สัญญาณชีวิตนอกโลกจากดาว Bennu

30 เมษายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


การศึกษาที่มาของดาวเคราะห์น้อย ประโยชน์ไม่ได้มีเพียงแค่การป้องกันการสูญพันธุ์ของมนุษยชาติจากเหตุการณ์พุ่งชนครั้งใหญ่เท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การไขปริศนาครั้งใหญ่เกี่ยวกับคุณสมบัติของจักรวาลในยุคแรก และปัจจัยที่นำไปสู่การกำเนิดสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลก

Bennu ความเสี่ยงพุ่งชนโลกในศตวรรษหน้า


ดาวเคราะห์น้อย Bennu ถูกค้นพบในปี 1999 ตั้งชื่อนกในเทพปกรณัมอียิปต์ ซึ่งเป็นตัวแทนของดวงอาทิตย์ การก่อกำเนิด และการเกิดใหม่

Bennu เป็นดาวเคราะห์น้อยชนิด C-type (โครงสร้างหลักเป็นคาร์บอน) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 490 เมตร ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ประมาณ 1.19 ปี

Bennu อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Apollo มีต้นกำเนิดจากแถบดาวเคราะห์น้อย (Asteroid Belt) ซึ่งอยู่ระหว่างวงโคจรดาวอังคารและดาวพฤหัสบดี คาดว่าเริ่มโคจรมาใกล้โลกเมื่อ 1-2.5 ล้านปีที่แล้ว


โอกาส Bennu เฉียดโลกในปี 2060/2135

คาดว่า ดาวเคราะห์น้อย Bennu จะโคจรมาใกล้โลกที่สุดในวันที่ 23 กันยายน 2060 โดยจะอยู่ห่างจากโลกประมาณ 750,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 2 เท่าของระยะห่างจากโลกถึงดวงจันทร์

และจะกลับมาโคจรใกล้กับโลกอีกครั้งในวันที่ 25 กันยายน 2135 คาดว่าจะอยู่ห่างจากพื้นโลกเพียง 203,000 กิโลเมตร

แม้จะไม่มีโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย Bennu จะพุ่งชนโลกในอีก 100 ปีข้างหน้า แต่มีการตั้งสมมติฐานว่า การโคจรใกล้โลกในปี 2135 อาจทำให้ดาวเคราะห์น้อย Bennu หลุดเข้า Gravitational Keyhole ของโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ในอวกาศที่แรงโน้มถ่วงของโลกจะเปลี่ยนแปลงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย และเพิ่มโอกาสการพุ่งชนโลกในวันที่ 24 กันยายน 2182

ตามสถิติพบว่า โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 500 เมตร พุ่งชนโลกจะมีขึ้นทุก ๆ 130,000 ปี

หากดาวเคราะห์น้อย Bennu พุ่งชนโลก จะก่อให้เกิดพลังงานเทียบเท่าระเบิด TNT จำนวน 1,200 ล้านตัน หรือรุนแรงกว่า Tsar Bomba ระเบิดนิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดในโลกประมาณ 22 เท่า

อย่างไรก็ดี แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์โดยทีมวิจัยของลอเรตตาและคณะในปี 2015 เชื่อว่า จุดจบของดาวเคราะห์น้อย Bennu มีหลายปัจจัยนอกเหนือจากการพุ่งชนโลก

โดยพบว่าในอีก 300 ล้านปีข้างหน้า มีโอกาส 48% ที่ Bennu จะพุ่งใส่ดวงอาทิตย์ และมีโอกาส 10% ที่จะถูกเหวี่ยงออกนอกระบบสุริยะชั้นในจากอิทธิพลแรงดึงดูดของดาวพฤหัสบดี

ส่วนดาวเคราะห์ที่มีโอกาสถูกดาวเคราะห์น้อย Bennu ชนมากที่สุดได้แก่ ดาวศุกร์ (26%) ตามด้วยโลก (10%) ดาวพุธ (3%) ดาวอังคาร (0.8%) และมีโอกาสกลับไปรวมตัวกับดาวพฤหัสบดีที่ 0.2%

ข้อมูลเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2025 พบว่า ดาวเคราะห์น้อย Bennu คือดาวเคราะห์น้อยเพียง 2 ดวงที่ความเสี่ยงพุ่งชนโลกสูงกว่า -2 ตามมาตรวัดความเสี่ยงของ Palermo scale โดยมีความเสี่ยงปัจจุบันที่ −1.40

มาตรวัดความเสี่ยงของ Palermo scale กำหนดให้ดาวเคราะห์น้อยที่มีค่าความเสี่ยงระดับ 2 จะมีความเสี่ยงชนโลกสูงกว่าดาวเคราะห์น้อยที่มีค่าความเสี่ยงระดับ 0 ที่ 100 เท่า

ส่วนดาวเคราะห์น้อยที่มีค่าความเสี่ยง -2 จะไม่มีโอกาสชนโลกเลย

ส่วนดาวเคราะห์น้อยที่มีค่าความเสี่ยงระหว่าง -2 ถึง 0 ถือเป็นดาวเคราะห์น้อยที่ต้องเฝ้าระวัง

ภารกิจสำรวจดาวเคราะห์น้อย Bennu

เมื่อปี 2016 องค์การ NASA ได้เริ่มภารกิจ OSIRIS-REx เพื่อส่งยานอวกาศไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย Bennu

โดยเริ่มส่งยานอวกาศออกนอกโลกเมื่อเดือนกันยายน 2016 เดินทางถึงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย Bennu ในเดือนธันวาคม 2018 และใช้เวลา 2 ปีในการโคจรรอบดาว Bennu เพื่อสำรวจจุดที่เหมาะสมที่จะลงจอดเพื่อเก็บตัวอย่างจากดาว Bennu

ยานอวกาศของภารกิจ OSIRIS-REx ลงจอดที่ดาว Bennu ในวันที่ 20 ตุลาคม 2020 และเก็บตัวอย่างเพื่อเดินทางกลับโลกในเดือนพฤษภาคม 2021 ก่อนจะส่งตัวอย่างกลับสู่โลกอย่างปลอดภัยในวันที่ 24 กันยายน 2023

รูปแบบการกำเนิดชีวิตจากตัวอย่างดาว Bennu

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2025 องค์การ NASA ได้เปิดเผยผลการสำรวจตัวอย่างที่ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Bennu โดยหลักฐานที่เป็นรูปแบบการกำเนิดชีวิตที่คล้ายกับโลก

ข้อมูลที่เผยแพร่ทางวารสาร Nature และ Nature Astronomy พบว่า หลักฐานที่นำกลับมาจากดาวเคราะห์น้อย Bennu มีส่วนประกอบของกรดอะมิโน 14 ชนิดจาก 20 ชนิดที่สิ่งมีชีวิตบนโลกใช้ในการสร้างโพรทีน

พบนิวคลีโอเบสหลักทั้ง 5 ตัว ได้แก่ อะดีนีน ไซโทซีน กวาซีน ไทมีน ยูเรซิล สารประกอบทางชีววิทยาที่จำเป็นต่อการสร้าง DNA และ RNA

ตัวอย่างที่พบยังประกอบไปด้วยสารแอมโมเนียและฟอร์มาลดีไฮด์ องค์ประกอบสำคัญของการสร้างกรดอะมิโน เช่นเดียวกับเกลือที่ทำให้เชื่อได้ว่าอาจจะเคยมีน้ำอยู่บนดาวเคราะห์น้อย Bennu มาก่อน

แม้ก่อนหน้านี้จะเคยพบรูปแบบการกำเนิดชีวิตจากตัวอย่างเทหวัตุนอกโลกที่ตกมายังโลก แต่ภารกิจสำรวจดาวเคราะห์น้อย Bennu ถือเป็นครั้งแรกที่วงการวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อย โดยไม่มีการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมภายในโลกมาก่อน

ตัวอย่างจากดาวเคราะห์น้อย Bennu จึงเปรียบเสมือนไทม์แมชชีนที่ช่วยให้วงการวิทยาศาสตร์ย้อนเวลากลับไปดูวิวัฒนาการการกำเนิดสิ่งมีชีวิตในยุคเริ่มต้นของระบบสุริยะ

การพบรูปแบบการกำเนิดชีวิตจากดาวเคราะห์น้อย ยังสนับสนุนสมมติฐานจุดกำเนิดชีวิตบนโลกจากการพุ่งชนโดยดาวเคราะห์น้อย

ขณะเดียวกัน ก็นำไปสู่คำถามว่า ขณะที่การพุ่งชนดาวเคราะห์น้อยเกิดขึ้นทุกแห่งในระบบสุริยะ เหตุใดโลกจึงเป็นสถานที่แห่งเดียวในระบบสุริยะที่พบหลักฐานการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิต

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.nasa.gov/news-release/nasas-asteroid-bennu-sample-reveals-mix-of-lifes-ingredients/
https://www.bbc.com/news/articles/c7vd1zjlr5lo
https://en.wikipedia.org/wiki/101955_Bennu

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]