ชัวร์ก่อนแชร์: ฉีดวัคซีนโควิดบ่อยไปภูมิคุ้มกันจะหยุดทำงาน จริงหรือ?

31 มีนาคม 2565
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย: Science Feedback (สหรัฐอเมริกา)
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: พีรพล อนุตรโสตถิ์, อดิศร สุขสมอรรถ

ประเภทข่าวปลอม: ทำให้เข้าใจผิด

บทสรุป:

High Zone Tolerance คือปรากฏการณ์ที่ระบบภูมิคุ้มกันหยุดการตอบสนองหลังจากตรวจพบแอนติเจนของเชื้อโรคในปริมาณมากและบ่อยครั้ง
ข้อมูลปัจจุบันไม่พบว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือวัคซีนโควิด 19 ต่อเนื่องก่อให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว

ข้อมูลที่ถูกแชร์:

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทาง Twitter ในสหรัฐอเมริกา โดย โรเบิร์ต มาโลน นักวิทยาศาสตร์ที่มีประวัติเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด 19 อ้างในการให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์ The First TV เมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 โดยกล่าวว่า การฉีดวัคซีนโควิด 19 ซ้ำๆ อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหยุดการตอบสนอง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า High Zone Tolerance ซึ่งพบในผู้ที่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่มากเกินไป จนภูมิคุ้มกันตอบสนองน้อยลง

FACT CHECK: ตรวจสอบข้อเท็จจริง:

High Zone Tolerance คือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันหยุดการตอบสนองเมื่อตรวจจับแอนติเจนของเชื้อโรค หลังจากตรวจพบแอนติเจนของเชื้อโรคนั้นๆ ในปริมาณมากและบ่อยครั้ง

เมื่อปี 2020 นักวิจัยจากเครือข่าย Immunization Research Network จากประเทศแคนาดา ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ต่อเนื่อง 10 ปีกับกลุ่มผู้สูงอายุในประเทศแคนาดา ผลการวิจัยพบว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่บ่อยๆ ส่งผลให้ประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนในปีต่อๆ มาลดลง

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกันผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน ผู้ที่ได้รับวัคซีนจะมีระดับการป้องกันการติดเชื้อที่สูงกว่า ไม่ว่าจะเคยรับวัคซีนมากี่ครั้งก็ตาม

ผลวิจัยหักล้างแนวคิดของ โรเบิร์ต มาโลน ที่บอกว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่บ่อยๆ จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันหยุดการตอบสนอง โดยผู้วิจัยยังสนับสนุนให้ประชาชนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปีเช่นเดิม

หลายปีที่ผ่านมา นักวิจัยจำนวนมากได้ทดลองนำวัคซีนชนิด mRNA ไปใช้กับสัตว์ทดลอง เพื่อศึกษาว่า ปรากฏการณ์ High Zone Tolerance สามารถใช้ในการรักษาโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองได้หรือไม่

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่พบหลักฐานว่าการฉีดวัคซีนโควิด 19 หรือการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น จะส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ High Zone Tolerance แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีหลักฐานพบว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย

เชน ครอตตี นักไวรัสวิทยา จากสถาบัน La Jolla Institute for Immunology ชี้แจงว่า การศึกษาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น พบว่าทั้งปริมาณแอนติบอดีและเซลล์ทีเพิ่มสูงขึ้นหลังจากรับวัคซีนเข็มกระตุ้น

ขณะที่ภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีน 1 ถึง 2 โดสเพียงพอต่อการป้องกันไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์อัลฟ่า แต่การป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าและโอไมครอน จำเป็นต้องใช้ภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเป็นโดสที่ 3

การประเมินของผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย Imperial College London พบว่า แม้ไวรัสโอไมครอนจะหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าไวรัสเดลต้า ไม่ว่าจะเป็นภูมิคุ้มกันจากวัคซีนหรือการติดเชื้อโควิดมาก่อน แต่ผลการศึกษาเบื้องต้นทั้งในประเทศอิสราเอล, ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นยกระดับการป้องกันการติดเชื้อได้ดีขึ้น และป้องกันการป่วยหนักจากการติดเชื้อโควิด 19 ได้ถึง 85%

ข้อมูลอ้างอิง:

https://healthfeedback.org/claimreview/robert-malones-statements-on-the-dana-show-about-vaccine-safety-virus-variants-inaccurate-unsupported-dana-loesch/