เปิดเอกสารเปลี่ยนแปลงงบ 1.5 หมื่นล้าน โครงการกรมข้าว

กรุงเทพฯ 30 ม.ค.- หนึ่งโครงการของกรมการข้าวที่ “พี่ศรี” ใช้เป็นประเด็นในการตบทรัพย์อธิบดีข้าวคือ โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท แม้เคยถูกตั้งข้อสงสัยถึงความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ แต่ที่สุด ครม. เปลี่ยนแปลงไปเป็นโครงการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา “ไร่ละพัน” กรมข้าวจึงไม่ได้บริหารงบก้อนนี้เอง เป็นที่มาของความมั่นใจของ “อธิบดีโจ” ในการต่อสู้เมื่อถูกข่มขู่รีดไถ


หนังสือด่วนที่สุด จากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ลงนามโดยนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ทำถึงนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เรื่อง สรุปผลการประชุมหารือโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ใจความสำคัญของหนังสือคือ ให้กรมการข้าวสั่งจ่ายเช็คจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566 โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,255 ล้านบาท ให้ ธ.ก.ส. ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ที่เห็นชอบในหลักการโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยธ.ก.ส. มีแผนจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565

มติ ครม. ดังกล่าว เป็นการเปลี่ยนแปลงการใช้งบประมาณ จากเดิมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าวเสนอโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวซึ่งระบุวัตถุประสงค์ของโครงการในการสนับสนุนงบประมาณไปยังศูนย์ข้าวชุมชน 5,000 ศูนย์ทั่วประเทศซึ่งพิจารณาตามพื้นที่ทำนาปลูกข้าวในเขตการให้บริการของศูนย์ข้าวชุมชน โดยพื้นที่ให้บริการต่ำกว่า 2,000 ไร่ สนับสนุน 1 ล้านบาท พื้นที่ให้บริการมากกว่า 2,000 ไร่ สนับสนุน 2 ล้านบาท พื้นที่ให้บริการมากกว่า 4,000 ไร่ สนับสนุน 3 ล้านบาท และพื้นที่ให้บริการมากกว่า 6,000 ไร่ สนับสนุน 4 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรและค่าซ่อมแซมเครื่องจักรกลการเกษตร แต่ถูกหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความคุ้มค่าการใช้งบประมาณในโครงการนี้ เหตุเพราะเชื่อว่า จำนวนศูนย์ข้าวชุมชนที่มีความเข้มแข็งที่จะบริหารจัดการครุภัณฑ์ทางการเกษตรให้เกิดประโยชน์ตามเป้าหมายมีไม่ถึงครึ่งของ 5,000 แห่ง


ดังนั้น ครม. จึงมีมติให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในดำเนินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 แทนเพื่อสมทบเงินช่วยเหลือชาวนาที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรในอัตราไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท หรือที่รู้จักในชื่อ “โครงการไร่ละพัน” โดยให้ขอรับจัดสรรงบประมาณ 39,858.086 ล้านบาทและงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของกรมการข้าว รายการเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายตามโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,225 ล้านบาท

ต่อมาอธิบดีกรมการข้าวจึงสั่งจ่ายเช็คให้แก่ ธ.ก.ส. เพื่อจ่ายเงินเข้าบัญชีชาวนาโดยตรงเพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม. โดยไม่ได้บริหารงบประมาณส่วนนี้แต่อย่างใด

เมื่อถูกนายศรีสุวรรณ จรรยากับพวกข่มขู่ว่า จะร้องเรียนในโครงการดังกล่าว จึงมั่นใจว่า ไม่ได้กระทำผิด อีกทั้งผลตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบว่า ไม่มีมูลการกระทำความผิด จึงเป็นที่มาของการสู้กลับ ด้วยการแจ้งความดำเนินคดี จนเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมแก๊งตบทรัพย์ได้ในที่สุด


ส่วนอีกโครงการหนึ่งที่ “ศรีสุวรรณ” โพสต์เฟซบุ๊กว่า จะร้องเรียนคือ โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวปีงบประมาณ 2566 กรอบวงเงินงบประมาณ 1,001 ล้านบาท มีเป้าหมายส่งเสริมให้ชาวนาสามารถเข้าถึงและได้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีจากกรมการข้าวทั่วประเทศ โดยเกษตรกร สามารถเข้าร่วมโครงการได้ผ่านกลุ่มเกษตร และสถาบันเกษตรกร เช่น ศูนย์ข้าวชมชนในพื้นที่ของแต่ละจังหวัด ในราคาตามหลักเกณฑ์ของกรมการข้าวที่ได้กำหนดไว้ เพื่อให้ชาวนาได้มีเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีสำหรับการเพาะปลูก กรมการข้าวมีแผนการดำเนินงานต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ปี โดยมีการร้องเรียนว่า มีการเบิกจ่ายเมล็ดพันธุ์เกินสิทธิกว่าที่เกษตรกรจะได้รับ ผู้ที่คุณสมบัติไม่ตรงได้เข้าร่วมโครงการ อีกทั้งมีเกษตรกรที่มีชื่อรับเมล็ดพันธุ์ แต่กลับไม่ได้รับซึ่งกรมการข้าวตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง

สำหรับโครงการส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก BCG Model ปีงบประมาณ 2566 กรอบวงเงินงบประมาณ 874 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงกระบวนการเพาะปลูกข้าว เน้นการทำนาแบบประณีต คือ การใช้ระบบชีวมวล ชีวภาพ และจุลินทรีย์ที่ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี ส่งเสริมการทำนาแบบยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเกษตรกร โดยงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาปัจจัยการผลิตและเครื่องจักรกลการเกษตร ตามแผนความต้องการของศูนย์ข้าวชุมชน 292 ศูนย์ ในพื้นที่  74 จังหวัด เป้าหมายพื้นที่ดำเนินการ 58,400 ไร่ และพื้นที่ให้บริการ 60 ล้านไร่ ในพื้นที่  74 จังหวัด โครงการนี้ถูกร้องเรียนว่า อธิบดีกรมการข้าวแสวงหาผลประโยชน์โดยให้ศูนย์ข้าวชุมชนต้องซื้อเครื่องจักรตามที่อธิบดีกำหนด อธิบดีกรมการข้าวระบุว่า ถูกแอบอ้างชื่อ เตือนไปยังประธานศูนย์ข้าวชุมชนว่า อย่าหลงเชื่อและให้เลือกซื้อเครื่องมือโดยคำนึงถึงคุณภาพและประสิทธิภาพเป็นหลัก

อีกโครงการหนึ่งคือ โครงการปรับปรุงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าว ปีงบประมาณ ปี 2566 กรอบวงเงินงบประมาณ 1,256 ล้าน มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชั้นพันธุ์คัดและเมล็ดพันธุ์ข้าวชั้นพันธุ์หลัก ให้มีเมล็ดพันธุ์ที่บริสุทธิ์เพิ่มมากขึ้น และสามารถมีปริมาณเพียงพอในการนำไปผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชั้นพันธุ์ขยายและเมล็ดพันธุ์ข้าวชั้นพันธุ์จำหน่าย ที่กำลังขยายกำลังการผลิต เพื่อตอบสนองต่อความต้องการเมล็ดพันธุ์ของเกษตรกร ลดภาวะขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ดี และให้สามารถสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนต่อไป โดยดำเนินโครงการในศูนย์วิจัยข้าว 16 แห่งและสถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ เพื่อจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ปรับปรุงชั้นพันธุ์คัด-ชั้นพันธุ์หลัก และอาคารโรงคลุมได้แก่ เครื่องทำความสะอาดขั้นต้น (Pre cleaner) เครื่องคัดเมล็ดพันธุ์แบบใช้ตะแกรงและลม (Air screen cleaner) เครื่องคัดเมล็ดพันธุ์ตามความถ่วงจำเพาะ (Gravity separator) และชุดเครื่องชั่งบรรจุ เป็นต้น พร้อมระบบจัดเรียงแบบอัตโนมัติ จำนวน 31 รายการ เป็นงบประมาณ 1,256 ล้านบาท ที่ยังไม่พบการร้องเรียน โดยอธิบดีกรมการข้าวระบุว่า ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนโดยได้มีคณะกรรมการคุณธรรมซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมตรวจสอบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดทำ TOR (การกำหนดคุณลักษณะและเงื่อนไข) จนถึงขั้นตอนการตรวจรับให้เป็นไปตามระเบียบ โปร่งใส เที่ยงธรรม นอกจากนี้ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงคุณธรรมร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ด้วย

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวหรือ หรือ “อธิบดีโจ” เคยชี้แจงถึงเรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้นหลายครั้งว่า เกิดจากผู้เสียผลประโยชน์ พยายามสร้างเรื่องโจมตีให้ร้ายเนื่องจากนับตั้งแต่รับตำแหน่งอธิบดีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งใจแน่วแน่ที่จะบริหารจัดการงานภายในกรมการข้าวอย่างตรงไปตรงมาและต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันภายในกรมการข้าว โดยตรวจสอบพบการทุจริตการซื้อขายเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและศูนย์วิจัยข้าว การทุจริตในโครงการจัดซื้อเครื่องทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ข้าว 200 ชุด ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2563 ซึ่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังได้พบว่า มีการทุจริตยักยอกเงินค่ารักษาพยาบาลและค่าเล่าเรียนบุตรหลายแห่ง ตั้งแต่ปี 2557 มีมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

พร้อมย้ำว่า มีความมุ่งหวังที่จะสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร โดยให้ได้รับเครื่องจักรเครื่องมือที่ดีมีคุณภาพ ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดีในการเพาะปลูก ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิต โดยจะไม่ยอมให้มีการทุจริตในโครงการใดของกรมการข้าว หากพบจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเด็ดขาด .– 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]