ชัวร์ก่อนแชร์: ชาวญี่ปุ่นป่วยหนักจากน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี จริงหรือ?

29 กันยายน 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

  1. คลิปที่แชร์คือกลุ่มผู้ป่วยโรคมินามาตะซึ่งเกิดจากการกินอาหารทะเลปนเปื้อนสารปรอทจากโรงงานเคมี
  2. โรคมินามาตะจะส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง อาการจะแตกต่างจากผู้ป่วยที่สัมผัสกัมมันตรังสี
  3. น้ำทิ้งจากโรงงานในเมืองมินามาตะไม่ได้ผ่านการบำบัดน้ำเสีย ต่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะที่ระบายน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่บำบัดแล้ว

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :


มีคลิปวิดีโอข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยอ้างว่าการปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีที่บำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะลงสู่ทะเลมีความอันตรายอย่างมาก เพราะในอดีตมีหลักฐานว่าชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเคยป่วยหนักและเสียชีวิตจากการกินอาหารทะเลที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากน้ำปนเปื้อนสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมในช่วงทศวรรษที่ 1950’s มาแล้ว

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

จากการตรวจสอบโดย Taiwan FactCheck Center ยืนยันว่า ผู้ป่วยที่อยู่ในคลิปที่เผยแพร่ คือกลุ่มผู้ป่วยโรคมินามาตะ หรือโรคที่เกิดจากสารปรอท ไม่ใช่ผู้ป่วยที่สัมผัสกัมมันตรังสีตามที่กล่าวอ้าง


Minamata Disease

โรคมินามาตะ ถูกพบครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปี 1956 ที่เมืองมินามาตะ จังหวัดคูมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเด็กในหมู่บ้านชาวประมงเกิดอาการชักกระตุกและมีปัญหาในการพูดพร้อม ๆ กันหลายคน

มีความพยายามแยกคนป่วยออกจากชุมชนเพื่อป้องกันการติดต่อของโรค แต่ภายหลังกลับพบอาการประหลาดกับสัตว์หลายชนิดที่อาศัยอยู่ใกล้หมู่บ้านชาวประมง อาทิ แมวหลายตัวเกิดอาการชักกระตุกและตายอย่างไม่ทราบสาเหตุ ฝูงการ่วงตกมาตายจากท้องฟ้า ฝูงปลาลอยตายเกลื่อนทะเล สาหร่ายไม่ขึ้นตามชายฝั่งเหมือนในอดีต

การสอบสวนโดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยคูมาโมโตะพบว่า ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการชาที่ปลายมือและเท้า การเดินติดขัด ผู้ป่วยค่อย ๆ สูญเสียความสามารถในการพูด การได้ยิน การมองเห็น การกลืนอาหารเป็นไปอย่างยากลำบาก ในรายที่อาการรุนแรงจะเกิดอาการชักกระตุกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยปี 1956 พบผู้ป่วย 40 ราย และมีผู้เสียชีวิต 14 ราย

ทีมวิจัยพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มาจากหมู่บ้านชาวประมงของเมืองมินามาตะ และแมวส่วนใหญ่ที่ตายก็อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงเช่นกัน จึงสันนิษฐานว่าคนและสัตว์น่าจะป่วยจากภาวะอาหารเป็นพิษ จากสารโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในปลาและหอยที่จับได้จากทะเล

Chisso Corporation

ที่มาของสารพิษเกิดจากน้ำปนเปื้อนสารพิษที่ปล่อยจากโรงงานของบริษัท Chisso Corporation โรงงานสารเคมีขนาดใหญ่ที่ดำเนินกิจการในเมืองมินามาตะตั้งแต่ปี 1908 ตัวอย่างน้ำเสียที่ปล่อยจากโรงงานประกอบไปด้วยสารโลหะหนักจำนวนมาก ทั้ง ตะกั่ว ทองแดง แมงกานีส และปรอท

กระทั่งปี 1959 จึงได้รับการยืนยันว่า สาเหตุการป่วยเป็นโรคมินามาตะ มาจากสารปรอทที่ปล่อยจากน้ำเสียของโรงงานของบริษัท Chisso Corporation เมื่อตัวอย่างโคลนในคลองที่ใช้ปล่อยน้ำเสีย พบปริมาณสารปรอทถึง 2 กิโลกรัมต่อตะกอน 1 ตัน เทียบเท่าปริมาณที่พบจากการทำเหมือง ซึ่งภายหลัง Chisso Corporation ยังได้ตั้งบริษัทเพื่อจำหน่ายสารปรอทที่รวบรวมมาจากคลองที่ใช้ปล่อยน้ำเสียโดยเฉพาะ

เมื่อสารปรอทในแหล่งน้ำทำปฏิกิริยากับแบคทีเรีย ทำให้เกิดปรอทอินทรีย์ (Methylmercury) ซึ่งมีพิษต่อระบบประสาท เป็นปรอทที่เป็นพิษมากที่สุดเนื่องจากสามารถละลายในไขมันและจับกับโปรตีนในเซลล์ จึงถูกขับออกจากร่างกายได้ยากและสามารถสะสมในร่างกายในปริมาณมาก

ปี 1959 จังหวัดคูมาโมโตะสั่งห้ามขายปลาที่จับจากอ่าวมินามาตะ ส่วนกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นออกคำสั่งให้โรงงานของบริษัท Chisso Corporation ติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียและเปลี่ยนเส้นทางการปล่อยน้ำเสียให้ไกลจากหมู่บ้านชาวประมง โดย Chisso Corporation ยอมชดใช้เงินให้ผู้ป่วยและเสียชีวิตจากน้ำเสียปนเปื้อนที่ปล่อยมาจากโรงงาน

ระหว่างพิธีติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย ประธานของ Chisso Corporation ยังได้ดื่มน้ำที่อ้างว่านำมาจากน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วเพื่อยืนยันถึงความปลอดภัย

การกลับมาของโรค

แม้ทุกอย่างดูเหมือนจะคลี่คลายลง แต่ภายหลังกลับยังพบผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายคลึงกับโรคมินามาตะ ทั้งในจังหวัดคูมาโมโตะและจังหวัดคาโงชิมะ

ปี 1961 พบเด็กจำนวนมากป่วยด้วยภาวะสมองพิการแต่กำเนิด ที่คล้ายกับการป่วยด้วยโรคมินามาตะในผู้ใหญ่ ซึ่งแต่เดิมไม่คิดว่ามีความสัมพันธ์กัน เนื่องจากเด็กเหล่านี้เกิดหลังการระบาดของโรคมินามาตะผ่านไปแล้ว และไม่เคยกินปลาที่ปนเปื้อนสารปรอท ส่วนผู้เป็นแม่ก็ไม่เคยแสดงอาการของโรคมินามาตะเช่นกัน

รวมถึงความเชื่อที่ว่ารกในครรภ์มารดาจะช่วยปกป้องทารกในครรภ์จากสารพิษที่ถ่ายทอดจากกระแสเลือดของมารดา ซึ่งเป็นจริงสำหรับกรณีสารเคมีส่วนใหญ่ แต่ตรงกันข้ามกับปรอทอินทรีย์ เมื่อรกในครรภ์จะดึงปรอทอินทรีย์ออกจากกระแสเลือดในตัวแม่ แล้วไปสะสมยังทารกในครรภ์ ส่งผลให้เด็กเกิดมาพร้อมกับโรคมินามาตะ

ในปี 1965 โรคมินามาตะกลับมาระบาดอีกครั้งในจังหวัดนีงาตะ สาเหตุจากการปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนปรอทอินทรีย์สู่แหล่งน้ำโดยโรงงาน Showa Denko นำไปสู่การฟ้องร้องบริษัทในปี 1968 ส่งผลให้โรคมินามาตะได้รับการจับตาจากคนทั้งประเทศ

การปกปิดข้อมูล

ภายหลังมีการเปิดเผยว่าระบบบำบัดน้ำเสียที่โรงงานของบริษัท Chisso Corporation ซึ่งติดตั้งเมื่อปี 1959 ไม่สามารถกำจัดปรอทอินทรีย์ในน้ำเสียจากโรงงานได้ การติดตั้งเป็นเพียงการแก้ปัญหาเพื่อลดกระแสต่อต้านจากชาวเมืองเท่านั้น

ส่วนงานวิจัยที่พบปริมาณสารปรอทเกินปกติในเส้นผมของประชาชนในพื้นที่ ก็ไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ของจังหวัด ส่งผลให้โรคมินามาตะแพร่ระบาดเป็นเวลายาวนานถึง 10 ปี จนการระบาดของโรคมินามาตะทั้ง 2 ครั้งถูกยกให้เป็น 2 จาก 4 โรคสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น (Four Big Pollution Diseases of Japan)

ผลกระทบของคนและสัตว์จากการระบาดของโรคมินามาตะดำเนินมากว่า 36 ปี มีจำนวนผู้ป่วยกว่า 12,000 ราย และผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 ราย เมืองมินามาตะต้องยุติการจับปลาจนถึงปี 1997 บริษัท Chisso Corporation ต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบกว่า 86 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ถือเป็นหนึ่งในความเสียหายด้านอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา

ไม่ใช่อาการผู้ป่วยที่สัมผัสกัมมันตรังสี

จากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ อาการป่วยของผู้ได้รับสารกัมมันตรังสีขึ้นอยู่กับปริมาณและระยะเวลาของการสัมผัส หากได้รับกัมมันตรังสีปริมาณสูง อาจทำให้เกิดความผิดปกติจากการได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลัน (Acute Radiation Syndrome) ได้แก่การคลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ และผิวหนังไหม้

หากได้รับกัมมันตรังสีเป็นระยะเวลานาน อาจนำไปสู่ความผิดปกติเกี่ยวกับเลือดและการเกิดโรคมะเร็ง

ส่วนภาพที่นำมากล่าวอ้าง คืออาการของผู้ป่วยที่สัมผัสพิษจากสารปรอท ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางเป็นหลัก ไม่ใช่อาการของผู้ป่วยที่สัมผัสกัมมันตรังสีแต่อย่างใด

ข้อมูลอ้างอิง :

https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9581
https://en.wikipedia.org/wiki/Minamata_disease
https://ej.eric.chula.ac.th/article/view/276
https://amarc.co.th/methyl-mercury-amarc-article/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]