ชัวร์ก่อนแชร์ : ไม่ควรสวมหน้ากากผ้าในขณะนี้ เพื่อป้องกันโควิด-19 จริงหรือ ?

2 กรกฎาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง/เรียบเรียง โดย : ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์/พีรพล อนุตรโสตถิ์


ตามที่มีการสอบถามข้อมูลเข้ามายังศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ว่า การสวมใส่หน้ากากผ้า ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลานี้ นั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวกับ นางนภพรรณ นันทพงษ์ ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ การชี้แจงข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก “Tor Phiboonbanakit” ของ พ.อ.(พิเศษ) นพ.ธนะพันธ์ พิบูลย์บรรณกิจ ที่ปรึกษาแผนกโรคติดเชื้อ กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองให้คำแนะนำตรงกันว่า หน้ากากอนามัยเหมาะสมกับการใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และหากจะสวมหน้ากาก 2 ชั้น ควรสวมหน้ากากอนามัยไว้ด้านในแนบหน้า ส่วนหน้ากากผ้าสวมใส่ข้างนอก

บทสรุป : แชร์ได้ แต่ควรอธิบายเพิ่มเติมให้ครบถ้วน


  • ควรใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพื่อยกระดับการป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป 
  • หน้ากากผ้ายังสามารถใช้ได้ในพื้นที่ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงสูง มีหรือมีความแออัด และยอดผู้ป่วยไม่ได้มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น
  • การใช้หน้ากากอย่างเดียวไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะไม่ได้รับเชื้อโควิด-19 เพราะการติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบุคคลนั้นๆ ด้วย

Fact check : ตรวจสอบข้อมูล 

            ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบข้อมูลกับ  นางนภพรรณ นันทพงษ์ ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้คำตอบในประเด็นต่างๆ ดังนี้ 

Q: มีการแชร์ข้อมูลว่าการใช้หน้ากากผ้าในปัจจุบัน ไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ เรื่องนี้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?
A: นางนภพรรณระบุว่าต้องยอมรับว่าหน้ากากอนามัยมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าหน้ากากผ้า เพราะด้วยลักษณะของวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมา มีประสิทธิภาพ 3 ชั้นในการกรอง สำหรับหน้ากากผ้าประสิทธิภาพการใช้งาน ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อผ้าว่าทำจากผ้าชนิดใด เมื่อเราใช้หน้ากากผ้าและซักไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับการใช้เสื้อผ้า เส้นใยก็จะบางลง แต่ถามว่ายังสามารถใช้หน้ากากผ้าได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงหรือพื้นที่ที่แออัดมากก็ยังสามารถใช้ได้อยู่ ไม่อยากให้ประชาชนเกิดการตื่นตระหนกที่จะต้องซื้อหน้ากากอนามัยมาใช้ แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่เสี่ยงสูงก็ควรต้องสวมใส่หน้ากากให้มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย โดยสวมหน้ากากอนามัยด้านในให้แนบชิดกับใบหน้า และสวมหน้ากากผ้าไว้ด้านนอกเพื่ออุดช่องโหว่รอยรั่วต่างๆ และเก็บรายละเอียดข้างแก้ม


ไม่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น เพราะยังมีรอยรั่วเกิดขึ้นได้
“ขณะเดียวกันไม่แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น เพราะถึงแม้จะสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นแต่หน้ากากอนามัยยังมีช่องโหว่ บริเวณข้างแก้ม ซึ่งยังสามารถเกิดรอยรั่วและความไม่แนบสนิทได้อยู่  แต่ถ้าใช้หน้ากากอนามัยควบคู่กับหน้ากากผ้าก็จะได้ทั้งความฟิตและความกระชับ” นางนภพรรณระบุ

เผยผลการทดสอบประสิทธิภาพการกรองของหน้ากากอนามัยชนิดต่างๆ
ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ระบุต่อว่า  การจะใส่หน้ากากชนิดใดนั้น ขึ้นอยู่กับพื้นที่และบริเวณที่เราอาศัยอยู่ หน้ากากผ้ายังมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคได้ และจากการทดสอบก็ใช้ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อผ้าด้วย จากการศึกษาทางวิชาการของ ดร.พานิช อินต๊ะ อาจารย์ประจำวิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ทำการศึกษาโดยทดสอบประสิทธิภาพการกรองของหน้ากากแต่ละชนิดด้วยอนุภาค 0.3 ไมครอน พบว่า ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยประสิทธิภาพการกรองมีถึง 97 เปอร์เซ็นต์, หน้ากาก N95  99.3 เปอร์เซ็นต์, หน้ากากผ้าอยู่ที่ 53-54 เปอร์เซ็นต์ สำหรับหน้ากากอนามัย 2 ชั้นอยู่ที่ 99.07 เปอร์เซ็นต์ และการสวมหน้ากากอนามัยพร้อมกับหน้ากากผ้าผลทดสอบอยู่ที่ 97.4 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งนี้เมื่อสวมใส่แล้ว ประสิทธิภาพการป้องกัน นอกจากชนิดหรือประเภทของหน้ากากแล้ว ยังขึ้นกับความแนบกระชับเมื่อสวมใส่ด้วย

จะเลือกสวมใส่หน้ากากชนิดใดให้พิจารณาความเสี่ยงในพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่
“การจะใส่หน้ากากชนิดใด ขอเน้นย้ำว่าขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงสูงมาก และไม่ได้มีจำนวนตัวเลขของผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นตลอด การใส่หน้ากากผ้าก็ใช้ได้อยู่ และขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าที่ใช้ด้วย แต่หน้ากากผ้าที่ใช้ จะต้องถูกเย็บอย่างน้อย 2 ชั้น ส่วนหน้ากากแฟชั่นบางชนิดที่มีลักษณะนิ่มๆ และมีฟองน้ำ จากผลการทดสอบพบว่าหน้ากากตัวนี้ไม่สามารถป้องกันอะไรได้ ขอให้ระมัดระวังและเลือกหน้ากากที่ที่เหมาะสมกับการใช้งาน”นางนภพรรณกล่าว 

สวมใส่หน้ากากอนามัยแล้วยังต้องดำเนินควบคู่กับมาตรการอื่นๆ เพื่อป้องกันโควิด-19
ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กล่าวย้ำต่อว่า การใช้หน้ากากอย่างเดียวไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะไม่ได้รับเชื้อโควิด-19 เพราะการติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบุคคลนั้นๆ ด้วย เช่น การชอบสัมผัสใบหน้าโดยไม่ได้ล้างมือ การใช้มือสัมผัสสิ่งของต่างๆ แล้วนำมาขยี้ตา ขยี้จมูก ซึ่งจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ฉะนั้นการใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด-19  ต้องทำร่วมกับมาตรการอื่นๆ เสมอ ยังต้องใช้มาตรการ D-M-H-T-T  และการดูแลสุขอนามัยต่างๆ 

การสวมหน้ากากที่ถูกวิธีจะช่วยป้องกันเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ระบุว่า การจะใส่หน้ากากให้มีประสิทธิผลได้ผลดี ต้องดูเรื่องของประสิทธิภาพการกรองและต้องสวมใส่ให้ถูกต้อง โดยใส่ให้ครอบปาก ครอบจมูก และมีความกระชับกับใบหน้า ก่อนที่จะสวมหน้ากากควรที่จะต้องล้างมือให้สะอาดก่อน แต่บางคนก็ตั้งคำถามว่าก็สวมหน้ากากตลอดแต่ทำไมยังติดได้ เรื่องนี้ก็ขึ้นกับพฤติกรรมอื่นๆ ด้วย เช่น เมื่อจะหยิบหน้ากากมาใช้ก็ต้องดูว่ามือเราสะอาดพอหรือไม่ และจังหวะในการที่ถอดวางหน้ากากอยู่ในพื้นที่ที่สะอาดหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัย เมื่อมีการใช้แล้ว 6 ถึง 8 ชั่วโมง หากเป็นหน้ากากผ้าก็ต้องมีชิ้นสำรอง

Q: เมื่อถามว่าการสวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าทั้ง 2 ชั้นสามารถป้องกันไวรัสเบต้าเดลต้าได้หรือไม่
A: ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ระบุว่า ยังไม่ขอพูดถึงเรื่องของสายพันธุ์ เพราะเรื่องสายพันธุ์มีความละเอียดอ่อน ต่อให้ตอนนี้เป็นสายพันธุ์ อัลฟ่า เบต้า ไวรัสก็จะมีการพัฒนาไปเรื่อย ๆ เชื้อโรคก็เหมือนคนเรา พอรู้ว่าเราจะเอาชนะมัน มันก็ต้องเอาตัวรอด เอาชีวิตให้รอด โดยการกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ซึ่งเราก็จะต้องจัดการตัวเองให้มีวินัยกับตัวเอง มีวินัยในการดูแลเรื่องต่างๆ การปฏิบัติตนให้สวมหน้ากากที่ถูกต้อง

“อนามัยโพล” เผย เปอร์เซ็นต์การปฏิบัติตัวของประชาชนในการสวมใส่หน้ากากเมื่ออยู่ภายนอก
การสำรวจของอนามัยโพลจากทั่วประเทศระหว่างวันที่ 17 พ.ค.64 -18 มิ.ย. 64 จากประชาชนจำนวน 14,953 คน โดยเป็นผู้หญิงจำนวน 78 เปอร์เซ็นต์ ผู้ชายจำนวน 22 เปอร์เซ็นต์ พบว่า ประชาชนสวมหน้ากากเป็นประจำเมื่อออกนอกบ้านร้อยละ 97.8  การเว้นระยะห่างร้อยละ 93 การล้างมือร้อยละ 93.6 การวัดอุณหภูมิร้อยละ 93.9 การใช้ไทยชนะร้อยละ 70.4 และยังพบว่าประชาชนสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อเข้าร้านสะดวกซื้อ ไปตลาดสด ตลาดนัด และห้างสรรพสินค้า อยู่ที่ 90.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสถานที่ที่พบผู้สวมหน้ากากอนามัยน้อย เช่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬา 

Q : สรุปแล้วเรายังสามารถใช้หน้ากากผ้าได้หรือไม่ ?
A : ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ระบุว่า ถามว่าหน้ากากผ้ายังใช้ได้หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ 100% ว่าชัวร์หรือไม่ชัวร์ แต่ต้องเลือกให้เหมาะสมถ้าอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงสูงก็ต้องมีการป้องกันตัวเองสูงสุดโดยต้องใช้หน้ากากอนามัย หรือหากใช้หน้ากากอนามัยเพียงชิ้นเดียวก็สามารถทำได้ แต่ต้องกดให้กระชับกับใบหน้า แต่ถ้ารู้สึกไม่มั่นใจกับความปลอดภัยหรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ก็สามารถสวมหน้ากากผ้าทับอีกชั้นได้ โดยหลักการหน้ากากผ้ายังใช้ได้ แต่ใช้ในพื้นที่ ที่ไม่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความรุนแรง และไม่ได้มีอัตราการเกิดโรคสูง ส่วนจะป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้หรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่มีใครทดสอบเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ถ้าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงและเรามีศักยภาพในการจัดหาหน้ากากอนามัยได้นั้น ก็จะป้องกันได้ดีกว่าหน้ากากผ้า แต่ก็ต้องสวมใส่ให้ถูกวิธี

“นพ.ธนะพันธ์” ระบุ หน้ากากผ้ายังไม่ดีพอที่จะกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
ขณะที่ พ.อ.(พิเศษ) นพ.ธนะพันธ์ พิบูลย์บรรณกิจ ที่ปรึกษาแผนกโรคติดเชื้อ กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Tor Phiboonbanakit”  ถึงเรื่องการใช้หน้ากากผ้า สรุปใจความได้ว่า  เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เปลี่ยนไป แนวทางการปฏิบัติตัวก็ต้องปรับตามให้เหมาะสม กรณีการใช้เพียงหน้ากากผ้า โอกาสที่จะได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายก็จะมีสูงขึ้น โดย “หน้ากากผ้าไม่ดีพอที่จะกันเชื้อเข้า” ที่สำคัญ  และขณะนี้ ยังไม่มีการนำหน้ากากผ้า ไม่ว่าจะมาตรฐานใด มาใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สำหรับการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล
นพ.ธนะพันธ์ ระบุต่อว่า คุณสมบัติของหน้ากากผ้าในการป้องกันละอองฝอยน้ำลาย ยังคงอาจมีส่วนช่วยป้องกันแพร่เชื้อได้บ้าง เพื่อลดการแพร่เชื้อ ส่วนหน้ากากอนามัยเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ป่วย ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามหากจะสวมหน้ากาก 2 ชั้น ควรสวมหน้ากากอนามัยไว้ด้านในแนบหน้า ส่วนหน้ากากผ้าสวมใส่ข้างนอก

ประวัติการแก้ไข
แก้ไขเมื่อ 4 ก.ค. 2564 : ปรับแก้ข้อความในย่อหน้าสุดท้ายให้ชัดเจน ในการสื่อสารเกี่ยวกับการใช้งานหน้ากากผ้า อย่างไรก็ตามกรมอนามัยแนะนำให้ผู้ป่วยใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เป็นหลัก เพื่อป้องกันในระดับที่สูงกว่า

ข้อมูลอ้างอิง
1. การสัมภาษณ์ นางนภพรรณ นันทพงษ์ ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564
2. เฟซบุ๊ก “Tor Phiboonbanakit” : https://www.facebook.com/100001034752567/posts/4380431822001266/?d=n

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ! นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]