ชัวร์ก่อนแชร์: “เนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง” สร้างมลพิษมากกว่าการเลี้ยงสัตว์ จริงหรือ?

16 ตุลาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

  1. ข้ออ้างนำมาจากผลวิจัยที่ประเมินว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะปล่อยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เท่าเดิมเป็นเวลา 1,000 ปี
  2. ผู้เชี่ยวชาญมองว่าในอีก 1,000 ปีข้างหน้า การพัฒนาด้านเทคโนโลยี มาตรการสิ่งแวดล้อม และการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง จะทำให้อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงลดการปล่อยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :


มีการเผยแพร่ผลวิจัยที่ตั้งคำถามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงหรือ Lab-Grown Meat หลังพบว่า อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าการทำปศุสัตว์อย่างมาก ดังนั้นการบริโภคเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงกลับเป็นการซ้ำเติมปัญหาสิ่งแวดล้อมให้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประเมินว่าภายในปี 2050 นี้ โลกจะมีประชากรมากถึง 9 พันล้านคน จำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตอาหารมากกว่าในปัจจุบันถึง 70% สวนทางกับพื้นที่เพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ที่มีอย่างจำกัด


แม้แนวโน้มการบริโภคเนื้อสัตว์ในประเทศพัฒนาแล้วจะลดลง แต่ในประเทศกำลังพัฒนาที่มีประชากรจำนวนมากเช่น รัสเซีย อินเดีย และ สาธารณรัฐประชาชนจีน การบริโภคเนื้อสัตว์กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของประชากรชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อมากขึ้น และนิยมการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อ ไข่ นม และเนยต่าง ๆ

ปัญหาที่ตามมาคือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการทำปศุสัตว์มีส่วนเพิ่มมลพิษในธรรมชาติ ในสหรัฐอเมริกาพบว่าการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 4% มาจากการทำปศุสัตว์นั่นเอง

การมาถึงของเทคโนโลยีเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง หรือการผลิตเนื้อสัตว์ในห้องปฏิบัติการคราวละมาก ๆ ได้รับการจับตาว่าจะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการบริโภคเนื้อสัตว์ในอนาคต

อย่างไรก็ดี งานวิจัยที่เผยแพร่ผ่านทางวารสารวิทยาศาสตร์ Frontiers ในหมวด Sustainable Food Systems เมื่อปี 2019 พบว่า ในระยะสั้น อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการทำปศุสัตว์ แต่ในระยะยาว อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะส่งผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมมากกว่า จากปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงกว่าการทำปศุสัตว์นั่นเอง

ปริมาณมีเทนในชั้นบรรยากาศ

มีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์

การทำฟาร์มคือสาเหตุของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 3 ชนิด ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนตรัสออกไซด์ และ มีเทน

มีเทนถือเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด โดยผลิตมาจากระบบทางเดินอาหารของสัตว์สัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น วัว กระบือ แกะ แพะ กวาง อูฐ ยีราฟ เป็นต้น

ในทางกลับกัน ก๊าซเรือนกระจกที่ผลิตจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงมีเพียงคาร์บอนไดออกไซด์ จากพลังงานถ่านหินที่ให้ความร้อนระหว่างการเพาะเลี้ยงเซลล์เท่านั้น

อย่างไรก็ดี แม้การทำปศุสัตว์จะปลดปล่อยมีเทนซึ่งส่งผลต่อสภาวะเรือนกระจกมากกว่า แต่มีเทนคงอยู่ในชั้นบรรยากาศในเวลาที่สั้นกว่าหรือเพียง 12 ปี ต่างจากคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งจะคงอยู่ในชั้นบรรยากาศนานนับพันปี

ผู้วิจัยจึงลงความเห็นว่า อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงที่ปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่สูงกว่าการทำปศุสัตว์ สุดท้ายแล้วจะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมมากกว่าในระยะยาว

ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ

ข้อจำกัดในการวิจัย

ผลวิจัยดังกล่าวมาจากสมมติฐานของทีมวิจัยที่เปรียบเทียบการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกระหว่างอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงและการทำปศุสัตว์ในช่วงเวลา 1 พันปี โดยอนุมานว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะมีอัตราการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์คงที่ในช่วงสหัสวรรษต่อจากนี้

นำมาซึ่งคำถามว่า มีโอกาสแค่ไหนที่อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจะยังคงใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เท่าเดิมจนถึงพันปีข้างหน้า

มีหลายปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการวิทยาศาสตร์ นโยบายของภาครัฐที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงทางเลือกของผู้บริโภคเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงที่พร้อมจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า

เนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงที่จำหน่ายในประเทศสิงคโปร์

ข้อเปรียบเทียบการทำปศุสัตว์และอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง

1.ที่ดิน

การทำปศุสัตว์ใช้ที่ดินมากกว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยง นอกจากพื้นที่เลี้ยงสัตว์แล้ว 50% ของที่ดินเพื่อการเกษตรทั่วโลก ถูกใช้สำหรับปลูกพืชสำหรับอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงจึงใช้ที่ดินในการผลิตเนื้อสัตว์น้อยกว่าการทำปศุสัตว์ถึง 90%

2.น้ำ

ประเมินว่า เนื้อวัว 1 กิโลกรัม ใช้น้ำในการผลิตถึง 550-700 ลิตร ส่วนใหญ่ใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์ ส่งผลให้อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงใช้น้ำในการผลิตเนื้อสัตว์น้อยกว่าการทำปศุสัตว์ 82%-98%

3.การขนส่ง

อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เพาะเลี้ยงที่อยู่ในตัวเมือง ช่วยลดระยะทางการขนส่งเนื้อสัตว์จากฟาร์มสู่ผู้บริโภค ทำให้การปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งลดลงอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.vox.com/future-perfect/2019/2/22/18235189/lab-grown-meat-cultured-environment-climate-change
https://www.wired.com/story/the-confounding-climate-science-of-lab-grown-meat/
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fnut.2020.00007/full
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fsufs.2019.00005/full

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]