ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : การรักษา และป้องกัน โรคลิชมาเนีย

Screenshot

“ลิชมาเนีย” โรคที่คนไทยรู้จักกันไม่มาก แต่ทำให้เสียชีวิตได้ และพบหลายพื้นที่ในประเทศไทย


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศ.นพ.ดร.เผด็จ สิริยะเสถียร ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในอดีต “โรคลิชมาเนีย” (Leishmania) สามารถพบได้หลายพื้นที่ทั่วโลกในประเทศเขตร้อนและใกล้เขตร้อน ทำให้เสียชีวิตได้ แต่ก็ยังไม่พบในประเทศไทย


ผู้ป่วยโรคลิชมาเนียจะพบเฉพาะในคนต่างชาติ และ/หรือ คนไทยที่เดินทางไปทำงานแถบตะวันออกกลาง และเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย (มีบางคนอาจได้รับเชื้อโรคลิชมาเนียติดตัวมาด้วย)

ประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าพบคนไทยที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศแต่ป่วยเป็นโรคลิชมาเนียได้เช่นเดียวกัน

“ลิชมาเนีย” โรคที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม NTD : Neglected tropical diseases คือ โรคเขตร้อนที่ถูกละเลย


ในความเป็นจริงแล้วอาการของโรคลิชมาเนียค่อนข้างรุนแรง การรักษาใช้เวลานาน โดยเฉพาะคนที่ภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ (Acquired Immune Deficiency Syndrome : AIDS) ที่ติดเชื้อลิชมาเนียร่วมด้วย

เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2568 เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเตือนภัยอันตรายของ “โรคติดเชื้อโปรโตซัวลิชมาเนีย” ซึ่งมีแมลงริ้นฝอยทรายเป็นพาหะนำโรค

ประเทศไทยพบผู้ป่วยช่าวต่างชาติที่เดินทางจากประเทศแถบตะวันออกกลางติดเชื้อโรคลิชมาเนีย (Leishmaniasis) เข้ามายังประเทศไทย และรวมถึงพบผู้ป่วยโรคลิชมาเนียที่ติดเชื้อในประเทศด้วย

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 จนถึงปัจจุบัน มีรายงานพบผู้ป่วยโรคลิชมาเนียในประเทศไทย 45 ราย เสียชีวิต 7 ราย และตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2568 พบผู้ป่วยโรคลิชมาเนีย 2 ราย

“ลิชมาเนีย” โรคติดต่อนำโดยแมลง

โรคลิชมาเนียเกิดจากเชื้อโปรโตซัวกลุ่มหนึ่ง พบได้ 2 ระยะคือ พบในแมลง และสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง เช่น คน สุนัข วัว หนู

แมลง “ริ้นฝอยทราย” (sand fly) และ “ริ้นน้ำเค็ม” (Biting midges) คือพาหะของโรคลิชมาเนีย

ริ้นฝอยทรายและริ้นน้ำเค็ม ออกหากินเวลาพลบค่ำหรือกลางคืน การออกไปกรีดยางเวลากลางคืน มีกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ควรทาสารเคมีป้องกันแมลง จะช่วยให้ลดการถูกแมลงกัดได้มาก

นอกจากนี้ ยังไม่มั่นใจว่าตัวสัตว์ที่เป็น “รังโรค” และเพิ่มจำนวนของโรคจริง ๆ คืออะไร เพราะจากการตรวจพบดีเอ็นเอในหนู สุนัข แต่ต้องแสดงให้เห็นว่ามีเชื้อจริง ๆ ไม่ใช่มีแค่ดีเอ็นเอของเชื้อ

เชื้อโรคลิชมาเนียจัดอยูในกลุ่มโปรโตซัว มีขนาด 3 ไมครอน ต้องดูจากกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น ซึ่งจะต้องนำแมลงพาหะมาผ่าถึงจะมองเห็นตัวเชื้อนี้

ส่วนในผู้ป่วยที่มาด้วยแผล และนำแผลมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ก็มีโอกาสเห็นตัวเชื้อได้เหมือนกัน

คนที่ถูกแมลงพาหะกัดจะไม่แสดงอาการทันที อาจจะใช้เวลา 3-6 เดือน หรือ 1 ปี อาการจะปรากฏให้เห็น ซึ่งพบได้ทั้งผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันปกติหรือผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม และพบในผู้ป่วยโรคเอดส์มากกว่าผู้ป่วยปกติ

ดังนั้น ถ้ามีแผลและใช้เวลารักษานานแต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น แผลขยายใหญ่ขึ้น รวมทั้งผู้ป่วยอาศัยอยู่ในแหล่งระบาด ควรส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อโรคลิชมาเนีย (ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันปกติหรือภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ)

เชื้อโรคลิชมาเนียที่พบในประเทศไทย

สำหรับเชื้อโรคลิชมาเนียที่พบมี 2 ตัวหลัก คือ 1.พบได้ทั่วโลก 2.พบได้เฉพาะในประเทศไทย เรียกว่า โรคลิชมาเนียโอเรียนทาลิส (Leishmania orientalis)

โรคลิชมาเนียโอเรียนทาลิสอาจจะทำให้เกิดแผลบริเวณใบหน้ารุนแรงได้ในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเอดส์ก็มีเสียชีวิตไปแล้ว 1 รายด้วยเชื้อชนิดนี้

เชื้อโรคลิชมาเนียคงจะมีอยู่แล้วในประเทศไทย แต่ในอดีตไม่มีปัญหาโรคเอดส์เข้ามาในประเทศไทย แต่ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเอดส์จำนวนมากขึ้น เชื้อโรคสามารถกระจายผ่านแมลงได้ การวินิจฉัยมีความแม่นยำและรวดเร็วมากด้วย

ส่วนใหญ่พบโรคลิชมาเนียทางภาคใต้และภาคเหนือของประเทศไทย สาเหตุหนึ่งจากแมลงพาหะชอบอากาศชื้น เช่น ตัวอ่อนริ้นน้ำเค็มเจริญเติบโตได้นานและดีในดินโคลนที่มีความชื้นตลอด  

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยยังไม่พบผู้ป่วย ยกเว้นเคยพบในกลุ่มนักศึกษาที่เคยไปฝึกงานประเทศอิสราเอลติดโรคกลับมา

อาการของโรคลิชมาเนีย

โรคลิชมาเนียมีอาการ 3 รูปแบบ ขึ้นกับภูมิคุ้มกันร่างกายของผู้ป่วยและชนิดของเชื้อ

แบบที่ 1 ไม่รุนแรงมาก เรียกลิชมาเนียที่ผิวหนังคล้ายแผล ขึ้นกับว่าครั้งแรกที่ติดเชื้อแมลงกัดกี่ตำแหน่ง

แบบที่ 2 บริเวณเยื่อบุต่าง ๆ อาจจะทำลายริมฝีปาก ผนังกั้นช่องจมูก

แบบที่ 3 รุนแรงมากที่สุด พบในอวัยวะภายใน ตับ ม้าม ไขกระดูก ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

การป้องกันโรคลิชมาเนีย

เส้นทางการติดต่อสู่คนของเชื้อโรคลิชมาเนีย โดยแมลงเป็นพาหะ

ระยะที่พบเชื้อในแมลงสามารถเคลื่อนที่ได้ โดยแมลงใช้อวัยวะที่เรียกว่า flagella ขณะที่แมลงกัดดูดเลือดคนหรือสัตว์ เ

ชื้อลิชมาเนียจะเข้าไปเพิ่มจำนวนในตัวแมลงและย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ ปากแมลง เมื่อแมลงไปกัดคนหรือสัตว์เพื่อดูดเลือดครั้งต่อไป ก็จะถ่ายทอดตัวลิชมาเนียเข้าสู่ร่างกายของคนหรือสัตว์

ขณะที่เชื้อลิชมาเนียเข้าสู่ร่างกายคนจะถูกเม็ดเลือดขาวกิน ที่เรียกว่า แมกโครฟาจ (macrophage) แต่เชื้อลิชมาเนียสามารถหลบหลีกแมกโครฟาจได้และยังไปเพิ่มจำนวนในเซลล์แมกโครฟาจเรื่อย ๆ จนเซลล์แมกโครฟาจแตกแล้วไปติดเซลล์แมกโครฟาจอื่น ๆ ในร่างกาย รวมถึงสามารถเดินทางไปยังอวัยวะสำคัญ (เช่น ตับ ม้าม ไขกระดูก) ของคนเรา

เชื้อลิชมาเนียสามารถกดการทำงานของไขกระดูก ทำให้ผู้ป่วยซีด เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวชนิดต่าง ๆ ลดลง

ตัวเชื้อลิชมาเนียเล็กมาก จะต้องส่องกล้องดูถึงจะมองเห็น ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง หรือภูมิคุ้มกันต่ำ ถ้าอยู่ในพื้นที่ระบาด เช่น จังหวัดทางภาคใต้ หรือภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย) จะต้องให้บุคลากรทางสาธารณสุขนึกถึงโรคนี้มากขึ้น เพราะอดีตเรามักคิดกันว่าโรคลิชมาเนียไม่มีอยู่ในประเทศไทย ทำให้ปล่อยปะละเลย

ดังนั้น ใครที่ต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาดของเชื้อโรคลิชมาเนีย ง่ายที่สุดก็คือการทาสารเคมีที่ใช้ไล่แมลง (ชนิดเดียวกับที่ใช้ไล่ยุง) ป้องกันไม่ให้แมลงเหล่านี้มากัด

ถ้าพบผู้ป่วย 1 คน ทีมสอบสวนโรคก็จะต้องลงพื้นที่ไปควบคุมไม่ให้แมลงไปกัดคนอื่นเพิ่ม และต้องศึกษาเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับสัตว์ที่เป็นรังโรค (สุนัข แมว วัว) บริเวณบ้านของผู้ป่วย จากนั้นนำแมลงรอบ ๆ บ้านผู้ป่วยมาดูว่ามีเชื้อลิชมาเนียอยู่หรือไม่

สำหรับคนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ระบาดจะต้องระมัดระวังตัวเอง เช่น ถ้ามีแผลหรือมีไข้เรื้อรัง อาจจะต้องแจ้งแพทย์ว่าบริเวณที่พักอาศัยมีผู้ป่วยลิชมาเนียมาก่อน จะทำให้แพทย์นึกถึงโรคนี้ได้มากขึ้น หรือผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันไม่ปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ มีตับและม้ามโตแพทย์ควรนึกถึงโรคนี้ไปด้วย เพราะลิชมาเนียมักจะเป็นโรคที่ถูกละเลยไม่ได้รับการวินิจฉัย

การรักษาโรคลิชมาเนีย

เนื่องจากเดิมประเทศไทยไม่คิดว่าจะเป็นแหล่งระบาดของโรคนี้ ยาที่ใช้รักษาโรคลิชมาเนียจึงมีเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น นำยากลุ่มฆ่าเชื้อรามาใช้กับโรคนี้  

โรคลิชมาเนียที่พบในคนไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ อาจจะต้องใช้เวลารักษา และมีผู้ป่วยส่วนหนึ่งเสียชีวิต รวมถึงมีผู้ป่วยบางคนกลับมาเป็นซ้ำอีก

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สามารถแยกเชื้อจากผู้ป่วยโรคลิชมาเนียได้ประมาณ 10 สายพันธุ์ ใช้สำหรับการศึกษา วิจัย อนาคตก็ศึกษาความไวของแต่ละสายพันธุ์กับยาที่มีอยู่ หรือยาที่คิดว่าจะต้องนำเข้ามาใช้

บางสายพันธุ์ที่ได้จากผู้ป่วยที่กลับเป็นซ้ำ จะได้ทดสอบว่าควรปรับปริมาณยาหรือการใช้ยาที่ยาวขึ้น

สำหรับในพื้นที่พบผู้ป่วยโรคลิชมาเนีย ทีมงานก็จะรีบแจ้งกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะลงไปฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลง

เนื่องจากไม่รู้ชัดเจนว่าสัตว์ตัวไหนคือรังโรคลิชมาเนีย ดังนั้นการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลงจึงเป็นแนวทางป้องกันที่เหมาะสม

ในความเป็นจริง มีแมลงพาหะหลายชนิดกัดคนแล้วนำโรค เช่น ยุง ริ้นฝอยทราย ริ้นน้ำเค็ม ไม่เฉพาะลิชมาเนีย มีการนำเชื้อไวรัส เช่น ยุงนำโรคไข้เลือดออก (Dengue fever) โรคไข้ปวดข้อยุงลาย (Chikungunya หรือ Chikungunya fever) โรคไข้ซิกา (Zika fever) นำไวรัสไปติดเชื้อที่สมอง

แนวทาง “การป้องกัน” สำคัญมาก คือ การป้องกันตัวไม่ให้ถูกแมลงกัดเป็นเรื่องที่สำคัญ ทำลายแห่งเพาะพันธุ์ยุงทำให้โรคที่มาสู่ตัวเราลดน้อยลง

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เขียนและเรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ

1. ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : โรคลิชมาเนีย : เชื้อร้ายที่มากับ “ริ้นฝอยทราย”

2. ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : โรคลิชมาเนีย : รักษาและป้องกัน

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]