดดิ้งไม่ใช่การจัดซื้อเฉพาะเจาะจง และเป็นเรื่องของงบประมาณเก่า ซึ่งก่อนหน้านี้มีการยกเลิกการประกวดราคามาแล้ว 3 ครั้งในยุครัฐบาลก่อน เมื่อตนเองเข้ามาก็เป็นครั้งที่ 4 จึงสั่งให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ โปร่งใส และให้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าขณะนี้จะไม่สามารถเข้าไปทำงานที่ห้องทำงานในกระทรวงฯ ได้ ก็ไม่หนักใจ อยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ ทั้งนี้ยืนยันตั้งแต่เข้ามาทำงานได้ 4 เดือนที่ผ่านมา มีการตรวจสอบปราบปราม ในเรื่องต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมูเถื่อน ตีนไก่เถื่อน เนื้อเถื่อน ซึ่งขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษแล้ว ยืนยันจะเดินหน้าเอาผิดโดยไม่ละเว้น หากพบว่ามีข้าราชการเกี่ยวข้อง .413.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]