กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – รมว.เกษตรฯ นำทีมผู้บริหาร หารือการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ร่วมกับสำนักงบประมาณ เน้นขับเคลื่อนงานสำคัญด้าน 9 ด้าน มุ่งบรรลุเป้าหมายเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าให้ได้ในปี 2570
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมหารือการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ร่วมกับสำนักงบประมาณ ณ ห้องประชุมธารทิพย์ 01 ชั้น 4 อาคาร 99 ปี ม.ล ชูชาติ กำภู กรมชลประทาน สามเสน
ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เน้นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและขับเคลื่อนงานด้านการเกษตรให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยเน้นงานสำคัญ ได้แก่ 1) การจัดที่ดินทำกินให้เกษตรกร 2) การจัดทำข้อมูลเกษตรกร/แปลงเกษรรกรในระบบดิจิทัลและการประกันภัยพืชผล 3) การส่งเสริมฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน 4) การบริหารจัดการน้ำ 5) การผลักดันสินค้าเกษตรมูลค่าสูง 6) การส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรมีความเข้มแข็ง 7) การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร 8) การเปลี่ยนแปลงของสภาวะสิ่งแวดล้อม และ 9) การทำงานและการวิจัยภายใต้กรอบความร่วมมือ ทั้งนี้มีเป้าหมายให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปี (2567 – 2570)
สำหรับสถานการณ์ภาคการเกษตร มีอัตราการเติบโตของ GDP ภาคการเกษตร (ณ ราคาที่แท้จริง) โดยในปี 2566 มีมูลค่า 680,640 ล้านบาท หรือขยายร้อยละ 0.3 จากปริมาณน้ำที่เพียงพอ การบริหารจัดการฟาร์มที่ดี และเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น และในปี 2567 มีแนวโน้มการขยายตัวร้อยละ 0.7 – 1.7 จากปัจจัยในเรื่องนโยบายของภาครัฐ (ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้) ความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มมากขึ้น ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดี และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าจะขยายตัว
ในการหารือถึงกรอบงบประมาณปี 2568 ตามนโยบายสำคัญของนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้น 142 ประเด็นสำคัญ และมีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 26 ประเด็น อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ มุ่งเน้นการขับเคลื่อนงานที่จะตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ทั้งในเรื่องภารกิจเร่งด่วน การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกร การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตร ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ การจัดทำคำของบประมาณดังกล่าว จึงมุ่งสู่เป้าหมายที่จะพัฒนา โดยให้เกิดการบูรณาการของทุกหน่วยงานในสังกัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป .- 512 – สำนักข่าวไทย