การพุ่งเฉียดโลกของดาว Apophis ในปี 2029

29 เมษายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


หนึ่งในดาวเคราะห์น้อยที่เคยได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสจะพุ่งชนโลกมากที่สุดได้แก่ Apophis ดาวเคราะห์น้อยที่นักดาราศาสตร์เคยเชื่อว่าจะพุ่งชนโลกในปี 2029 ทำสถิติเป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีความเสี่ยงพุ่งชนโลกตามมาตรวัดความเสี่ยงของ Torino scale สูงที่สุดในระดับที่ 4

Apophis ถูกค้นพบในปี 2004 ตั้งชื่อในภาษากรีกตามเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายและความตายของอียิปต์ (Apep)


Apophis เป็นดาวเคราะห์น้อยชนิด S-type (โครงสร้างส่วนใหญ่เป็นซิลิกาหรือหิน) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 340 เมตร ความยาวสูงสุดประมาณ 450 เมตร มีรูปร่างคล้ายถั่วลิสง ความสูงเทียบเท่าตึกเอ็มไพร์สเตตในนิวยอร์ก

Apophis อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten เดินทางด้วยความเร็ว 107,928 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 29.98 กิโลเมตรต่อวินาที

การค้นพบดาวเคราะห์น้อย Apophis นับเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างความแปลกใจให้กับวงการดาราศาสตร์โลก เพราะโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เช่นนี้จะโคจรมาใกล้โลกมีเพียง 1 ครั้งในรอบ 800 ปี และโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่เช่นนี้จะพุ่งชนโลกมีเพียง 1 ครั้งในรอบ 80,000 ปี


หากเกิดการพุ่งชนบนโลก พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจะเทียบเท่าแรงระเบิด TNT ปริมาณ 1,200 ล้านตัน หรือจำนวนระเบิดนิวเคลียร์ที่ทิ้งลงไปในเมืองฮิโรชิมะและเมืองนางาซากิรวมกันกว่าสามหมื่นลูก

เว็บไซต์ Space.com หากเกิดการพุ่งชนในเมืองใหญ่ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีหลายล้านคน

Apophis เคยมีความเสี่ยงชนโลกสูงสุด

Apophis เคยเป็นดาวเคราะห์น้อยที่ทำสถิติมีความเสี่ยงพุ่งชนโลกสูงสุด หลังเคยได้รับการจัดอันดับตามมาตรวัดความเสี่ยง Torino scale สูงที่สุดในระดับ 4 เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2004 หลังพบว่าดาวเคราะห์น้อย Apophis มีความเสี่ยงจะพุ่งชนโลกในวันที่ 13 เมษายน 2029

แต่ภายหลังมีการปรับความเสี่ยงลดลง หลังมีการยืนยันว่า ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะแค่เดินทางเฉียดโลกในวันที่ 13 เมษายน 2029 เท่านั้น และไม่มีโอกาสชนโลกในวันดังกล่าวแต่อย่างใด

ปัจจัยเปลี่ยนวงโคจรจาก Yarkovsky Effect และ Gravitational Keyhole

Yarkovsky Effect คือแรงที่เกิดกับเทหวัตถุที่หมุนรอบตัวเอง เมื่อพื้นผิวได้รับพลังงานแสงจากดาวฤกษ์ทำให้เกิดการแผ่รังสี ส่งผลให้การเคลื่อนที่ของเทหวัตถุเปลี่ยนไป หากปรากฏการณ์เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวงโคจรของเทหวัตถุนั้น ๆ แต่จะเกิดกับเทหวัตถุขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 กิโลเมตรลงไปเท่านั้น

Gravitational Keyhole คือพื้นที่ในอวกาศที่แรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์จะดึงดูดดาวเคราะห์น้อยที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้วงโคจรเปลี่ยนแปลงและเพิ่มโอกาสการพุ่งชนดาวเคราะห์ในอนาคต

เคยมีความเชื่อว่า การพุ่งเฉียดโลกในปี 2029 ของดาวเคราะห์น้อย Apophis ทำให้ Apophis มีโอกาสหลุดเข้า Gravitational Keyhole ของโลก และพุ่งชนโลกในวันที่ 13 เมษายน 2036

หรือแบบจำลองที่เชื่อว่า Yarkovsky Effect จะทำให้ดาวเคราะห์น้อย Apophis หลุดเข้า Gravitational Keyhole ของโลกระหว่างการพุ่งเฉียดโลกในปี 2029 ส่งผลให้ Apophis โคจรมาใกล้โลกอีกครั้งในปี 2051 และจะหลุดเข้า Gravitational Keyhole อีกครั้งในปี 2051 ส่งผลให้ดาวเคราะห์น้อย Apophis พุ่งชนโลกในปี 2068

Apophis จะไม่ชนโลกในอีก 100 ปี

อย่างไรก็ดี การตรวจสอบเบื้องต้นโดยเครือข่ายอวกาศห้วงลึก Goldstone Deep Space Communications Complex ในแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2013 พบว่า โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะพุ่งชนโลกในปี 2036 มีเพียง 1 ในล้าน ส่วนโอกาสที่จะเกิด Yarkovsky Effect มีเพียง 2 ในล้าน ส่งผลให้โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะพุ่งชนโลกในปี 2068 แทบเป็นไปไม่ได้เช่นกัน

การตรวจสอบด้วยสัญญาณเรดาร์ในปี 2021 ช่วยยืนยันวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย Apophis ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น โดยห้องปฏิบัติ Jet Propulsion Laboratory หน่วยงานขององค์การ NASA จะยืนยันในเดือนมีนาคม 2021 ว่า โลกจะไม่ต้องกังวลต่อโอกาสที่จะถูกดาวเคราะห์น้อย Apophis พุ่งชนไปอีก 100 ปีข้างหน้า พร้อมปรับอันดับความเสี่ยงตามมาตรวัด Torino scale เหลือแค่ 0 ในปัจจุบัน

การพุ่งเฉียดโลกของดาว Apophis ในปี 2029

ในวันที่ 13 เมษายน 2029 ดาวเคราะห์น้อย Apophis จะโคจรมาใกล้โลกที่สุดในระยะทางเพียง 38,000 กิโลเมตรจากพื้นโลก ซึ่งใกล้กว่าระยะทางจากโลกกับดวงจันทร์ถึง 10 เท่า หรืออยู่ใกล้โลกพอ ๆ กับดาวเทียมค้างฟ้าซึ่งอยู่ในความสูงระดับ 35,786 กิโลเมตรจากพื้นโลก

พื้นที่ที่มีโอกาสเห็นการเยือนโลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis มากที่สุดได้แก่ซีกโลกตะวันออก ซึ่งคาดว่าความสว่างของดาวเคราะห์น้อย Apophis ระหว่างการเยือนโลกจะสว่างมากพอจนสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า

การเปลี่ยนกลุ่มดาว Apophis จากการเยือนโลก

แม้จะมีการยืนยันว่า การโคจรใกล้โลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis ในวันที่ 13 เมษายน 2029 จะไม่ส่งผลต่อทุกชีวิตบนโลก แต่คาดว่าการมาเยือนโลกที่จะมีขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้า จะส่งผลต่อการโคจรของดาวเคราะห์น้อย Apophis ในอนาคตอย่างมาก

สิ่งที่นักดาราศาสตร์เฝ้าสังเกตในระหว่างการมาเยือนของดาวเคราะห์น้อย Apophis คืออิทธิพลของแรงดึงดูดโลกที่จะมีต่อการเคลื่อนที่ของ Apophis ทั้งแรงดึง แรงหมุน และแรงบิดจากแรงดึงดูดโลกอาจส่งผลต่อการโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวเคราะห์น้อย Apophis

ปัจจุบัน Apophis อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten ที่ใช้เวลาเดินทางรอบดวงอาทิตย์สั้นกว่าโลกที่ 0.9 ปีต่อรอบ แต่อิทธิพลของแรงดึงดูดของโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า จะทำให้วงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของดาวเคราะห์น้อย Apophis เปลี่ยนไป ทำให้ Apophis เดินทางรอบดวงอาทิตย์นานขึ้นเป็น 1.2 ปี และเปลี่ยนสถานะของ Apophis จากกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Aten กลายเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อย Apollo ซึ่งเป็นกลุ่มดาวเคราะห์น้อยที่เดินทางรอบดวงอาทิตย์นานกว่าโลกในที่สุด

ภารกิจสำรวจ Apophis

การเยือนโลกของดาวเคราะห์น้อย Apophis ถือเป็นโอกาสครั้งแรกในรอบสหัสวรรษที่วงการวิทยาศาสตร์จะได้เรียนรู้พฤติกรรมของดาวเคราะห์น้อยอย่างใกล้ชิด

องค์การอวกาศยุโรป (ESA) ได้ก่อตั้งภารกิจ Rapid Apophis Mission for Space Safety (RAMSES) เพื่อเตรียมส่งยานอวกาศไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย Apophis โดยจะเดินทางออกจากโลกช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2028 และจะเดินทางถึง Apophis ในเดือนกุมภาพันธ์ 2029 หรือก่อนการพุ่งเฉียดโลกเพียง 2 เดือน เพื่อศึกษาปฏิกิริยาที่ Apophis มีต่อแรงดึงดูดของโลก

ส่วนภารกิจ OSIRIS–Apophis Explorer (APEX) ขององค์การ NASA จะใช้ยานอวกาศสำรวจดาวเคราะห์น้อย Apophis ด้วยการโคจรรอบ Apophis จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2030 เพื่อศึกษาวงโคจรของ Apophis ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหลังจากการเยือนโลกมากน้อยแค่ไหน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://science.nasa.gov/solar-system/asteroids/apophis-facts/
https://www.forbes.com/sites/jamiecartereurope/2025/04/13/god-of-chaos-asteroid-its-four-years-until-the-rarest-space-event-of-our-lives/
https://en.wikipedia.org/wiki/99942_Apophis
https://www.facebook.com/watch/?v=830827260974198
NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]