ชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST : ภัยไซเบอร์ ข้อมูลส่วนตัวที่ต้องระวัง


13 กันยายน 2566 – สำเนาบัตรประชาชน สลิปเงินเดือน ใบแจ้งหนี้ ข้อมูลส่วนตัวที่ต้องปกปิด เพราะหากรั่วไหลออกไป อาจถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลเหล่านี้มาทำร้ายเรา ?! ร่วมเรียนรู้กลโกงของมิจฉาชีพที่แฝงตัวอยู่ในโลกไซเบอร์ และศึกษาหาทางสร้างภูมิคุ้มกันกับชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST ร้อยเรียงเรื่องฮิต ติดอันดับจากชัวร์ก่อนแชร์


อันดับที่ 5 : ระวัง ! โมเดลลิ่งเก๊ หลอกพริตตี้ถ่ายโป๊ ขายออนไลน์ 

เตือนสาว ๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเข้าวงการบันเทิงหรือเป็นพริตตี้ ระวังโมเดลลิ่งเก๊ที่มีสาวประภทสองเป็นนกต่อ ที่หากคุณพลาดหรือเสียรู้ อาจถูกหลอกให้ถ่ายภาพโป๊ ซ้ำภาพเหล่านั้นยังถูกเผยแพร่อยู่ในโลกออนไลน์ !

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้กำกับการ และโฆษกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) มอบข้อคิด ข้อเตือนใจง่าย ๆ ในการป้องกันหรือรับมือกับมิจฉาชีพในโลกไซเบอร์ เพื่อเตรียมพร้อมให้เราทุกคนสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน


กลโกงคนร้ายจะทำการสมัครเฟซบุ๊ก ปลอมโปรไฟล์ว่าเป็นโมเดลลิ่งหานางแบบ นักแสดง เข้าวงการบันเทิง ก่อนจะเลือกติดต่อไปยังผู้เสียหายที่เป็นพริตตี้ หรือเน็ตไอดอล ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ชักชวนมาแคสติ้งงาน พร้อมกับให้แอดไลน์ตัวเองที่ทำปลอมขึ้นมา โดยใช้วิธีพูดคุยเป็นเดือนเพื่อให้ผู้เสียหายตายใจ ก่อนขอดูสัดส่วน สรีระ เพื่อพิจารณาหางานให้แคสติ้ง จนผู้เสียหายยอมถอดเสื้อผ้า ก่อนที่จะนำภาพลับผู้เสียหายเหล่านั้นไปโพสต์ลงกลุ่มลับ

อันดับที่ 4 : 7 สิ่ง ห้ามโพสต์บนโซเชียล เสี่ยงภัยไซเบอร์ 

ปัจจุบันโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Tiktok และ X (Twitter) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการติดต่อสื่อสารของคนส่วนใหญ่ เพราะไม่ว่าช่วงวัยไหนต่างก็มีบัญชีผู้ใช้โซเชียลเป็นของตนเองกันแล้วซึ่งก็มักจะแชร์ หรือโพสต์เรื่องราวต่าง ๆลงบนโซเชียลซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของเราทุกวันนี้ แต่รู้หรือไม่ อะไรบ้างที่ไม่ควรโพสต์ลงโซเชียลเพราะอาจกลายเป็นเครื่องมือให้มิจฉาชีพนำไปก่อเหตุอาชญากรรมและนำภัยมาถึงตัวเราได้ ไปดูกันเลย


7 สิ่งห้ามโพสต์บนโซเชียล เสี่ยงภัยไซเบอร์

1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรที่ทางราชการออกให้

เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะโพสต์หรือถ่ายส่งให้ใคร เนื่องจากเลขบัตรประชาชนแต่ละหลักก็จะบ่งบอกถึงข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับตัวเรา

อย่าง หลักที่ 1 หมายถึง ประเภทบุคคล ซึ่งมี 8 ประเภท

กรณีคนไทย ส่วนใหญ่จะเป็นเลข 3

หลักที่ 2,3 คือ รหัสจังหวัด

หลักที่ 4,5 คือ รหัสอำเภอหรือเขต เทศบาล

หลักที่ 6 – 10 คือ กลุ่มบุคคลแต่ละประเภทตามหลักแรก หรือหมายถึงเล่มที่ของสูติบัตร

หลักที่ 11,12 หมายถึง ใบที่ของสูติบัตรแต่ละเล่ม และหลักที่ 13 คือ ตัวเลขตรวจสอบความถูกต้องของเลข 12 หลักแรก

2. บัตรเครดิต เดบิต หรือบัตรนักเรียน นักศึกษา

ปัจจุบันจะเชื่อมโยงกับธนาคารเป็นบัตร ATM ไปในตัวสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้แม้จะมีการเซนเซอร์หรือเบลอตัวเลขแต่แค่เห็นชื่อธนาคาร ก็สามารถนำข้อมูลมาหลอกกันต่อได้ ทั้งการโทรศัพท์หลอกล่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือส่งข้อความ SMS แอบอ้างชื่อธนาคารก็เป็นไปได้

3. ใบแจ้งหนี้ บิลค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า

มีทั้งข้อมูลทั่วไปข้อมูลของผู้ใช้ไฟฟ้าอย่าง ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า ข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจจะถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีบิลอื่น ๆ ที่มีชื่อ นามสกุลที่อยู่ ก็เช่นกันนะครับ

รวมไปถึงข้อมูลทางการเงินใบเสร็จ สลิปต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผย การมีเลขบัญชีติดมา หรือการพูดถึงทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ ก็สามารถทำให้เหล่าแฮกเกอร์ สามารถปลอมตัวเป็นคุณแล้วไปแอบอ้างสิทธิ์เข้าถึงบัญชีและทรัพย์สินที่คุณโพสต์ลงโซเชียลได้

4. สิ่งที่ถูกทำซ้ำขึ้นมาได้อย่างเช่น ลายนิ้วมือ

บางคนถ่ายรูปท่าชูสองนิ้ว หรือท่ากดไลก์ ชูนิ้วโป้ง ต่างก็เป็นท่าโพสยอดฮิต อาจจะโอกาสเสี่ยงโดนขโมยลายนิ้วมือไปใช้ในการสวมรอย หรือขโมยข้อมูลสำคัญก็เป็นไปได้นะครับ และไม่ใช่แค่ลายนิ้วมือนะครับ กุญแจรถ กุญแจบ้านก็เช่นกัน เพราะแค่ถ่ายรูปกุญแจมิจฉาชีพก็อาจจะไปปั๊มกุญแจใหม่มาได้ โดยสร้างแบบจำลองจากคอมพิวเตอร์ และไปปั๊มเป็นกุญแจใหม่ขึ้นมา เพื่อแอบบุกรุกเข้ามาในบ้านของเราก็ได้

5. ตั๋วเครื่องบิน

ตั๋วเครื่องบินซ่อนข้อมูลส่วนตัวไม่ว่าจะเป็น ชื่อ นามสกุล, หมายเลขการจอง, จุดที่ออกเดินทาง, จุดหมายปลายทาง, วัน เวลา สถานที่ สามารถจะพาไปเข้าถึงข้อมูลการเดินทาง ซึ่งผู้หวังดีอาจใช้จุดนี้เปลี่ยนแปลง ยกเลิกตั๋ว และเที่ยวบินของเราได้ และถึงแม้จะถ่ายให้ไม่เห็นชื่อ สกุล หรือจุดหมาย แต่มิจฉาชีพก็ยังเข้าถึงข้อมูลได้ จากพวกบาร์โค้ด หรือตัวเลขรหัสต่าง ๆ เพื่อไปดูวิธีการซื้อตั๋ว หรือข้อมูลบัตรเครดิตที่ใช้จ่าย

6. หนังสือเดินทาง

ก็เหมือนกับบัตรประชาชน เพราะมีข้อมูลของชื่อ นามสกุลเรา, วันเดือนปีเกิด, อายุ สัญชาติ และเลข Passport ผู้ไม่หวังดีจะใช้ช่องทางนี้ในการปลอมแปลง Passport ของเราก็ได้

7. อย่าโพสต์สเตตัสแบบเรียลไทม์

ไม่ว่าไปไหน หรืออยู่บ้านก็ให้ระวัง การบอกให้โลกรู้ว่าอยู่ที่ไหนกันบ้าง อาจจะทำให้โจรรอเวลาเหมาะ ๆ บุกบ้านเราก็เป็นไปได้ หรือการแท็กสถานที่ ว่าอยู่ที่ไหน แต่คงไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่ เพราะอาจทำให้พวกโรคจิตที่ชอบแอบติดตามชีวิตเราตามหาเราเจอได้ และไม่ใช่แค่การโพสต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคอมเมนต์ซื้อสินค้าในโซเชียล หรือตามแชทต่าง ๆ ด้วย อย่าเขียนเบอร์โทรศัพท์ หรือที่อยู่ เผยแพร่บนสาธารณะเด็ดขาด

อันดับที่ 3 : ไม่ต้องสงสัย! โจรรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราได้ไง

มิจฉาชีพ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ชอบโทรมาหาเราอยู่บ่อย ๆ บ้างก็มิจฉาชีพโทรมาถามชื่อ หรือแอบอ้างเป็นหน่วยงานต่าง ๆ ถ้ามาในรูปแบบนี้เราก็รู้ทันได้ง่าย ๆ แต่ถ้ามิจฉาชีพรู้ ชื่อ-นามสกุล หรือแม้กระทั่ง มิจฉาชีพรู้ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์รู้ชื่อเราได้อย่างไร ?

มิจฉาชีพรู้ ชื่อ-นามสกุล ของเราอาจจะมาจากแหล่งเหล่านี้ก็ได้ 

  1. เอามาจากเว็บไซต์ที่เราเคยกรอกสมัครงานตามเว็บต่าง ๆ 
  2. มิจฉาชีพรู้ ชื่อ- นามสกุล, เลขบัตรประชาชน จากการลงทะเบียน หรือการสมัครสมาชิกจากที่ต่าง ๆ ของเรา
  3. เอามาจากลิ้งก์ที่เราเคยกดเข้าไป 
  4. เอามาจากหน่วยงานที่เราทำงานอยู่ 
  5. การแฮกอีเมล 

อันดับที่ 2 : 5 คำถาม เมื่อข้อมูล (ส่วนตัว) รั่วไหล

อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์  มีวิธีง่ายๆ หากพบว่ามีข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลจากผู้ให้บริการ ควรตั้งคำถาม ดังนี้

  1. ข้อมูลรั่วได้อย่างไร
  2. ทำอย่างไรไม่ให้ข้อมูลรั่ว
  3. เมื่อข้อมูลรั่วไปแล้วต้องเตรียมตัวอย่างไร
  4. ตรวจสอบและประเมินความน่าเชื่อถือของผู้ขอข้อมูลระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวทางช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ หรือโทรศัพท์เปลี่ยนรหัสผ่านที่ใช้ในการเข้าระบบที่ใช้งานกับผู้ให้บริการรายนั้น
  5. เป็นลิงก์หรือไฟล์แนบจากอีเมลหรือ SMS ที่ไม่รู้จัก เพราะผู้ไม่หวังดี อาจส่งลิงก์หรือไฟล์แนบ มายังอีเมลหรือ SMS และหวังให้หลงกล กดคลิกติดตั้ง malware เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญไปใช้ทำธุรกรรมการเงินต่อได้หรือไม่

อันดับที่ 1 : 5 วิธี การใช้สำเนาบัตรประชาชนให้ปลอดภัย

  1. อย่าถ่ายเอกสารด้านหลังบัตร
  2. ขีดเส้นคร่อม 2 เส้นพร้อมระบุวัตถุประสงค์ของสำเนาโดยไม่ให้ทับรูปภาพ
  3. ควรเซ็นสำเนาถูกต้องทับบางส่วนของบัตร
  4. หากใช้วิธีสแกนในแอปพลิเคชันทางการเงินสามารถใส่ถุงพลาสติกใส เพื่อเขียนเซ็นกำกับได้
  5. ใช้ในธุรกรรมที่จำเป็นและผู้ที่จะส่งให้มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น, พีรพล อนุตรโสตถิ์, จิรัชยา นวลนิ่มน้อย และเดชาพล วงศ์กลม
เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

ถึงไทยแล้ว “วิว กุลวุฒิ” เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด

สนามบินดอนเมือง 8 มิ.ย.- “วิว กุลวุฒิ” นักแบดมินตันชายเดี่ยว มือ 1 ของโลก ถึงไทยแล้ว เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด เตรียมลุยเป้าหมาย “ออล อิงแลนด์” “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตันประเภทชายเดี่ยวของไทย พร้อม “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข เดินทางกลับถึงประเทศไทย หลังเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2025 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,450,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 3-8 มิถุนายน 2568 โดยรอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 1 ของโลกและมือ 2 ของรายการ พบกับ โจว เทียนเฉิน มือ 7 ของโลกจากไต้หวัน […]