ชัวร์ก่อนแชร์ : ไม่ควรสวมหน้ากากผ้าในขณะนี้ เพื่อป้องกันโควิด-19 จริงหรือ ?

2 กรกฎาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง/เรียบเรียง โดย : ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์/พีรพล อนุตรโสตถิ์


ตามที่มีการสอบถามข้อมูลเข้ามายังศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ว่า การสวมใส่หน้ากากผ้า ไม่ปลอดภัยในช่วงเวลานี้ นั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวกับ นางนภพรรณ นันทพงษ์ ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ การชี้แจงข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก “Tor Phiboonbanakit” ของ พ.อ.(พิเศษ) นพ.ธนะพันธ์ พิบูลย์บรรณกิจ ที่ปรึกษาแผนกโรคติดเชื้อ กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองให้คำแนะนำตรงกันว่า หน้ากากอนามัยเหมาะสมกับการใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และหากจะสวมหน้ากาก 2 ชั้น ควรสวมหน้ากากอนามัยไว้ด้านในแนบหน้า ส่วนหน้ากากผ้าสวมใส่ข้างนอก

บทสรุป : แชร์ได้ แต่ควรอธิบายเพิ่มเติมให้ครบถ้วน


  • ควรใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพื่อยกระดับการป้องกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป 
  • หน้ากากผ้ายังสามารถใช้ได้ในพื้นที่ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงสูง มีหรือมีความแออัด และยอดผู้ป่วยไม่ได้มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น
  • การใช้หน้ากากอย่างเดียวไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะไม่ได้รับเชื้อโควิด-19 เพราะการติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบุคคลนั้นๆ ด้วย

Fact check : ตรวจสอบข้อมูล 

            ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบข้อมูลกับ  นางนภพรรณ นันทพงษ์ ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้คำตอบในประเด็นต่างๆ ดังนี้ 

Q: มีการแชร์ข้อมูลว่าการใช้หน้ากากผ้าในปัจจุบัน ไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ เรื่องนี้ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?
A: นางนภพรรณระบุว่าต้องยอมรับว่าหน้ากากอนามัยมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าหน้ากากผ้า เพราะด้วยลักษณะของวัสดุที่สังเคราะห์ขึ้นมา มีประสิทธิภาพ 3 ชั้นในการกรอง สำหรับหน้ากากผ้าประสิทธิภาพการใช้งาน ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อผ้าว่าทำจากผ้าชนิดใด เมื่อเราใช้หน้ากากผ้าและซักไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับการใช้เสื้อผ้า เส้นใยก็จะบางลง แต่ถามว่ายังสามารถใช้หน้ากากผ้าได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงหรือพื้นที่ที่แออัดมากก็ยังสามารถใช้ได้อยู่ ไม่อยากให้ประชาชนเกิดการตื่นตระหนกที่จะต้องซื้อหน้ากากอนามัยมาใช้ แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มหรือพื้นที่เสี่ยงสูงก็ควรต้องสวมใส่หน้ากากให้มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย โดยสวมหน้ากากอนามัยด้านในให้แนบชิดกับใบหน้า และสวมหน้ากากผ้าไว้ด้านนอกเพื่ออุดช่องโหว่รอยรั่วต่างๆ และเก็บรายละเอียดข้างแก้ม


ไม่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น เพราะยังมีรอยรั่วเกิดขึ้นได้
“ขณะเดียวกันไม่แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น เพราะถึงแม้จะสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นแต่หน้ากากอนามัยยังมีช่องโหว่ บริเวณข้างแก้ม ซึ่งยังสามารถเกิดรอยรั่วและความไม่แนบสนิทได้อยู่  แต่ถ้าใช้หน้ากากอนามัยควบคู่กับหน้ากากผ้าก็จะได้ทั้งความฟิตและความกระชับ” นางนภพรรณระบุ

เผยผลการทดสอบประสิทธิภาพการกรองของหน้ากากอนามัยชนิดต่างๆ
ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ระบุต่อว่า  การจะใส่หน้ากากชนิดใดนั้น ขึ้นอยู่กับพื้นที่และบริเวณที่เราอาศัยอยู่ หน้ากากผ้ายังมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคได้ และจากการทดสอบก็ใช้ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อผ้าด้วย จากการศึกษาทางวิชาการของ ดร.พานิช อินต๊ะ อาจารย์ประจำวิทยาลัยเทคโนโลยีและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ทำการศึกษาโดยทดสอบประสิทธิภาพการกรองของหน้ากากแต่ละชนิดด้วยอนุภาค 0.3 ไมครอน พบว่า ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยประสิทธิภาพการกรองมีถึง 97 เปอร์เซ็นต์, หน้ากาก N95  99.3 เปอร์เซ็นต์, หน้ากากผ้าอยู่ที่ 53-54 เปอร์เซ็นต์ สำหรับหน้ากากอนามัย 2 ชั้นอยู่ที่ 99.07 เปอร์เซ็นต์ และการสวมหน้ากากอนามัยพร้อมกับหน้ากากผ้าผลทดสอบอยู่ที่ 97.4 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งนี้เมื่อสวมใส่แล้ว ประสิทธิภาพการป้องกัน นอกจากชนิดหรือประเภทของหน้ากากแล้ว ยังขึ้นกับความแนบกระชับเมื่อสวมใส่ด้วย

จะเลือกสวมใส่หน้ากากชนิดใดให้พิจารณาความเสี่ยงในพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่
“การจะใส่หน้ากากชนิดใด ขอเน้นย้ำว่าขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้มีความเสี่ยงสูงมาก และไม่ได้มีจำนวนตัวเลขของผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นตลอด การใส่หน้ากากผ้าก็ใช้ได้อยู่ และขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าที่ใช้ด้วย แต่หน้ากากผ้าที่ใช้ จะต้องถูกเย็บอย่างน้อย 2 ชั้น ส่วนหน้ากากแฟชั่นบางชนิดที่มีลักษณะนิ่มๆ และมีฟองน้ำ จากผลการทดสอบพบว่าหน้ากากตัวนี้ไม่สามารถป้องกันอะไรได้ ขอให้ระมัดระวังและเลือกหน้ากากที่ที่เหมาะสมกับการใช้งาน”นางนภพรรณกล่าว 

สวมใส่หน้ากากอนามัยแล้วยังต้องดำเนินควบคู่กับมาตรการอื่นๆ เพื่อป้องกันโควิด-19
ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กล่าวย้ำต่อว่า การใช้หน้ากากอย่างเดียวไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะไม่ได้รับเชื้อโควิด-19 เพราะการติดเชื้อโควิด-19 ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบุคคลนั้นๆ ด้วย เช่น การชอบสัมผัสใบหน้าโดยไม่ได้ล้างมือ การใช้มือสัมผัสสิ่งของต่างๆ แล้วนำมาขยี้ตา ขยี้จมูก ซึ่งจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ ฉะนั้นการใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด-19  ต้องทำร่วมกับมาตรการอื่นๆ เสมอ ยังต้องใช้มาตรการ D-M-H-T-T  และการดูแลสุขอนามัยต่างๆ 

การสวมหน้ากากที่ถูกวิธีจะช่วยป้องกันเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ระบุว่า การจะใส่หน้ากากให้มีประสิทธิผลได้ผลดี ต้องดูเรื่องของประสิทธิภาพการกรองและต้องสวมใส่ให้ถูกต้อง โดยใส่ให้ครอบปาก ครอบจมูก และมีความกระชับกับใบหน้า ก่อนที่จะสวมหน้ากากควรที่จะต้องล้างมือให้สะอาดก่อน แต่บางคนก็ตั้งคำถามว่าก็สวมหน้ากากตลอดแต่ทำไมยังติดได้ เรื่องนี้ก็ขึ้นกับพฤติกรรมอื่นๆ ด้วย เช่น เมื่อจะหยิบหน้ากากมาใช้ก็ต้องดูว่ามือเราสะอาดพอหรือไม่ และจังหวะในการที่ถอดวางหน้ากากอยู่ในพื้นที่ที่สะอาดหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัย เมื่อมีการใช้แล้ว 6 ถึง 8 ชั่วโมง หากเป็นหน้ากากผ้าก็ต้องมีชิ้นสำรอง

Q: เมื่อถามว่าการสวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้าทั้ง 2 ชั้นสามารถป้องกันไวรัสเบต้าเดลต้าได้หรือไม่
A: ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ระบุว่า ยังไม่ขอพูดถึงเรื่องของสายพันธุ์ เพราะเรื่องสายพันธุ์มีความละเอียดอ่อน ต่อให้ตอนนี้เป็นสายพันธุ์ อัลฟ่า เบต้า ไวรัสก็จะมีการพัฒนาไปเรื่อย ๆ เชื้อโรคก็เหมือนคนเรา พอรู้ว่าเราจะเอาชนะมัน มันก็ต้องเอาตัวรอด เอาชีวิตให้รอด โดยการกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ซึ่งเราก็จะต้องจัดการตัวเองให้มีวินัยกับตัวเอง มีวินัยในการดูแลเรื่องต่างๆ การปฏิบัติตนให้สวมหน้ากากที่ถูกต้อง

“อนามัยโพล” เผย เปอร์เซ็นต์การปฏิบัติตัวของประชาชนในการสวมใส่หน้ากากเมื่ออยู่ภายนอก
การสำรวจของอนามัยโพลจากทั่วประเทศระหว่างวันที่ 17 พ.ค.64 -18 มิ.ย. 64 จากประชาชนจำนวน 14,953 คน โดยเป็นผู้หญิงจำนวน 78 เปอร์เซ็นต์ ผู้ชายจำนวน 22 เปอร์เซ็นต์ พบว่า ประชาชนสวมหน้ากากเป็นประจำเมื่อออกนอกบ้านร้อยละ 97.8  การเว้นระยะห่างร้อยละ 93 การล้างมือร้อยละ 93.6 การวัดอุณหภูมิร้อยละ 93.9 การใช้ไทยชนะร้อยละ 70.4 และยังพบว่าประชาชนสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อเข้าร้านสะดวกซื้อ ไปตลาดสด ตลาดนัด และห้างสรรพสินค้า อยู่ที่ 90.2 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสถานที่ที่พบผู้สวมหน้ากากอนามัยน้อย เช่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬา 

Q : สรุปแล้วเรายังสามารถใช้หน้ากากผ้าได้หรือไม่ ?
A : ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ระบุว่า ถามว่าหน้ากากผ้ายังใช้ได้หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ 100% ว่าชัวร์หรือไม่ชัวร์ แต่ต้องเลือกให้เหมาะสมถ้าอยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงสูงก็ต้องมีการป้องกันตัวเองสูงสุดโดยต้องใช้หน้ากากอนามัย หรือหากใช้หน้ากากอนามัยเพียงชิ้นเดียวก็สามารถทำได้ แต่ต้องกดให้กระชับกับใบหน้า แต่ถ้ารู้สึกไม่มั่นใจกับความปลอดภัยหรือมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ ก็สามารถสวมหน้ากากผ้าทับอีกชั้นได้ โดยหลักการหน้ากากผ้ายังใช้ได้ แต่ใช้ในพื้นที่ ที่ไม่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความรุนแรง และไม่ได้มีอัตราการเกิดโรคสูง ส่วนจะป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ ได้หรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่มีใครทดสอบเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ถ้าอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงและเรามีศักยภาพในการจัดหาหน้ากากอนามัยได้นั้น ก็จะป้องกันได้ดีกว่าหน้ากากผ้า แต่ก็ต้องสวมใส่ให้ถูกวิธี

“นพ.ธนะพันธ์” ระบุ หน้ากากผ้ายังไม่ดีพอที่จะกันเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
ขณะที่ พ.อ.(พิเศษ) นพ.ธนะพันธ์ พิบูลย์บรรณกิจ ที่ปรึกษาแผนกโรคติดเชื้อ กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Tor Phiboonbanakit”  ถึงเรื่องการใช้หน้ากากผ้า สรุปใจความได้ว่า  เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เปลี่ยนไป แนวทางการปฏิบัติตัวก็ต้องปรับตามให้เหมาะสม กรณีการใช้เพียงหน้ากากผ้า โอกาสที่จะได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายก็จะมีสูงขึ้น โดย “หน้ากากผ้าไม่ดีพอที่จะกันเชื้อเข้า” ที่สำคัญ  และขณะนี้ ยังไม่มีการนำหน้ากากผ้า ไม่ว่าจะมาตรฐานใด มาใช้ทดแทนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สำหรับการดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล
นพ.ธนะพันธ์ ระบุต่อว่า คุณสมบัติของหน้ากากผ้าในการป้องกันละอองฝอยน้ำลาย ยังคงอาจมีส่วนช่วยป้องกันแพร่เชื้อได้บ้าง เพื่อลดการแพร่เชื้อ ส่วนหน้ากากอนามัยเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ป่วย ใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามหากจะสวมหน้ากาก 2 ชั้น ควรสวมหน้ากากอนามัยไว้ด้านในแนบหน้า ส่วนหน้ากากผ้าสวมใส่ข้างนอก

ประวัติการแก้ไข
แก้ไขเมื่อ 4 ก.ค. 2564 : ปรับแก้ข้อความในย่อหน้าสุดท้ายให้ชัดเจน ในการสื่อสารเกี่ยวกับการใช้งานหน้ากากผ้า อย่างไรก็ตามกรมอนามัยแนะนำให้ผู้ป่วยใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เป็นหลัก เพื่อป้องกันในระดับที่สูงกว่า

ข้อมูลอ้างอิง
1. การสัมภาษณ์ นางนภพรรณ นันทพงษ์ ผอ.กองประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564
2. เฟซบุ๊ก “Tor Phiboonbanakit” : https://www.facebook.com/100001034752567/posts/4380431822001266/?d=n

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย