กรุงเทพฯ 30 ม.ค.-อธิบดีกรมการข้าวเปิดใจครั้งแรก หลังแจ้งความรวบ “ศรีสุวรรณ” กับพวก ชี้แค้นถูกตบทรัพย์ บุกถึงบ้านเพื่อชี้แจงแล้วว่า ผลสอบออกมาไม่ผิด ถาม “ศรี” เป็นใครถึงไม่หยุด “ธรรมนัส” โผล่ให้กำลังใจ ระบุ ผลสอบข้อเท็จจริงตามที่ถูกร้องก่อนหน้านี้ ไม่พบความผิด โดยงบ 1.5 หมื่นล้าน โอนให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเงินช่วยเหลือชาวนา “โครงการไร่ละพัน”
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวแถลงที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดใจครั้งแรก หลังแจ้งตำรวจปปป. ซ้อนแผนบุกจับนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินและพวกรวม 3 คนที่รีดไถเงินเพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการกรมการข้าวโดยอ้างว่า ส่อพิรุธทุจริต
นายณัฐกิตติ์กล่าวว่า ได้ร่วมกับนางธัญญรัตน์ ไชยศิริคุณากร ภรรยารวบรวมข้อมูลมานานพอสมควรก่อนไปแจ้งความต่อตำรวจปปป. โดยเมื่อได้รับการติดต่อจากกลุ่มคนเหล่านี้ ถูกข่มขู่รีดทรัพย์ จนกระทั่งในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ตัดสินใจไปที่บ้านนายศรีสุวรรณด้วยความคับแค้นใจว่า จะร้องเรียนอะไร ในเมื่อผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่มีบัตรสนเทห์ ไม่พบความผิด คราวนั้นได้ชักชวน “พี่หมู” ที่ปรึกษาร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปด้วยเพื่อเป็นพยานเนื่องจากเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือ แต่ไม่เคยเรียนเรื่องนี้ต่อร้อยเอกธรรมนัสมาก่อน
ทั้งนี้ “พี่หมู” ไม่เคยแนะนำเรื่องจ่ายเงินให้นายศรีสุวรรณเพื่อจบเรื่อง โดยในวันที่ 28 พฤศจิกายนซึ่งไปที่บ้านนายศรีสุวรรณก็ไม่มีการจ่ายเงิน แต่ไปเพื่อตัดรำคาญ เมื่อแจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า ไม่มีความผิด นายศรีสุวรรณไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นกลุ่มของนายศรีสุวรรณยังไม่หยุดจึงตัดสินใจกับภรรยาที่จะเก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดี ยืนยันว่า ทีมงานของร้อยเอกธรรมนัสไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่ว่าจะมีใครพูดกล่าวอ้างอย่างไรก็ตาม ขอให้ฟังที่ตนพูดคนเดียวเท่านั้น
จากนั้นในวันที่ 20 ธันวาคม 2566 นายศรีสุวรรณแถลงข่าวที่รัฐสภาเกี่ยวกับการร้องเรียนการจัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โดยทิ้งท้ายว่า จะร้องอธิบดีกรมการข้าว วันต่อมานายยศวริศ ชูกล่อมหรือเจ๋ง ดอกจิกและเลขาส่วนตัวไปพบที่กรมการข้าว นายยศวริศแนะนำตัวเองด้วยตำแหน่งตามที่ปรากฏข่าว
นายณัฐกิตติ์กล่าวว่า การติดต่อกับกลุ่มของนายศรีสุวรรณเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ได้มอบให้ภรรยาเป็นผู้ดำเนินการเนื่องจากตนเองเป็นข้าราชการ ต้องทำงาน โดยการเจรจาของภรรยาเพื่อต่อรองและการนำเงินไปมอบให้นายศรีสุวรรณทุกครั้งนั้น เป็นการล่อซื้อ ส่วนที่ต้องล่อซื้อหลายครั้งเพราะครั้งเดียวคงจับใครไม่ได้ ต้องมีหลักฐานชัดเจนแน่นหนา โดยหารือกับตำรวจปปป. แล้ว
ทั้งนี้ไม่ทราบว่า เหตุใดจึงตกเป็นเป้า โดยไม่เฉพาะให้ร้ายตนเองเท่านั้น แต่ยังพาดพิงไปถึงภรรยา โดยพยายามโยงว่า เกี่ยวข้องกับคดี “หมูเถื่อน” และ “ตีนไก่เถื่อน” อีกด้วย ส่วนเรื่องที่มีผู้กล่าวว่า นักการเมือง อดีตผู้บริหารกระทรวงเกษตร “ป” สั่งให้เงียบ อธิบดีกรมการข้าวปฏิเสธไม่ทราบ พร้อมระบุว่า ไม่ทราบเรื่องอะไรทั้งนั้น หลังเกิดเหตุการณ์ข่มขู่รีดไถ ใครโทรหาก็ไม่ได้รับสาย ข้อมูลบางส่วนไม่สามารถพูดได้เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี
ก่อนที่กลุ่มของนายศรีสุวรรณจะติดต่อมา มีบัตรสนเทห์ส่งมาร้องเรียนโครงการของกรมการข้าว แต่จ่าหน้าซองผิด แทนที่จะส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กลับจ่าหน้าเป็นชื่อตน จึงเริ่มทราบความผิดปกติและแจ้งความที่สภ. แก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมาไว้แล้ว
ในบัตรสนเท่ห์และเรื่องที่นายศรีสุวรรณร้องระบุถึง งบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท โครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิด้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,255 ล้านบาท ที่อ้างว่า มีการทุจริต ทั้งที่จริงแล้ว กรมการข้าวไม่ได้บริหารงบประมาณส่วนนี้เลย เนื่องจากต่อมาครม. เปลี่ยนแปลงเป็นการใช้งบประมาณไปเป็นโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 หรือ “โครงการไร่ละพัน” ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ โดยให้กรมการข้าวสั่งจ่ายเช็ค 15,255 ล้านบาทเพื่อจ่ายจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่า ไม่ผิดเพราะไม่ได้บริหารงบประมาณส่วนนี้เลยและบอกนายศรีสุวรรณไปแล้วด้วย
นายณัฐกิตติ์กล่าวย้ำว่า ไม่รู้จักนายศรีสุวรรณมาก่อน โดยทราบว่า นายศรีสุวรรณเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ 4 ปี ตอนเรียนไม่ทันกัน พฤติกรรมของนายศรีสุวรรณนั้น หากเป็นสมัยเรียนมีการรับน้อง จะต้องโดน “โกนหัวครึ่งซีก ห่มผ้าแดง นั่งซาเล้ง แล้ววิ่งรอบสระ ชำระความเสีย” และต้องถูกก้านกล้วยแน่ๆ “ศรี” เป็นใครถึงไม่หยุด เข้าใจความคับแค้นใจของข้าราชการที่ไม่ได้ทำผิด แล้วถูกกระทำไหม
ในระหว่างการแถลงข่าว ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กลับจากประชุมครม. จึงเข้ามาให้กำลังใจอธิบดีกรมการข้าว โดยระบุว่า พูดคุยกันอยู่เป็นประจำ ทั้งอธิบดีและคุณนายติ๋ม ไม่ต้องพูดอะไรมาก อธิบดีกรมการข้าวขอบคุณร้อยเอกธรรมนัสที่ให้กำลังใจ
ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า แม้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องร้องเรียนโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการ 1.5 หมื่นล้าน ออกมาแล้วไม่ผิด แต่เมื่อเป็นประเด็นขึ้นมาใหม่ก็ให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง แต่ขออย่ามองว่า กระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้ร้าย แต่เป็นผู้ถูกกระทำ
ส่วนที่นายศรีสวรรณร้องเรียนการจัดซื้อเครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ให้ปลัดกระทรวงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน โดยจะถูกกลุ่มของนายศรีสุวรรณติดต่อในลักษณะเดียวกับอธิบดีกรมการข้าวหรือไม่ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกำลังทำหนังสือชี้แจงคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่. – 512 – สำนักข่าวไทย