ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : สัญญาณโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง

🎯 ตรวจสอบกับ รศ.นพ.ประจักษ์ ศรีรพีพัฒน์ หัวหน้าสาขาวิชาประสาทศัลยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล


“น้ำคั่งในโพรงสมอง” เป็นโรคความเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลาง คือ สมองในผู้สูงอายุ

จริง ๆ เรารู้จักโรคนี้มานานมากแล้ว (ประมาณ 60 ปี)


ความจริงในอดีตก็คือ ผู้ป่วยกลุ่มหนึ่ง มีการเดินที่ผิดปกติ ลักษณะการเดินจะคล้าย ๆ กันหมด หลังค่อม ๆ เดินช้าลง ก้าวเท้าสั้น ๆ ซอยเท้า ยกเท้าไม่ค่อยสูง การคิดแย่ลง การตัดสินใจแย่ลง ความสามารถในการใช้สมองเดิม ๆ ของเขาแย่ลงไป และรวมถึงกลุ่มอาการอารมณ์เปลี่ยนแปลงด้วย กลายเป็นคนขี้หงุดหงิด อารมณ์ค่อนข้างเกรี้ยวกราด

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าในผู้ป่วยกลุ่มเดียวกันมีปัญหาเรื่องการกลั้นปัสสาวะ

บังเอิญว่า ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีการไปเจาะโพรงน้ำเลี้ยงสันหลังออกมาตรวจ และเป็นการระบายน้ำไขสันหลังออกไปในตัว ปรากฏว่าระบบดีขึ้น ซึ่งเป็นการพบโดยบังเอิญ


หลังจากสืบค้นมาเรื่อย ๆ จึงเกิดแนวคิดของการเกิดโรคนี้ ดังนั้นการรักษาจึงกลายเป็นการใส่ตัวระบายน้ำนั่นเอง เพราะว่าเมื่อมีการระบายน้ำออกมาทำให้อาการดีขึ้น

โรคน้ำคั่งในโพรงสมอง เป็นความเสื่อมตามวัย ?

ความเสื่อมตามวัยเริ่มต้นที่สมอง เพราะสมองคนอายุมากมีการหดตัวเหมือนกับผิวหนังของเรา

สมองก็คือเนื้อเยื่อ น้ำในเนื้อเยื่อก็จะลดน้อยลงไปตามวัย เมื่อสมองหดตัวโพรงน้ำก็ใหญ่ขึ้น

โพรงน้ำที่ใหญ่ขึ้น มีคนให้สมมติฐานว่า แรงตึงผิวของโพรงน้ำที่ใหญ่ขึ้นนั่นแหละเปลี่ยนแปลง

ความดันไม่เปลี่ยนจึงเป็นที่มาของชื่อภาษาอังกฤษว่า “NPH” (Normal Pressure Hydrocephalus)

ภาษาไทยใช้ว่า “ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองชนิดแรงดันปกติ”

เนื่องจากแรงดันโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยน แต่แรงตึงที่ผิวเปลี่ยน จึงเป็นโรคของความเสื่อมที่มาส่งผล เพราะว่าสมองของเรามีหลายหน้าที่ เช่น ตาเสื่อม (เห็นวุ้นในตาขุ่น ๆ)

การเสื่อมทางกายภาพส่งผลทำให้การทำงานผิดเพี้ยน แต่เนื่องจากสิ่งที่รับผิดชอบมีมากกว่าการเดิน มากกว่าความจำ มากกว่าการกลั้นปัสสาวะ สิ่งที่แสดงออกมาจึงมีหลายกลุ่มอาการเหลือ นี่แหละโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง

สาเหตุของโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง คืออะไร

ปัจจุบัน ยังไม่มีใครรู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร รู้แต่ว่าไม่ใช่โรคทางพันธุกรรม ไม่มีลักษณะของการถ่ายทอดใด ๆ เป็นลักษณะเฉพาะ แต่จะเกิดในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ

สิ่งเดียวที่ค้นพบว่าเป็นความจริงเสมอ คือ เมื่อไหร่อายุมากขึ้น (อายุ 80 ขึ้นไป) ก็ยิ่งพบได้มากขึ้น

ในต่างประเทศ (ญี่ปุ่น) มีการศึกษาล่าสุด พบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นไปถึง 7-8%

ดังนั้น ถ้ามองว่าเป็นโรคความเสื่อมอย่างหนึ่ง ทุกคนมีโอกาสเป็นโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง

โรคน้ำคั่งในโพรงสมอง เหมือนกับโรคสมองเสื่อมหรือไม่

“น้ำคั่งในโพรงสมอง” ไม่ใช่เรื่องของเซลล์เสื่อมสภาพนำมาก่อน แตกต่างจากกลุ่มโรคอัลไซเมอร์หรือพาร์กินสัน กลุ่มนั้นเซลล์เสื่อมสภาพ ณ จุดใดจุดหนึ่ง จึงมีอาการจุดใดจุดหนึ่ง ต่างกับอาการที่กระจัดกระจาย

ปัจจุบัน พบอาการกว้างขึ้นมาก น่าจะหมายถึงการทำงานของสมองในทุกระบบก็เป็นได้ ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นมาจากเคมีหรือกลุ่มเซลล์ใด ๆ ที่เสื่อม ถึงจะให้สารบางอย่างออกมาแปลก ๆ แต่เกี่ยวกับกายภาพบางอย่าง เพราะวินิจฉัยโดยการใช้ภาพ แล้วก็วินิจฉัยโดยการเจาะหลังทดสอบเอาน้ำออก ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของปริมาณและแรงดันต่างหาก มีการพิสูจน์ตัวเองมากว่า 50 ปีแล้ว จึงน่าจะเป็นความเสื่อมของระบบกายภาพ แต่ส่งผลทำให้สรีรวิทยาคือการทำงานของสมองผิดเพี้ยนไป 

อาการสัญญาณโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง

พบว่ามีกลุ่มอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจง แต่มาในห้วงเวลาที่เจาะจงใกล้ ๆ กัน

1. ผู้สูงอายุ ยิ่งอายุมากก็ยิ่งเสี่ยงสูง

ค่าเฉลี่ยของอายุผู้ป่วยที่มีการศึกษาล่าสุด อยู่ที่ประมาณ 70 กว่าปี แต่ความเห็นของผม 60 กว่าปียังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้า 70 กว่าปีเสี่ยงแล้ว

2. การเดินช้าลง ดูช้า ๆ แปลกหูแปลกตา

ผู้ป่วยกลุ่มนี้ ในระยะแรก ๆ อาการไม่สม่ำเสมอ บางวันจะเดินดีกว่าบางวัน บางวันจะแย่กว่าบางวัน บางครั้งดูเหมือนผู้ป่วยแกล้ง เดี๋ยวก็เคลื่อนไหวคล่องแคล่วและมีความกระตือรือร้น เดี๋ยวก็ดูเฉื่อย ๆ ไป บางวันก็นั่งหลับ บางวันก็ไปเที่ยวไหนได้ การเดินบางวันไม่ดีเลย แต่บางวันทำไมเดินปกติดี

ถ้าติดตามผลไปสักระยะหนึ่ง พบว่าห้วงเวลาเป็นเดือนหรือเป็นปีผู้ป่วยจะเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่เนื่องจากคนใกล้ตัวเห็นอยู่ทุกวัน อาจจะไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็จะคิดว่าผู้ป่วยค่อย ๆ เปลี่ยนอย่างนี้ หลัง ๆ จะเริ่มแย่ลงถี่ ๆ เมื่อถึงจุดที่แย่ลงจะเห็นชัดตอนนั้น

3.  ล้ม การเดินผิดปกตินำไปสู่การล้ม การเดินน้อย ไม่ยอมเดิน ทรงตัวแล้วล้ม

การทรงตัวที่ล้ม แม้กระทั่งการนั่งยังทรงตัวไม่ได้ หรือนั่งหลังค้อม ในที่สุดศีรษะจะทิ่มลงไปกับพื้น ร่วงหล่นลงจากเก้าอี้ ไม่ใช่จากการนั่งหลับ แต่เกิดจากไม่สามารถควบคุมการทรงตัวของตัวเองได้ ดังนั้น จะตามมาด้วยผลทั้งหมดของการล้ม เพราะจะพบปัจจัยร่วมเกือบทุกราย ไม่มีประวัติล้มมาก่อน แต่จะล้มซ้ำซากในช่วงหลัง ๆ

4. กลั้นปัสสาวะไม่อยู่

ส่วนใหญ่จะนำมาด้วยการปัสสาวะบ่อย ๆ กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยทัน และในที่สุดก็ถึงขั้นกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เลย

5. อารมณ์หงุดหงิด

อารมณ์ก็เกี่ยวข้อง อาการทางจิตพบได้ร้อยละ 70-80 ในผู้ป่วยของต่างประเทศ

6. การกลืน และอาการสำลัก

กลุ่มอาการ “กลืน สำลัก ออกเสียง” พบว่าเกี่ยวข้องกับน้ำคั่งในโพรงสมอง มีการศึกษาแห่งแรกที่ศิริราชและตีพิมพ์รายงานผลการศึกษาในวารสารทางการแพทย์ต่างประเทศ จากการพบหลักฐานย้อนหลังและนำมาศึกษาต่อไปข้างหน้า

กลุ่มผู้ป่วยโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง แทนที่จะคิดว่า เดินไม่ดี ฉี่กลั้นไม่อยู่ ความจำเสื่อม

ต้องคิดใหม่แล้ว นั่งไหนหลับนั่น เสียงแหบเบา ดื่มน้ำสำลัก ไอบ่อย ๆ กลางคืนสำลักน้ำลาย กลืนอะไรลำบาก อมอาหาร นั่งหลับคาโต๊ะอาหาร เหล่านี้พบว่าใช่หมดเลย

ทำไมถึงพูดว่าใช่หมด เพราะหลังจากการรักษาหรือการเจาะหลังทดสอบ อาการเหล่านี้หาย ข่าวดีก็คือหายเร็วกว่าอาการเรื่องการเดิน หายเร็วกว่าความจำ กลายเป็นว่าอาการที่พบในช่วงหลัง เป็นตัวชี้วัดความเป็นความตายของผู้ป่วยมากกว่าการกลั้นปัสสาวะ มากกว่าสำลักอาหาร เวลานอนหลับสำลักน้ำลายจนตื่น แน่นอนว่าสำลักและตามมาด้วยปอดบวมหรือปอดอักเสบ ตอนนั้นเป็นเรื่องใหญ่แล้ว

มีอาการเหล่านี้ เป็นคนอายุมาก เดินช้า ซอยเท้า ก้าวสั้น ไปห้องน้ำไม่ทัน กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ อารมณ์เปลี่ยน การนอนเปลี่ยน พูดน้อย สำลักบ่อย เสียงแหบพร่า ทุกอย่างดูช้า ๆ คิดถึงโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง

ดูเพิ่มเติม รายการชัวร์ก่อนแชร์ : https://www.youtube.com/watch?v=zlEKtOtfYrQ&t=13s

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]

“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน

กทม. 5 ส.ค.-“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน พิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ คนขับรถกระบะได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การว่า ตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ดีๆ “เป๊ก ผลิตโชค” ก็กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน ลงมาพูดคุยกับ “เป๊ก” จากนั้น “เป๊ก” ก็เข้ามาสวมกอด ยกมือไหว้ แล้วเบนไปหานายชุติเทพ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป และไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมาเปิดดูข่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏภาพ “เป๊ก ผลิตโชค” ขึ้นไปเกาะบนหลังคารถ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ปากคำ ด้าน “เป๊ก ผลิตโชค” ยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำ เพราะยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยินดีที่จะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาล ถ้าหากแพทย์อนุญาต หรือ “เป๊ก ผลิตโชค” […]

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย