การพุ่งเฉียดโลกของดาว Apophis ในปี 2029

29 เมษายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


หนึ่งในดาวเคราะห์น้อยที่เคยได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสจะพุ่งชนโลกมากที่สุดได้แก่ Apophis ดาวเคราะห์น้อยที่นักดาราศาสตร์เคยเชื่อว่าจะพุ่งชนโลกในปี 2029 ทำสถิติเป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีความเสี่ยงพุ่งชนโลกตามมาตรวัดความเสี่ยงของ Torino scale สูงที่สุดในระดับที่ 4

Apophis ถูกค้นพบในปี 2004 ตั้งชื่อในภาษากรีกตามเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายและความตายของอียิปต์ (Apep)


Apophis เป็นดาวเคราะห์น้อยชนิด S-type (โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นซิลิกาหรือหิน) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 340 เมตร ความยาวสูงสุดประมาณ 450 เมตร มีรูปร่างคล้ายถั่วลิสง ความสูงเทียบเท่าตึกเอ็มไพร์สเตตในนิวยอร์ก

Apophis อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten เดินทางด้วยความเร็ว 107,928 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 29.98 กิโลเมตรต่อวินาที

การค้นพบดาวเคราะห์น้อย Apophis นับเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความแปลกใจให้กับวงการดาราศาสตร์โลก เพราะโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เช่นนี้จะโคจรมาใกล้โลกมีเพียง 1 ครั้งในรอบ 800 ปี และโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เช่นนี้จะพุ่งชนโลกมีเพียง 1 ครั้งในรอบ 80,000 ปี


หากเกิดการพุ่งชนบนโลก พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจะเทียบเท่าแรงระเบิด TNT ปริมาณ 1,200 ล้านตัน หรือจำนวนระเบิดนิวเคลียร์ที่ทิ้งลงไปในเมืองฮิโรชิมะและเมืองนางาซากิรวมกันกว่าสามหมื่นลูก

เว็บไซต์ Space.com หากเกิดการพุ่งชนในเมืองใหญ่ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีหลายล้านคน

Apophis เคยมีความเสี่ยงชนโลกสูงสุด

Apophis เคยเป็นดาวเคราะห์น้อยที่ทำสถิติมีความเสี่ยงพุ่งชนโลกสูงสุด หลังเคยได้รับการจัดอันดับตามมาตรวัดความเสี่ยง Torino scale สูงที่สุดในระดับ 4 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2004 หลังพบว่าดาวเคราะห์น้อย Apophis มีความเสี่ยงจะพุ่งชนโลกในวันที่ 13 เมษายน 2029

แต่ภายหลังมีการปรับความเสี่ยงลดลง หลังมีการยืนยันว่า ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะแค่เดินทางเฉียดโลกในวันที่ 13 เมษายน 2029 เท่านั้น และไม่มีโอกาสชนโลกในวันดังกล่าวแต่อย่างใด

ปัจจัยเปลี่ยนวงโคจรจาก Yarkovsky Effect และ Gravitational Keyhole

Yarkovsky Effect คือแรงที่เกิดกับเทหวัตถุที่หมุนรอบตัวเอง เมื่อพื้นผิวได้รับพลังงานแสงจากดาวฤกษ์ทำให้เกิดการแผ่รังสี ส่งผลให้การเคลื่อนที่ของเทหวัตถุเปลี่ยนไป หากปรากฏการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวงโคจรของเทหวัตถุนั้น ๆ แต่จะเกิดกับเทหวัตถุขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 กิโลเมตรลงไปเท่านั้น

Gravitational Keyhole คือพื้นที่ในอวกาศที่แรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์จะดึงดูดดาวเคราะห์น้อยที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้วงโคจรเปลี่ยนแปลงและเพิ่มโอกาสการพุ่งชนดาวเคราะห์ในอนาคต

เคยมีความเชื่อว่า การพุ่งเฉียดโลกในปี 2029 ของดาวเคราะห์น้อย Apophis ทำให้ Apophis มีโอกาสหลุดเข้า Gravitational Keyhole ของโลก และพุ่งชนโลกในวันที่ 13 เมษายน 2036

หรือแบบจำลองที่เชื่อว่า Yarkovsky Effect จะทำให้ดาวเคราะห์น้อย Apophis หลุดเข้า Gravitational Keyhole ของโลกระหว่างการพุ่งเฉียดโลกในปี 2029 ส่งผลให้ Apophis โคจรมาใกล้โลกอีกครั้งในปี 2051 และจะหลุดเข้า Gravitational Keyhole อีกครั้งในปี 2051 ส่งผลให้ดาวเคราะห์น้อย Apophis พุ่งชนโลกในปี 2068

Apophis จะไม่ชนโลกในอีก 100 ปี

อย่างไรก็ดี การตรวจสอบเบื้องต้นโดยเครือข่ายอวกาศห้วงลึก Goldstone Deep Space Communications Complex ในแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2013 พบว่า โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะพุ่งชนโลกในปี 2036 มีเพียง 1 ในล้าน ส่วนโอกาสที่จะเกิด Yarkovsky Effect มีเพียง 2 ในล้าน ส่งผลให้โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะพุ่งชนโลกในปี 2068 แทบเป็นไปไม่ได้เช่นกัน

การตรวจสอบด้วยสัญญาณเรดาร์ในปี 2021 ช่วยยืนยันวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย Apophis ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยห้องปฏิบัติ Jet Propulsion Laboratory หน่วยงานขององค์การ NASA จะยืนยันในเดือนมีนาคม 2021 ว่า โลกจะไม่ต้องกังวลต่อโอกาสที่จะถูกดาวเคราะห์น้อย Apophis พุ่งชนไปอีก 100 ปีข้างหน้า พร้อมปรับอันดับความเสี่ยงตามมาตรวัด Torino scale เหลือแค่ 0 ในปัจจุบัน

การพุ่งเฉียดโลกของดาว Apophis ในปี 2029

ในวันที่ 13 เมษายน 2029 ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะโคจรมาใกล้โลกที่สุดในระยะทางเพียง 38,000 กิโลเมตรจากพื้นโลก ซึ่งใกล้กว่าระยะทางจากโลกกับดวงจันทร์ถึง 10 เท่า หรืออยู่ใกล้โลกพอ ๆ กับดาวเทียมค้างฟ้าซึ่งอยู่ในความสูงระดับ 35,786 กิโลเมตรจากพื้นโลก

พื้นที่ที่มีโอกาสเห็นการเยือนโลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis มากที่สุดได้แก่ซีกโลกตะวันออก ซึ่งคาดว่าความสว่างของดาวเคราะห์น้อย Apophis ระหว่างการเยือนโลกจะสว่างมากพอจนสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า

การเปลี่ยนกลุ่มดาว Apophis จากการเยือนโลก

แม้จะมีการยืนยันว่า การโคจรใกล้โลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis ในวันที่ 13 เมษายน 2029 จะไม่ส่งผลต่อทุกชีวิตบนโลก แต่คาดว่าการมาเยือนโลกที่จะมีขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า จะส่งผลต่อการโคจรของดาวเคราะห์น้อย Apophis ในอนาคตอย่างมาก

สิ่งที่นักดาราศาสตร์เฝ้าสังเกตในระหว่างการมาเยือนของดาวเคราะห์น้อย Apophis คืออิทธิพลของแรงดึงดูดโลกที่จะมีต่อการเคลื่อนที่ของ Apophis ทั้งแรงดึง แรงหมุน และแรงบิดจากแรงดึงดูดโลกอาจส่งผลต่อการโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวเคราะห์น้อย Apophis

ปัจจุบัน Apophis อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten ที่ใช้เวลาเดินทางรอบดวงอาทิตย์สั้นกว่าโลกที่ 0.9 ปีต่อรอบ แต่อิทธิพลของแรงดึงดูดของโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า จะทำให้วงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวเคราะห์น้อย Apophis เปลี่ยนไป ทำให้ Apophis เดินทางรอบดวงอาทิตย์นานขึ้นเป็น 1.2 ปี และเปลี่ยนสถานะของ Apophis จากกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten กลายเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Apollo ซึ่งเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อยที่เดินทางรอบดวงอาทิตย์นานกว่าโลกในที่สุด

ภารกิจสำรวจ Apophis

การเยือนโลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis ถือเป็นโอกาสครั้งแรกในรอบสหัสวรรษที่วงการวิทยาศาสตร์จะได้เรียนรู้พฤติกรรมของดาวเคราะห์น้อยอย่างใกล้ชิด

องค์การอวกาศยุโรป (ESA) ได้ก่อตั้งภารกิจ Rapid Apophis Mission for Space Safety (RAMSES) เพื่อเตรียมส่งยานอวกาศไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย Apophis โดยจะเดินทางออกจากโลกช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2028 และจะเดินทางถึง Apophis ในเดือนกุมภาพันธ์ 2029 หรือก่อนการพุ่งเฉียดโลกเพียง 2 เดือน เพื่อศึกษาปฏิกิริยาที่ Apophis มีต่อแรงดึงดูดของโลก

ส่วนภารกิจ OSIRIS–Apophis Explorer (APEX) ขององค์การ NASA จะใช้ยานอวกาศสำรวจดาวเคราะห์น้อย Apophis ด้วยการโคจรรอบ Apophis จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2030 เพื่อศึกษาวงโคจรของ Apophis ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการเยือนโลกมากน้อยแค่ไหน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://science.nasa.gov/solar-system/asteroids/apophis-facts/
https://www.forbes.com/sites/jamiecartereurope/2025/04/13/god-of-chaos-asteroid-its-four-years-until-the-rarest-space-event-of-our-lives/
https://en.wikipedia.org/wiki/99942_Apophis
https://www.facebook.com/watch/?v=830827260974198
NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย