ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : การรักษา และป้องกัน โรคลิชมาเนีย

Screenshot

“ลิชมาเนีย” โรคที่คนไทยรู้จักกันไม่มาก แต่ทำให้เสียชีวิตได้ และพบหลายพื้นที่ในประเทศไทย


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ศ.นพ.ดร.เผด็จ สิริยะเสถียร ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในอดีต “โรคลิชมาเนีย” (Leishmania) สามารถพบได้หลายพื้นที่ทั่วโลกในประเทศเขตร้อนและใกล้เขตร้อน ทำให้เสียชีวิตได้ แต่ก็ยังไม่พบในประเทศไทย


ผู้ป่วยโรคลิชมาเนียจะพบเฉพาะในคนต่างชาติ และ/หรือ คนไทยที่เดินทางไปทำงานแถบตะวันออกกลาง และเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย (มีบางคนอาจได้รับเชื้อโรคลิชมาเนียติดตัวมาด้วย)

ประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าพบคนไทยที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศแต่ป่วยเป็นโรคลิชมาเนียได้เช่นเดียวกัน

“ลิชมาเนีย” โรคที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม NTD : Neglected tropical diseases คือ โรคเขตร้อนที่ถูกละเลย


ในความเป็นจริงแล้วอาการของโรคลิชมาเนียค่อนข้างรุนแรง การรักษาใช้เวลานาน โดยเฉพาะคนที่ภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ (Acquired Immune Deficiency Syndrome : AIDS) ที่ติดเชื้อลิชมาเนียร่วมด้วย

เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2568 เว็บไซต์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเตือนภัยอันตรายของ “โรคติดเชื้อโปรโตซัวลิชมาเนีย” ซึ่งมีแมลงริ้นฝอยทรายเป็นพาหะนำโรค

ประเทศไทยพบผู้ป่วยช่าวต่างชาติที่เดินทางจากประเทศแถบตะวันออกกลางติดเชื้อโรคลิชมาเนีย (Leishmaniasis) เข้ามายังประเทศไทย และรวมถึงพบผู้ป่วยโรคลิชมาเนียที่ติดเชื้อในประเทศด้วย

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 จนถึงปัจจุบัน มีรายงานพบผู้ป่วยโรคลิชมาเนียในประเทศไทย 45 ราย เสียชีวิต 7 ราย และตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2568 พบผู้ป่วยโรคลิชมาเนีย 2 ราย

“ลิชมาเนีย” โรคติดต่อนำโดยแมลง

โรคลิชมาเนียเกิดจากเชื้อโปรโตซัวกลุ่มหนึ่ง พบได้ 2 ระยะคือ พบในแมลง และสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง เช่น คน สุนัข วัว หนู

แมลง “ริ้นฝอยทราย” (sand fly) และ “ริ้นน้ำเค็ม” (Biting midges) คือพาหะของโรคลิชมาเนีย

ริ้นฝอยทรายและริ้นน้ำเค็ม ออกหากินเวลาพลบค่ำหรือกลางคืน การออกไปกรีดยางเวลากลางคืน มีกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ควรทาสารเคมีป้องกันแมลง จะช่วยให้ลดการถูกแมลงกัดได้มาก

นอกจากนี้ ยังไม่มั่นใจว่าตัวสัตว์ที่เป็น “รังโรค” และเพิ่มจำนวนของโรคจริง ๆ คืออะไร เพราะจากการตรวจพบดีเอ็นเอในหนู สุนัข แต่ต้องแสดงให้เห็นว่ามีเชื้อจริง ๆ ไม่ใช่มีแค่ดีเอ็นเอของเชื้อ

เชื้อโรคลิชมาเนียจัดอยูในกลุ่มโปรโตซัว มีขนาด 3 ไมครอน ต้องดูจากกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น ซึ่งจะต้องนำแมลงพาหะมาผ่าถึงจะมองเห็นตัวเชื้อนี้

ส่วนในผู้ป่วยที่มาด้วยแผล และนำแผลมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ก็มีโอกาสเห็นตัวเชื้อได้เหมือนกัน

คนที่ถูกแมลงพาหะกัดจะไม่แสดงอาการทันที อาจจะใช้เวลา 3-6 เดือน หรือ 1 ปี อาการจะปรากฏให้เห็น ซึ่งพบได้ทั้งผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันปกติหรือผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม และพบในผู้ป่วยโรคเอดส์มากกว่าผู้ป่วยปกติ

ดังนั้น ถ้ามีแผลและใช้เวลารักษานานแต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น แผลขยายใหญ่ขึ้น รวมทั้งผู้ป่วยอาศัยอยู่ในแหล่งระบาด ควรส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อโรคลิชมาเนีย (ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันปกติหรือภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ)

เชื้อโรคลิชมาเนียที่พบในประเทศไทย

สำหรับเชื้อโรคลิชมาเนียที่พบมี 2 ตัวหลัก คือ 1.พบได้ทั่วโลก 2.พบได้เฉพาะในประเทศไทย เรียกว่า โรคลิชมาเนียโอเรียนทาลิส (Leishmania orientalis)

โรคลิชมาเนียโอเรียนทาลิสอาจจะทำให้เกิดแผลบริเวณใบหน้ารุนแรงได้ในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคเอดส์ก็มีเสียชีวิตไปแล้ว 1 รายด้วยเชื้อชนิดนี้

เชื้อโรคลิชมาเนียคงจะมีอยู่แล้วในประเทศไทย แต่ในอดีตไม่มีปัญหาโรคเอดส์เข้ามาในประเทศไทย แต่ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคเอดส์จำนวนมากขึ้น เชื้อโรคสามารถกระจายผ่านแมลงได้ การวินิจฉัยมีความแม่นยำและรวดเร็วมากด้วย

ส่วนใหญ่พบโรคลิชมาเนียทางภาคใต้และภาคเหนือของประเทศไทย สาเหตุหนึ่งจากแมลงพาหะชอบอากาศชื้น เช่น ตัวอ่อนริ้นน้ำเค็มเจริญเติบโตได้นานและดีในดินโคลนที่มีความชื้นตลอด  

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยยังไม่พบผู้ป่วย ยกเว้นเคยพบในกลุ่มนักศึกษาที่เคยไปฝึกงานประเทศอิสราเอลติดโรคกลับมา

อาการของโรคลิชมาเนีย

โรคลิชมาเนียมีอาการ 3 รูปแบบ ขึ้นกับภูมิคุ้มกันร่างกายของผู้ป่วยและชนิดของเชื้อ

แบบที่ 1 ไม่รุนแรงมาก เรียกลิชมาเนียที่ผิวหนังคล้ายแผล ขึ้นกับว่าครั้งแรกที่ติดเชื้อแมลงกัดกี่ตำแหน่ง

แบบที่ 2 บริเวณเยื่อบุต่าง ๆ อาจจะทำลายริมฝีปาก ผนังกั้นช่องจมูก

แบบที่ 3 รุนแรงมากที่สุด พบในอวัยวะภายใน ตับ ม้าม ไขกระดูก ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

การป้องกันโรคลิชมาเนีย

เส้นทางการติดต่อสู่คนของเชื้อโรคลิชมาเนีย โดยแมลงเป็นพาหะ

ระยะที่พบเชื้อในแมลงสามารถเคลื่อนที่ได้ โดยแมลงใช้อวัยวะที่เรียกว่า flagella ขณะที่แมลงกัดดูดเลือดคนหรือสัตว์ เ

ชื้อลิชมาเนียจะเข้าไปเพิ่มจำนวนในตัวแมลงและย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ ปากแมลง เมื่อแมลงไปกัดคนหรือสัตว์เพื่อดูดเลือดครั้งต่อไป ก็จะถ่ายทอดตัวลิชมาเนียเข้าสู่ร่างกายของคนหรือสัตว์

ขณะที่เชื้อลิชมาเนียเข้าสู่ร่างกายคนจะถูกเม็ดเลือดขาวกิน ที่เรียกว่า แมกโครฟาจ (macrophage) แต่เชื้อลิชมาเนียสามารถหลบหลีกแมกโครฟาจได้และยังไปเพิ่มจำนวนในเซลล์แมกโครฟาจเรื่อย ๆ จนเซลล์แมกโครฟาจแตกแล้วไปติดเซลล์แมกโครฟาจอื่น ๆ ในร่างกาย รวมถึงสามารถเดินทางไปยังอวัยวะสำคัญ (เช่น ตับ ม้าม ไขกระดูก) ของคนเรา

เชื้อลิชมาเนียสามารถกดการทำงานของไขกระดูก ทำให้ผู้ป่วยซีด เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวชนิดต่าง ๆ ลดลง

ตัวเชื้อลิชมาเนียเล็กมาก จะต้องส่องกล้องดูถึงจะมองเห็น ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง หรือภูมิคุ้มกันต่ำ ถ้าอยู่ในพื้นที่ระบาด เช่น จังหวัดทางภาคใต้ หรือภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย) จะต้องให้บุคลากรทางสาธารณสุขนึกถึงโรคนี้มากขึ้น เพราะอดีตเรามักคิดกันว่าโรคลิชมาเนียไม่มีอยู่ในประเทศไทย ทำให้ปล่อยปะละเลย

ดังนั้น ใครที่ต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ระบาดของเชื้อโรคลิชมาเนีย ง่ายที่สุดก็คือการทาสารเคมีที่ใช้ไล่แมลง (ชนิดเดียวกับที่ใช้ไล่ยุง) ป้องกันไม่ให้แมลงเหล่านี้มากัด

ถ้าพบผู้ป่วย 1 คน ทีมสอบสวนโรคก็จะต้องลงพื้นที่ไปควบคุมไม่ให้แมลงไปกัดคนอื่นเพิ่ม และต้องศึกษาเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับสัตว์ที่เป็นรังโรค (สุนัข แมว วัว) บริเวณบ้านของผู้ป่วย จากนั้นนำแมลงรอบ ๆ บ้านผู้ป่วยมาดูว่ามีเชื้อลิชมาเนียอยู่หรือไม่

สำหรับคนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ระบาดจะต้องระมัดระวังตัวเอง เช่น ถ้ามีแผลหรือมีไข้เรื้อรัง อาจจะต้องแจ้งแพทย์ว่าบริเวณที่พักอาศัยมีผู้ป่วยลิชมาเนียมาก่อน จะทำให้แพทย์นึกถึงโรคนี้ได้มากขึ้น หรือผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันไม่ปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ มีตับและม้ามโตแพทย์ควรนึกถึงโรคนี้ไปด้วย เพราะลิชมาเนียมักจะเป็นโรคที่ถูกละเลยไม่ได้รับการวินิจฉัย

การรักษาโรคลิชมาเนีย

เนื่องจากเดิมประเทศไทยไม่คิดว่าจะเป็นแหล่งระบาดของโรคนี้ ยาที่ใช้รักษาโรคลิชมาเนียจึงมีเพียงบางกลุ่มเท่านั้น เช่น นำยากลุ่มฆ่าเชื้อรามาใช้กับโรคนี้  

โรคลิชมาเนียที่พบในคนไทยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติ อาจจะต้องใช้เวลารักษา และมีผู้ป่วยส่วนหนึ่งเสียชีวิต รวมถึงมีผู้ป่วยบางคนกลับมาเป็นซ้ำอีก

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สามารถแยกเชื้อจากผู้ป่วยโรคลิชมาเนียได้ประมาณ 10 สายพันธุ์ ใช้สำหรับการศึกษา วิจัย อนาคตก็ศึกษาความไวของแต่ละสายพันธุ์กับยาที่มีอยู่ หรือยาที่คิดว่าจะต้องนำเข้ามาใช้

บางสายพันธุ์ที่ได้จากผู้ป่วยที่กลับเป็นซ้ำ จะได้ทดสอบว่าควรปรับปริมาณยาหรือการใช้ยาที่ยาวขึ้น

สำหรับในพื้นที่พบผู้ป่วยโรคลิชมาเนีย ทีมงานก็จะรีบแจ้งกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะลงไปฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลง

เนื่องจากไม่รู้ชัดเจนว่าสัตว์ตัวไหนคือรังโรคลิชมาเนีย ดังนั้นการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลงจึงเป็นแนวทางป้องกันที่เหมาะสม

ในความเป็นจริง มีแมลงพาหะหลายชนิดกัดคนแล้วนำโรค เช่น ยุง ริ้นฝอยทราย ริ้นน้ำเค็ม ไม่เฉพาะลิชมาเนีย มีการนำเชื้อไวรัส เช่น ยุงนำโรคไข้เลือดออก (Dengue fever) โรคไข้ปวดข้อยุงลาย (Chikungunya หรือ Chikungunya fever) โรคไข้ซิกา (Zika fever) นำไวรัสไปติดเชื้อที่สมอง

แนวทาง “การป้องกัน” สำคัญมาก คือ การป้องกันตัวไม่ให้ถูกแมลงกัดเป็นเรื่องที่สำคัญ ทำลายแห่งเพาะพันธุ์ยุงทำให้โรคที่มาสู่ตัวเราลดน้อยลง

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เขียนและเรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ

1. ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : โรคลิชมาเนีย : เชื้อร้ายที่มากับ “ริ้นฝอยทราย”

2. ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : โรคลิชมาเนีย : รักษาและป้องกัน

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]

“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน

กทม. 5 ส.ค.-“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน พิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ คนขับรถกระบะได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การว่า ตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ดีๆ “เป๊ก ผลิตโชค” ก็กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน ลงมาพูดคุยกับ “เป๊ก” จากนั้น “เป๊ก” ก็เข้ามาสวมกอด ยกมือไหว้ แล้วเบนไปหานายชุติเทพ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป และไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมาเปิดดูข่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏภาพ “เป๊ก ผลิตโชค” ขึ้นไปเกาะบนหลังคารถ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ปากคำ ด้าน “เป๊ก ผลิตโชค” ยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำ เพราะยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยินดีที่จะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาล ถ้าหากแพทย์อนุญาต หรือ “เป๊ก ผลิตโชค” […]

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย