ชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST : ภัยไซเบอร์ ข้อมูลส่วนตัวที่ต้องระวัง


13 กันยายน 2566 – สำเนาบัตรประชาชน สลิปเงินเดือน ใบแจ้งหนี้ ข้อมูลส่วนตัวที่ต้องปกปิด เพราะหากรั่วไหลออกไป อาจถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลเหล่านี้มาทำร้ายเรา ?! ร่วมเรียนรู้กลโกงของมิจฉาชีพที่แฝงตัวอยู่ในโลกไซเบอร์ และศึกษาหาทางสร้างภูมิคุ้มกันกับชัวร์ก่อนแชร์ CHECK-LIST ร้อยเรียงเรื่องฮิต ติดอันดับจากชัวร์ก่อนแชร์


อันดับที่ 5 : ระวัง ! โมเดลลิ่งเก๊ หลอกพริตตี้ถ่ายโป๊ ขายออนไลน์ 

เตือนสาว ๆ ที่ใฝ่ฝันอยากเข้าวงการบันเทิงหรือเป็นพริตตี้ ระวังโมเดลลิ่งเก๊ที่มีสาวประภทสองเป็นนกต่อ ที่หากคุณพลาดหรือเสียรู้ อาจถูกหลอกให้ถ่ายภาพโป๊ ซ้ำภาพเหล่านั้นยังถูกเผยแพร่อยู่ในโลกออนไลน์ !

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้กำกับการ และโฆษกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) มอบข้อคิด ข้อเตือนใจง่าย ๆ ในการป้องกันหรือรับมือกับมิจฉาชีพในโลกไซเบอร์ เพื่อเตรียมพร้อมให้เราทุกคนสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน


กลโกงคนร้ายจะทำการสมัครเฟซบุ๊ก ปลอมโปรไฟล์ว่าเป็นโมเดลลิ่งหานางแบบ นักแสดง เข้าวงการบันเทิง ก่อนจะเลือกติดต่อไปยังผู้เสียหายที่เป็นพริตตี้ หรือเน็ตไอดอล ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ชักชวนมาแคสติ้งงาน พร้อมกับให้แอดไลน์ตัวเองที่ทำปลอมขึ้นมา โดยใช้วิธีพูดคุยเป็นเดือนเพื่อให้ผู้เสียหายตายใจ ก่อนขอดูสัดส่วน สรีระ เพื่อพิจารณาหางานให้แคสติ้ง จนผู้เสียหายยอมถอดเสื้อผ้า ก่อนที่จะนำภาพลับผู้เสียหายเหล่านั้นไปโพสต์ลงกลุ่มลับ

อันดับที่ 4 : 7 สิ่ง ห้ามโพสต์บนโซเชียล เสี่ยงภัยไซเบอร์ 

ปัจจุบันโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Tiktok และ X (Twitter) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการติดต่อสื่อสารของคนส่วนใหญ่ เพราะไม่ว่าช่วงวัยไหนต่างก็มีบัญชีผู้ใช้โซเชียลเป็นของตนเองกันแล้วซึ่งก็มักจะแชร์ หรือโพสต์เรื่องราวต่าง ๆลงบนโซเชียลซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของเราทุกวันนี้ แต่รู้หรือไม่ อะไรบ้างที่ไม่ควรโพสต์ลงโซเชียลเพราะอาจกลายเป็นเครื่องมือให้มิจฉาชีพนำไปก่อเหตุอาชญากรรมและนำภัยมาถึงตัวเราได้ ไปดูกันเลย


7 สิ่งห้ามโพสต์บนโซเชียล เสี่ยงภัยไซเบอร์

1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรที่ทางราชการออกให้

เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะโพสต์หรือถ่ายส่งให้ใคร เนื่องจากเลขบัตรประชาชนแต่ละหลักก็จะบ่งบอกถึงข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับตัวเรา

อย่าง หลักที่ 1 หมายถึง ประเภทบุคคล ซึ่งมี 8 ประเภท

กรณีคนไทย ส่วนใหญ่จะเป็นเลข 3

หลักที่ 2,3 คือ รหัสจังหวัด

หลักที่ 4,5 คือ รหัสอำเภอหรือเขต เทศบาล

หลักที่ 6 – 10 คือ กลุ่มบุคคลแต่ละประเภทตามหลักแรก หรือหมายถึงเล่มที่ของสูติบัตร

หลักที่ 11,12 หมายถึง ใบที่ของสูติบัตรแต่ละเล่ม และหลักที่ 13 คือ ตัวเลขตรวจสอบความถูกต้องของเลข 12 หลักแรก

2. บัตรเครดิต เดบิต หรือบัตรนักเรียน นักศึกษา

ปัจจุบันจะเชื่อมโยงกับธนาคารเป็นบัตร ATM ไปในตัวสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้แม้จะมีการเซนเซอร์หรือเบลอตัวเลขแต่แค่เห็นชื่อธนาคาร ก็สามารถนำข้อมูลมาหลอกกันต่อได้ ทั้งการโทรศัพท์หลอกล่อขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือส่งข้อความ SMS แอบอ้างชื่อธนาคารก็เป็นไปได้

3. ใบแจ้งหนี้ บิลค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า

มีทั้งข้อมูลทั่วไปข้อมูลของผู้ใช้ไฟฟ้าอย่าง ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า ข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจจะถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีบิลอื่น ๆ ที่มีชื่อ นามสกุลที่อยู่ ก็เช่นกันนะครับ

รวมไปถึงข้อมูลทางการเงินใบเสร็จ สลิปต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ไม่ควรเปิดเผย การมีเลขบัญชีติดมา หรือการพูดถึงทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ ก็สามารถทำให้เหล่าแฮกเกอร์ สามารถปลอมตัวเป็นคุณแล้วไปแอบอ้างสิทธิ์เข้าถึงบัญชีและทรัพย์สินที่คุณโพสต์ลงโซเชียลได้

4. สิ่งที่ถูกทำซ้ำขึ้นมาได้อย่างเช่น ลายนิ้วมือ

บางคนถ่ายรูปท่าชูสองนิ้ว หรือท่ากดไลก์ ชูนิ้วโป้ง ต่างก็เป็นท่าโพสยอดฮิต อาจจะโอกาสเสี่ยงโดนขโมยลายนิ้วมือไปใช้ในการสวมรอย หรือขโมยข้อมูลสำคัญก็เป็นไปได้นะครับ และไม่ใช่แค่ลายนิ้วมือนะครับ กุญแจรถ กุญแจบ้านก็เช่นกัน เพราะแค่ถ่ายรูปกุญแจมิจฉาชีพก็อาจจะไปปั๊มกุญแจใหม่มาได้ โดยสร้างแบบจำลองจากคอมพิวเตอร์ และไปปั๊มเป็นกุญแจใหม่ขึ้นมา เพื่อแอบบุกรุกเข้ามาในบ้านของเราก็ได้

5. ตั๋วเครื่องบิน

ตั๋วเครื่องบินซ่อนข้อมูลส่วนตัวไม่ว่าจะเป็น ชื่อ นามสกุล, หมายเลขการจอง, จุดที่ออกเดินทาง, จุดหมายปลายทาง, วัน เวลา สถานที่ สามารถจะพาไปเข้าถึงข้อมูลการเดินทาง ซึ่งผู้หวังดีอาจใช้จุดนี้เปลี่ยนแปลง ยกเลิกตั๋ว และเที่ยวบินของเราได้ และถึงแม้จะถ่ายให้ไม่เห็นชื่อ สกุล หรือจุดหมาย แต่มิจฉาชีพก็ยังเข้าถึงข้อมูลได้ จากพวกบาร์โค้ด หรือตัวเลขรหัสต่าง ๆ เพื่อไปดูวิธีการซื้อตั๋ว หรือข้อมูลบัตรเครดิตที่ใช้จ่าย

6. หนังสือเดินทาง

ก็เหมือนกับบัตรประชาชน เพราะมีข้อมูลของชื่อ นามสกุลเรา, วันเดือนปีเกิด, อายุ สัญชาติ และเลข Passport ผู้ไม่หวังดีจะใช้ช่องทางนี้ในการปลอมแปลง Passport ของเราก็ได้

7. อย่าโพสต์สเตตัสแบบเรียลไทม์

ไม่ว่าไปไหน หรืออยู่บ้านก็ให้ระวัง การบอกให้โลกรู้ว่าอยู่ที่ไหนกันบ้าง อาจจะทำให้โจรรอเวลาเหมาะ ๆ บุกบ้านเราก็เป็นไปได้ หรือการแท็กสถานที่ ว่าอยู่ที่ไหน แต่คงไม่ใช่สิ่งที่ดีเท่าไหร่ เพราะอาจทำให้พวกโรคจิตที่ชอบแอบติดตามชีวิตเราตามหาเราเจอได้ และไม่ใช่แค่การโพสต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงคอมเมนต์ซื้อสินค้าในโซเชียล หรือตามแชทต่าง ๆ ด้วย อย่าเขียนเบอร์โทรศัพท์ หรือที่อยู่ เผยแพร่บนสาธารณะเด็ดขาด

อันดับที่ 3 : ไม่ต้องสงสัย! โจรรู้ข้อมูลส่วนตัวของเราได้ไง

มิจฉาชีพ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ชอบโทรมาหาเราอยู่บ่อย ๆ บ้างก็มิจฉาชีพโทรมาถามชื่อ หรือแอบอ้างเป็นหน่วยงานต่าง ๆ ถ้ามาในรูปแบบนี้เราก็รู้ทันได้ง่าย ๆ แต่ถ้ามิจฉาชีพรู้ ชื่อ-นามสกุล หรือแม้กระทั่ง มิจฉาชีพรู้ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์รู้ชื่อเราได้อย่างไร ?

มิจฉาชีพรู้ ชื่อ-นามสกุล ของเราอาจจะมาจากแหล่งเหล่านี้ก็ได้ 

  1. เอามาจากเว็บไซต์ที่เราเคยกรอกสมัครงานตามเว็บต่าง ๆ 
  2. มิจฉาชีพรู้ ชื่อ- นามสกุล, เลขบัตรประชาชน จากการลงทะเบียน หรือการสมัครสมาชิกจากที่ต่าง ๆ ของเรา
  3. เอามาจากลิ้งก์ที่เราเคยกดเข้าไป 
  4. เอามาจากหน่วยงานที่เราทำงานอยู่ 
  5. การแฮกอีเมล 

อันดับที่ 2 : 5 คำถาม เมื่อข้อมูล (ส่วนตัว) รั่วไหล

อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์  มีวิธีง่ายๆ หากพบว่ามีข้อมูลส่วนตัวรั่วไหลจากผู้ให้บริการ ควรตั้งคำถาม ดังนี้

  1. ข้อมูลรั่วได้อย่างไร
  2. ทำอย่างไรไม่ให้ข้อมูลรั่ว
  3. เมื่อข้อมูลรั่วไปแล้วต้องเตรียมตัวอย่างไร
  4. ตรวจสอบและประเมินความน่าเชื่อถือของผู้ขอข้อมูลระมัดระวังการให้ข้อมูลส่วนตัวทางช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ หรือโทรศัพท์เปลี่ยนรหัสผ่านที่ใช้ในการเข้าระบบที่ใช้งานกับผู้ให้บริการรายนั้น
  5. เป็นลิงก์หรือไฟล์แนบจากอีเมลหรือ SMS ที่ไม่รู้จัก เพราะผู้ไม่หวังดี อาจส่งลิงก์หรือไฟล์แนบ มายังอีเมลหรือ SMS และหวังให้หลงกล กดคลิกติดตั้ง malware เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญไปใช้ทำธุรกรรมการเงินต่อได้หรือไม่

อันดับที่ 1 : 5 วิธี การใช้สำเนาบัตรประชาชนให้ปลอดภัย

  1. อย่าถ่ายเอกสารด้านหลังบัตร
  2. ขีดเส้นคร่อม 2 เส้นพร้อมระบุวัตถุประสงค์ของสำเนาโดยไม่ให้ทับรูปภาพ
  3. ควรเซ็นสำเนาถูกต้องทับบางส่วนของบัตร
  4. หากใช้วิธีสแกนในแอปพลิเคชันทางการเงินสามารถใส่ถุงพลาสติกใส เพื่อเขียนเซ็นกำกับได้
  5. ใช้ในธุรกรรมที่จำเป็นและผู้ที่จะส่งให้มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น, พีรพล อนุตรโสตถิ์, จิรัชยา นวลนิ่มน้อย และเดชาพล วงศ์กลม
เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.ไฟเขียว “วิทัย” นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่

กรุงเทพฯ 22 ก.ค. – ครม.ไฟเขียว “วิทัย” นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ เดินหน้าผลักดันนโยบายการเงิน ควบคู่กับนโยบายการคลัง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เนื่องจากครบกำหนด นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 30 กันยายน 2568 ให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป หลังจากพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายเศรษฐพุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ 21 สิงหาคม 2563 หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการ ครม.ให้ทำหนังสือถึง ปปง., ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ให้ชัดเจนมากขึ้น ตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายกำหนด การประชุม ครม.วันนี้ กระทรวงการคลังจึงส่งเอกสารเพื่อบรรจุในวาระพิจารณา ครม. […]

17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือถึง ครม. ขอผู้ว่าฯ ธปท.เป็นอิสระ

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- 17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี-ครม. ระบุผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ต้องเป็นอิสระ ไม่ถูกกดดันให้ลดดอกเบี้ย เพจเฟชบุ๊ก “เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง” โพสต์หนังสือเปิดผนึกถึงคณะรัฐมนตรี เรื่อง ตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เรียน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า กรณีการเสนอชื่อผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 ขอแสดงความห่วงใยและเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะต้องเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว แม้จะเข้าใจได้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว รัฐบาลต้องการการเจริญเติบโตของประเทศในระยะสั้น ซึ่งประสบการณ์การของผู้ทำงานธนาคารของรัฐ อาจจะเคยชินในการสนองตอบต่อนโยบายของนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ อย่างไรก็ดี เนื่องจากประเทศชาติต้องการการเติบโตที่มีเสถียรภาพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องเป็นบุคคลที่สามารถประคับประคอง และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมุ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นของรัฐบาล 2.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่ถูกกดดันเพื่อลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ตามความต้องการของฝ่ายการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ เพราะจะทำให้นักการเมืองและคนบางกลุ่ม สามารถแสวงหาประโยชน์ในบางโอกาสจนร่ำรวย แต่ประเทศชาติเสียหาย 3.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเป็นอิสระจากการกดดันของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐ แต่จะต้องกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ของประเทศระยะยาว 4.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องได้รับการยอมรับระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและสถาบันของต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะทำธุรกิจและพันธสัญญาในระยะยาว 5.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเข้าใจการพัฒนาประเทศในระดับมหภาค และการปรับโครงสร้างเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน […]

กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง

กกต. 21 ก.ค.-กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง ให้ได้มาซึ่งการลงคะแนนเลือก สว. ไม่พบหลักฐานได้รับแต่งตั้ง หลังมีมติยื่นศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญา เว็บไซต์สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.รวม 13 หน้า ที่มีมติเมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญมาตรา 226 และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ น.ส.เกศกมล ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561มาตรา 77 (4) กรณีใช้ตำแหน่งศาสตราจารย์ในการยื่นสมัครและแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา คดีนี้มีผู้ร้อง น.ส.เกศกมล รวม 7 รายร้องใน 6 ประเด็น ซึ่งมีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกันว่า น.ส.เกศกมล สมัครรับเลือกเป็น สว. กลุ่มที่ 19 โดยระบุในข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว.3) […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]