ชัวร์ก่อนแชร์: RNA ดัดแปลงในวัคซีนโควิดกดภูมิ-กระตุ้นมะเร็ง จริงหรือ?

24 พฤษภาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทางเว็บไซต์ในต่างประเทศ เมื่อมีการอ้างงานวิจัยที่พบว่าการดัดแปลง RNA ในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA มีส่วนกดภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ และกระตุ้นการเกิดมะเร็งอีกด้วย


บทสรุป :

  1. งานวิจัยพบว่า RNA ไม่ดัดแปลงยับยั้งมะเร็งในหนูทดลองดีกว่า RNA ดัดแปลง แต่ไม่ได้บอกว่า RNA ดัดแปลงกระตุ้นมะเร็ง
  2. เปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับยาหลอก พบว่าการเติบโตของเซลล์มะเร็งไม่แตกต่างจากหนูที่ได้รับ RNA ดัดแปลง
  3. RNA ดัดแปลงคือนวัตกรรมที่ช่วยให้วัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA สามารถสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้สำเร็จ
  4. การคิดค้นวัคซีน mRNA ที่ใช้ RNA ดัดแปลง ทำให้นักวิทยาศาสตร์ผู้คิดค้นได้รับรางวัลโนเบล

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

งานวิจัยที่ถูกกล่าวอ้าง เป็นผลงานของรูบิโอ-คาซิยาส และคณะ ตีพิมพ์ทางวารสาร International Journal of Biological Macromolecules เมื่อเดือนเมษายน 2024


อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวไม่ใช่บทความวิจัยต้นฉบับ แต่เป็นบทความปริทัศน์ซึ่งเป็นบทความที่เขียนขึ้นจากการทบทวนเอกสารวิชาการที่มีการทดลองในอดีต ไม่ใช่บทความที่เกิดจากการทดลองขึ้นมาใหม่

โดยเนื้อหาที่รูบิโอ-คาซิยาสและคณะอ้างอิงมากที่สุด นำมาจากงานวิจัยของ จุฑามาศ สิทธิ์พลางกูร และคณะ ตีพิมพ์ทางวารสาร Frontiers in Immunology เมื่อปี 2022 โดยได้ ดรูว์ ไวส์แมน ศาสตราจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เป็นหนึ่งในที่ปรึกษางานวิจัย ซึ่ง ดร.ดรูว์ ไวส์แมน คือหนึ่งในสองนักวิทยาศาสตร์ที่คว้ารางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ประจำปี 2023 จากการร่วมพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA

งานวิจัยของ จุฑามาศ สิทธิ์พลางกูร และคณะ พบว่าวัคซีน mRNA ที่ไม่มีการดัดแปลง RNA กระตุ้นการยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ดีกว่า วัคซีน mRNA ที่ดัดแปลง RNA

อย่างไรก็ดี งานวิจัยของจุฑามาศ สิทธิ์พลางกูร และคณะ ไม่ได้บอกว่าการดัดแปลง RNA ในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จะกระตุ้นให้ผู้รับวัคซีนเสี่ยงเป็นมะเร็งมากขึ้นตามที่กล่าวอ้าง

ความจำเป็นของการดัดแปลง RNA ในวัคซีน mRNA

ตามปกติแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดในร่างกายมนุษย์จะกำจัด RNA แปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายในทันที นับเป็นอุปสรรคสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยี mRNA เพื่อการป้องกันและรักษาโรค

จนกระทั่งช่วงกลางทศวรรษ 2000’s กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมถึง ดรูว์ ไวส์แมน ได้ค้นพบว่า การดัดแปลงนิวคลีโอไซด์ของ RNA เช่น Pseudouridine จะช่วยระงับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด ช่วยให้ mRNA สามารถเข้าสู่เซลล์เพื่อผลิตโปรตีนสำหรับใช้กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ นำไปสู่การคิดค้น N1-methyl Pseudouridine ซึ่งเป็น RNA ดัดแปลงที่ใช้ในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ในปัจจุบัน

การวิจัย RNA ดัดแปลงกับวัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง

งานวิจัยของจุฑามาศ สิทธิ์พลางกูร และคณะ เป็นการเปรียบเทียบประสิทธิผลของการใช้ RNA ดัดแปลงและ RNA ไม่ดัดแปลง สำหรับการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง

จากการทดลองกับหนูที่ได้รับเชื้อมะเร็งผิวหนัง พบว่าวัคซีน mRNA ที่ดัดแปลง RNA และวัคซีน mRNA ไม่ดัดแปลง RNA ต่างกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจนของมะเร็งทั้งคู่

แต่พบว่าวัคซีน mRNA ที่ไม่ดัดแปลง RNA เท่านั้น ที่ลดการเติบโตของเซลล์มะเร็งและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

อย่างไรก็ดี ไม่มีเนื้อหาส่วนไหนในงานวิจัยของจุฑามาศ สิทธิ์พลางกูร และคณะ ที่บอกว่าการดัดแปลง RNA ในวัคซีน mRNA จะกดภูมิคุ้มกันและกระตุ้นการเกิดมะเร็ง

ตีความงานวิจัยผิดพลาด

ศาสตราจารย์ ดร.ธนาภัทร ปาลกะ หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ร่วมงานวิจัย ยืนยันต่อทาง Factcheck.org ว่า งานวิจัยของคณะไม่ได้ยืนยันหรือชี้นำว่า การดัดแปลง RNA กระตุ้นการเติบโตของเซลล์มะเร็งและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง และเชื่อว่าผู้เขียนบทความปริทัศน์อาจจะจงใจหรืออาจจะตีความผลวิจัยอย่างไม่ถูกต้อง และพยายามบิดเบือนบทสรุปเพื่อสนับสนุนแนวคิดของพวกเขาเอง

ดร.เจมส์ เอ. ฮอกซี ศาสตราจารย์กิตติคุณ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย และรองผู้อำนวยการศูนย์ Penn Institute of RNA Innovation ซึ่ง ดร.ดรูว์ ไวส์แมน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ กล่าวว่างานวิจัยของจุฑามาศ สิทธิ์พลางกูร และคณะ มีความสำคัญต่อการพัฒนาวัคซีน mRNA สำหรับกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันหรือยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง แต่การอ้างว่าวัคซีน mRNA ที่ใช้ป้องกันโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ถือเป็นข้ออ้างที่ห่างไกลความเป็นจริงอย่างมาก

ดร.เจมส์ เอ. ฮอกซี นำงานวิจัยของจุฑามาศ สิทธิ์พลางกูร และคณะ มาอธิบายเพิ่มเติมว่า แม้อัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งในหนูทดลองที่ได้รับวัคซีนที่ดัดแปลง RNA จะสูงกว่าหนูที่ได้รับวัคซีนที่ไม่ดัดแปลง RNA

แต่เมื่อเทียบกับหนูทดลองที่ได้น้ำเกลือเป็นยาหลอกแทนวัคซีนแล้ว อัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งและอัตราการเสียชีวิตของหนูที่ได้รับยาหลอกกับหนูที่ได้รับวัคซีนที่ดัดแปลง RNA อยู่ในอัตราส่วนที่เท่ากัน

แสดงให้เห็นว่าวัคซีน mRNA ที่ดัดแปลง RNA ไม่มีผลต่อเซลล์มะเร็ง ต่างจากวัคซีน mRNA ไม่ดัดแปลง RNA ที่มีผลต่อการยับยั้งเซลล์มะเร็งที่ดีกว่า

ดร.เจมส์ เอ. ฮอกซี ยังย้ำว่าวัคซีน mRNA ที่ดัดแปลง RNA ไม่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันลดประสิทธิภาพลง แค่ช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันบางส่วนหยุดทำงานชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้การสร้างโปรตีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันสัมฤทธิผล

สอดคล้องกับความเห็นของ จอร์แดน แอล. ไมเออร์ นักวิจัยอาวุโส สถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NCI) ผู้ศึกษาบทบาทของ N1-methylpseudouridine ซึ่งเป็น RNA ดัดแปลงในวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA

จอร์แดน แอล. ไมเออร์ เปรียบเทียบว่า RNA ดัดแปลงจะทำหน้าที่เหมือนกับสายลับที่ปลอมตัวเข้าสู่เซลล์ ด้วยการตบตาการเฝ้าสังเกตของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำหน้าที่เหมือนหน่วยรักษาความปลอดภัย แม้ระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยให้ RNA ดัดแปลงเข้าสู่เซลล์ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าระบบภูมิคุ้มกันจะหยุดทำงานตลอดไปหรือปล่อยให้ RNA แปลกปลอมอื่น ๆ เข้าเซลล์ในร่างกายได้ในอนาคต

ไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA กระตุ้นมะเร็ง

ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NCI) และสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (ACS) ไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ก่อให้เกิดมะเร็ง ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งอาการแย่ลง หรือทำให้โรคมะเร็งกลับมากำเริบแต่อย่างใด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2024/05/still-no-evidence-covid-19-vaccination-increases-cancer-risk-despite-posts/
https://healthfeedback.org/claimreview/modified-rna-covid19-vaccines-arent-linked-to-cancer-development/
https://digital.car.chula.ac.th/cgi/viewcontent.cgi?article=5564&context=chulaetd
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/36311701/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย