ชัวร์ก่อนแชร์ : น้ำใบโหระพาลดความดัน เบาหวาน จริงหรือ ?

Screenshot

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์คลิปพร้อมข้อความว่า เหลือเชื่อ “น้ำใบโหระพา” ช่วยลดความดัน เบาหวาน ได้เชิงประจักษ์ ช่วยให้ผู้ป่วยสุขภาพดีขึ้น จริงหรือ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ดร.ภกญ.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี

การใช้ “ใบโหระพา” ลดน้ำตาล ยังมีคำถามอีกหลายอย่าง เช่น ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลเท่าไหร่ กินยาแผนปัจจุบันด้วยหรือไม่ การควบคุมอาหารเป็นอย่างไร เพราะโรคเบาหวานมีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือด


องค์ความรู้พื้นบ้านมีบันทึกเรื่องโหระพาไว้ด้วย แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช้ในผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมาก ๆ

มีการศึกษาวิจัยนำใบโหระพามาต้ม น่าจะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งเป็นการศึกษาในสัตว์ทดลอง แต่ปัจจัยการเกิดน้ำตาลในเลือดสูงของคนมีความแตกต่างจากในสัตว์ทดลอง

ใครที่คิดจะใช้น้ำใบโหระพาเพื่อลดน้ำตาลในเลือดก็ต้องสังเกตอาการตัวเองว่า หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ด้วยหรือไม่ เพราะจะมีผลเสียมากกว่าผลดี


แพทย์แผนไทย ใช้สมุนไพรอะไร รักษาโรคเบาหวาน ?

“เบาหวาน” รักษาไม่หาย แต่ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาส “หยุดใช้ยาได้ ถ้าน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ”

ผู้ป่วยเบาหวาน มีความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง ถ้าสามารถควบคุมได้ด้วยการใช้ยาแผนปัจจุบันอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกินยาสมุนไพร

ในผู้ป่วยเบาหวานที่คิดว่าจะใช้ยาสมุนไพร ควรพิจารณาข้อจำกัด ผลที่อาจเกิดจากการใช้สมุนไพร ดังต่อไปนี้

1. การใช้สมุนไพรยังมีข้อจำกัดเรื่องความปลอดภัย ซึ่งบางครั้งไปเสริมฤทธิ์ยาแผนปัจจุบันจะยิ่งทำให้น้ำตาลในเลือดลดต่ำลงมากกว่าปกติ อาจจะทำให้ผู้ป่วยเบาหวานช็อก น็อก วิงเวียน หน้ามืด และเป็นลมได้

2. สมุนไพรที่กินเข้าไปอาจจะส่งผลต่อตับ ไต หรืออวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย

3. ผู้ป่วยเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ได้ แต่ต้องการใช้สมุนไพรเสริมการรักษา จะต้องหาข้อมูลสมุนไพรที่มีความปลอดภัย และน่าจะมีประสิทธิผลลดน้ำตาลในเลือดได้

4. ยังไม่มีการศึกษาวิจัย “โหระพา” ที่มากเพียงพอสำหรับการนำมาใช้เสริมเพื่อการรักษาผู้ป่วยเบาหวาน

5. สมุนไพรที่มีการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้กับผู้ป่วยเบาหวานก็คือ มะระขี้นก แต่ยังต้องทำการศึกษาวิจัยอีกระยะหนึ่ง

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

“โหระพา” อาจจะไม่มีผลช่วยลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานทุกราย แต่วิธีการที่น่าจะได้ผลมากกว่าในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดนอกเหนือจากการใช้ยา ก็คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

สมาคมโรคเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา (ADA) ใช้เวลาศึกษาวิจัย 2 ปี พบว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำให้ผู้ป่วยห่างไกลจากการพัฒนาไปเป็นเบาหวานได้ คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ได้แก่

1. ออกกำลังกายที่สอดคล้องกับสภาพร่างกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที

2. กินอาหารที่มีกากใยสูง (ข้าวกล้อง ผักและผลไม้)

3. กินผักและผลไม้ปริมาณมาก (อย่างน้อย 400 กรัมต่อวัน)

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ต่างหากที่ทำให้คนเราห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs : non-communicable diseases)

“ความดันเลือดสูง” ดูแลตนเองได้หรือไม่ ?

ความดันเลือดสูง (Hypertension) เป็นโรคที่ตรวจพบได้จากการวัดความดันเลือด

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) กำหนดไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2542 ว่าคนที่มีความดันเลือดวัดได้มากกว่า 140/90 มม.ปรอท ถือว่าเป็น “โรคความดันเลือดสูง” แต่คนส่วนใหญ่ที่มีความดันเลือดสูงมักจะไม่รู้ตัวว่าเป็นโรค

การควบคุมความดันเลือดให้ปกติอย่างสม่ำเสมอ สามารถลดโอกาสเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงทางการแพทย์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วและเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก

ยารักษาโรคความดันเลือดสูงมีหลายชนิด หลายกลุ่ม แนวทางการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับสภาวะสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละคน ซึ่งควรได้รับการวินิจฉัยและให้การรักษาสั่งจ่ายยาจากแพทย์เท่านั้น ไม่ควรซื้อยากินเอง หรือตามแบบเพื่อน ญาติ หรือคนรู้จัก ถึง แม้ว่าจะเป็นโรคเดียวกัน แต่สภาวะของโรคและระดับความรุนแรงก็แตกต่างกัน จึงไม่ควรใช้ยาตามอย่างผู้อื่นโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา

ในการใช้ยารักษาโรคความดันเลือดสูง ควรกินยาติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเอง เพราะอาจทำให้อาการของโรคกลับมาลุกลามและอันตรายได้

นอกจากนี้ ถ้าใช้ยารักษาโรคอื่น ๆ อยู่ด้วย (ใช้สมุนไพร และ/หรือ แพทย์ทางเลือก) ควรแจ้งให้แพทย์ที่ดูแลทราบด้วย เพราะยาเหล่านี้อาจต้านฤทธิ์ และ/หรือ เสริมฤทธิ์กัน ทำให้ไม่ได้ผลในการรักษา หรืออาจทำให้ระดับยาในร่างกายสูงขึ้นจนเกิดพิษได้

การเปลี่ยน “พฤติกรรมสุขภาพ” ลดปัญหาจากโรคความดันเลือดสูง

“การดูแลตัวเอง” ของผู้ป่วยโรคความดันเลือดสูงมีความสำคัญมากไม่ยิ่งหย่อนกว่าการใช้ยา รวมทั้งยังช่วยเสริมฤทธิ์ของยาในการควบคุมความดันเลือดอย่างได้ผลดีอีกด้วย ดังนี้

1. ลดน้ำหนัก (ถ้าอ้วน หรือน้ำหนักเกินเกณฑ์)ขั้นแรกอย่าให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เพราะถ้าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ความดันเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นตาม ในทางตรงกันข้ามถ้าน้ำหนักตัวลดลง จะส่งผลดีช่วยลดระดับความดันเลือดได้ด้วย

2. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม นานครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 ครั้ง จะช่วยเผาผลาญไขมัน ลดน้ำหนัก ช่วยลดความดันเลือด ช่วยผ่อนคลายได้อย่างดี

3. ลดปริมาณเกลือ (โซเดียม) ในอาหารลง กินอาหารปกติ ไม่เค็มจัด ลดการเติมเกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส

4. งดบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด บุหรี่เป็นอันตรายระยะยาวทั้งต่อปอด หัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งรวมถึงบุหรี่มือสอง หรือการสูบบุหรี่ของคนใกล้ชิดด้วย ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์) ถ้าหยุดได้ดีที่สุด

“การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม” เป็นการพึ่งตนเอง ของทั้งผู้ป่วย “เบาหวาน” และ “ความดันเลือดสูง” อยู่ที่ว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม “ก่อนเป็นผู้ป่วย” หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม “หลังจากป่วยเป็นโรค” แล้ว

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เขียนและเรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : น้ำใบโหระพาลดความดัน เบาหวาน จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]