เปิดบันทึกกิจกรรม “นักสืบสายชัวร์ X ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST”

นักสืบสายชัวร์ X ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST คืออะไร?

“นักสืบสายชัวร์ x ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST” เป็นโครงการที่ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อสร้างความรู้เท่าทันข้อมูลเท็จและภัยไซเบอร์ให้แก่ประชาชน โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต่อยอดมาจากโครงการ “นักสืบสายชัวร์” ที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลายปี


ปักหมุดกิจกรรมครั้งแรกที่ “พัทยา”

เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่หมุดหมายแรกของการจัดกิจกรรมเพื่อการรู้เท่าทันรูปแบบใหม่ในครั้งนี้ ภายใต้แนวคิด “รู้เท่าทันผ่านมุมมองของการสร้างกลลวง” ซึ่งเป็นการบูรณาการศาสตร์ที่หลากหลายครั้งแรกของประเทศไทย กลายเป็นหลักสูตรที่น่าสนใจผ่านวิทยากรจากต่างวงการ

นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กิจกรรมในลักษณะนี้ อสมท จัดมาโดยตลอด ซึ่งมีรายการ “ชัวร์ก่อนแชร์” เป็นโครงการนำร่องที่สร้างคุณค่าและความรู้ให้กับประชาชนและเยาวชนจนถึงปัจจุบัน”

นายชำนาญ งามมณีอุดม รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่า “ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนักสืบสายชัวร์ X ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST นอกจากได้ความรู้กลับไปแล้ว ยังได้ทักษะ วิธีการคิด เฉลียว เท่าทัน และเฝ้าระวังจากคนโกง รวมถึงกลลวงต่าง ๆ ด้วย”

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าบ้านอย่างเมืองพัทยา ที่อำนวยความสะดวก เรื่องสถานที่จัดงาน โดย คุณปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้กล่าวว่า “การเปิดพื้นที่การเรียนรู้ให้กับผู้ร่วมกิจกรรม นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้จากวิทยากรระดับประเทศ และนอกจากได้ความรู้แล้วยังมีความสนุก เพลิดเพลิน และได้ภูมิคุ้มกันที่จะใช้สื่ออย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ สำหรับข่าวปลอมต่าง ๆ ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะเมืองพัทยาเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของประเทศไทยและทั้งโลกด้วย การจัดสัมมนาครั้งนี้จะช่วยได้อย่างยิ่ง เมืองพัทยายินดีต้อนรับกิจกรรมดี ๆ เหล่านี้เป็นอย่างมาก”


กิจกรรมมายากลสุดระทึก!

ไฮไลต์ของกิจกรรมคือ “การแสดงมายากล” จากนักมายากลระดับตำนานของเมืองไทย ที่นำเสนอการรู้เท่าทันข้อมูลเท็จและภัยไซเบอร์ผ่านการแสดงมายากลและกลลวงต่าง ๆ ผู้ร่วมกิจกรรมจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับโชว์และการเปิดโปงกลเม็ดกลลวงที่เหล่ามิจฉาชีพใช้กล่าวอ้างในการหลอกลวงเหยื่อ

แม้ดูเหมือนว่านักมายากลจะสามารถเสกคาถาหรือร่ายมนต์วิเศษได้ ทว่าในความเป็นจริงล้วนเป็นการแสดงที่อาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ ถ้าหากเราเข้าใจคนกลวิธีก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพแน่นอน

คุณเฉลิมสวรรค์ ไพบูลย์พันธ์ (อาจารย์ฟิลิป) นักมายากล ที่ปรึกษาสมาคมวิทยากลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “มีความเชื่อหลายเรื่องที่ต้องพิสูจน์ให้ดู เพราะว่าสิ่งเหล่านี้นักมายากลก็ทำได้ สิ่งไหนที่นักมายากลทำได้ สิ่งนั้นจะไม่ใช่ความมหัศจรรย์หรือวิเศษอะไรทั้งสิ้น เป็นเพียงการแสดงแค่นั้นเอง”




เมื่อ “วิทยาศาสตร์” ไขความลับ “อภินิหารเร้นลับ”

เรื่องเร้นลับและอภินิหารมักถูกมิจฉาชีพนำมาแปลงสารให้กลายเป็นข้อมูลลวง หลอกลวงผู้คนบน Social Media มากเป็นอันดับต้น ๆ

ด้วยความไม่รู้ หรือมองไม่เห็นด้วยตา เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เรื่องราวเหล่านี้ยังคงใช้หลอกลวงได้อยู่เสมอ ทั้งที่รู้ว่าเรื่องลี้ลับส่วนมากเป็นข้อมูลกลลวงของผู้ไม่หวังดีที่แฝงตัวในคราบมิจฉาชีพ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยตกเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายกสมาคมวิทยากลแห่งประเทศไทย อธิบายว่า “มีหลายเรื่องที่ฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่เราเชื่อ เช่น เชื่อว่าผีและวิญญาณมีจริง แต่ถ้าอธิบายได้ว่าสิ่งที่เราเห็นนั้น จริง ๆ แล้ววิทยาศาสตร์อธิบายเรื่องพวกนี้ได้ไม่ใช่เป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องความเข้าใจผิดไปเอง หรือบางทีก็เป็นการใช้แอพพลิเคชันมือถือต่าง ๆ ในการแกล้งก็ได้

เรื่องการหลอกลวงขายสินค้าก็มีมากมาย มีการใช้เทคนิคให้ดูเหมือนน่าเชื่อถือ แต่ถ้าเราจับได้ว่าเทคนิคนั้นจริง ๆ มันก็เป็นแค่กลลวง ไม่ว่าจะเป็นกลลวงทางวิทยาศาสตร์หรือแม้แต่มายากลก็ตาม

สิ่งที่เราอยากได้ก็คือการกระตุ้นต่อม “เอ๊ะ” ขึ้นมา แล้วหากเจอคนเข้ามาหลอกลวงเรา เราอาจจะต้องตรวจสอบก่อนว่ามีแนวโน้มที่จะหลอกได้หรือเปล่า แต่เมื่อก่อนเชื่อทันทีเลย แชร์เลย ส่งต่อเลย”




“เทคนิคทางคอมพิวเตอร์” รับมือข้อมูลเท็จ ภาพลวงตา!!

นอกจากข้อมูลลวงที่อยู่ในรูปตัวอักษรแล้ว การใช้เทคนิคภาพทางคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างภาพลักษณ์และตัวเสมือนบนโลกออนไลน์ ถือเป็นภัยคุกคามที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนที่รู้ไม่เท่าทันกลลวงอย่างยิ่ง

อุปนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย คุณขจร พีรกิจ กล่าวว่า “ยิ่งเทคโนโลยีรุดหน้าไปไกล เรายิ่งต้องเพิ่มองค์ความรู้ให้เป็นเกราะคุ้มกันภัยไซเบอร์

สิ่งหนึ่งที่อยากจะให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าใจก็คือเวลาเห็นภาพ ต้องคิดก่อนว่าภาพนี้เป็นภาพจริงหรือเปล่า ภาพลวงตาที่เหล่ามิจฉาชีพใช้ คล้ายคลึงกับจินตภาพแห่งมายาที่นักมายากลใช้แสดงอยู่บนเวที ต่างกันตรงที่มายากลนั้นสร้างความบันเทิงใจ ในขณะที่กลลวงของผู้ไม่หวังดีสร้างความเสียหายให้กับผู้คน และที่สำคัญมากก็คือการเอาภาพของคนอื่นไปใช้หลอกลวง

เห็นได้ชัดเลยว่าเวลาเราเห็นการโฆษณาเรื่องลดความอ้วน บางทีภาพจริงอาจจะเป็นเพียงการสร้างภาพ แต่คนคนนั้นก็ยังอ้วนอยู่เหมือนเดิม

ต้องการให้คนที่มาอบรมได้ตระหนัก เห็นภาพแล้วก็อย่าเพิ่งเชื่อ ต้องวิเคราะห์ก่อนว่าภาพนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ดังนั้น ถ้ายังไม่แน่ใจว่าภาพถูกตกแต่งหรือเปล่า ติดต่อได้ที่รายการชัวร์ก่อนแชร์ มีผู้เชี่ยวชาญช่วยในการตัดสินใจได้จริง”



จับโป๊ะเรื่องลี้ลับด้วย “วัคซีนความเชื่อ”

คุณกฤษกร แซ่เหล้า (เบิ้ม ลูกโป่ง) นักมายากล อธิบายว่า “กลเม็ดที่มิจฉาชีพใช้หลอกลวงผู้คนมีมากมาย แต่นับวันยิ่งแนบเนียน เมื่อเราเรียนรู้และเข้าใจ ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อ

พวกเรานักมายากลจะไม่ก้าวล่วงหรือไม่ดูถูกความเชื่อใคร แต่เราจะนำเสนออีกมุม คือ วัคซีนความเชื่อ เป็นเรื่องราววัคซีนป้องกันเหมือนกับการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ เป็นการป้องกันการโดนหลอกจนตกเป็นเหยื่อนั่นเอง รวมถึงวัคซีนมิจฉาชีพด้วย”

ซึ่งวัคซีนความเชื่อเป็นหลักสูตรที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม “นักสืบสายชัวร์ X ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST” จะได้ฝึกการตั้งข้อสังเกต ตั้งคำถามต่อข้อมูลและภาพที่เห็นตรงหน้าว่าเป็นเรื่องจริง หรือไม่ พร้อมตรวจสอบข้อมูลก่อนส่งต่อ ถือเป็นการสร้างการรู้เท่าทันข้อเท็จจริงให้กับประชาชนตามแนวคิด TRICK or TRUST




TRICK or TRUST เสริมทักษะรู้เท่าทันภัยไซเบอร์

เนื้อหาสาระที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ล้วนนำไปต่อยอดประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันพร้อมแบ่งปันสู่คนในครอบครัวได้

ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า “เทคนิคการหลอกลวงเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละพื้นที่ ดังนั้นจำเป็นต้องส่งเสริมองค์ความรู้นี้อย่างรวดเร็ว”

ด้าน ผศ.ดรวรัชญ์ ครุจิต คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า “เรื่องของมายากลนั้น สิ่งที่มองเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น เพราะว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เห็นครั้งแรกเราอย่าเพิ่งเชื่อ ครั้งต่อไปมันจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง อาจจะไม่ใช่ของจริงก็ได้ ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่จะได้ก็คือการปลุกจิตสำนึกว่าสิ่งที่เห็นครั้งแรกอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง เราต้องมีสติหนักแน่นเอาไว้ ใช้ความระมัดระวังที่จะไม่ตกหลุมพราง”


รู้เท่าทันกลลวงแห่งปัญญาประดิษฐ์ A.I.

การใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ A.I. สร้างภาพเสมือน เป็นเทคนิคที่เหล่ามิจฉาชีพใช้หลอกลวงผู้คนที่ตกเป็นเหยื่อในปัจจุบัน

นักสร้างภาพยนตร์แอนิเมชัน match move artist คุณชิษณุพงษ์ กนกเนตรสกล ให้ความเห็นว่า “เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถรังสรรค์ทุกสิ่งให้เกิดขึ้นจริงได้เพียงปลายนิ้ว เราจึงต้องเรียนรู้ให้เท่าทันกลลวงทั้งด้านภาพและเสียงว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่ปาฏิหาริย์”

ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่นำมาใช้ให้เราหลงเชื่อได้ บางทีอาจจะปลอมแปลงใบหน้าคน ใส่อย่างอื่นเข้าไปทำให้เราหลงเชื่อ ก็จะเป็นกลลวงของคนที่จะนำไปใช้และถ้าเป็นคนที่มีเจตนาร้ายก็อาจจะมาหลอกลวงเรา เพราะถ้าใช้ด้วยเจตนาดีก็เป็นสื่อบันเทิงทั่วไป ตรงนี้อยากจะแชร์ให้กับทุก ๆ คนที่มาร่วมงาน TRICK or TRUST

การกล่าวอ้างโดยใช้ข้อคิดเห็นมากกว่าข้อเท็จจริงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาการทะเลาะวิวาท ระรานกันบนโลกออนไลน์

ดังนั้น การเรียนรู้จากกรณีศึกษา รับข้อมูลข้อเท็จจริง ข่าวลวงต่าง ๆ จึงมีความจำเป็นต่อหลักสูตรการเรียน ทั้งในและนอกสถาบันการศึกษาทุกระดับ

ในมุมมองของ ผศ.ดร.เจษฎา ศาลาทอง คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเด็นการรับรู้ข้อมูลข่าวสารนั้น “เวลาที่เราได้รับข้อมูลมา ก่อนที่จะเชื่อแล้วแชร์ต่อไป เราต้อง “เอ๊ะ” ก่อน ว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ โดยควรคำนึงถึงเหตุผลดังนี้

1. คนที่ทำหวังผลประโยชน์อะไร เพราะการสร้างสื่อขึ้นมามีผลประโยชน์หรือหวังผลอะไรบางอย่างอยู่แล้ว
2. เราต้องเข้าใจว่าสื่อถูกประกอบสร้าง และสิ่งที่เราเห็นมันไม่จำเป็นจะต้องเป็นอย่างนั้นเสมอไปก็ได้

การประกอบสร้างสามารถทำได้หลายอย่าง อาจจะเป็นมุมกล้อง เป็นการปกปิดบางอย่าง หรือแม้กระทั่งการใช้กราฟิกและเทคโนโลยีทำให้ดูเหมือนจริง ในยุคที่เรียกว่า Hyperreality ที่ดูเสมือนจริงมาก

ปัจจุบันไม่ได้มีเพียงคนที่เป็นสื่อมืออาชีพหรือองค์กรเท่านั้นที่สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาได้ เราอยู่ในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นสื่อได้”


รู้เท่าทันข่าวลวง-ข้อมูลเท็จ เป็นเรื่องของ “ทุก Gen”

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม “นักสืบสายชัวร์ X ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST” ครั้งนี้ มีหลายช่วงวัย ตั้งแต่ 7 – 74 ปี มีทั้งนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และประชาชนทั่วไป จากพื้นที่กรุงเทพฯปริมณฑล และเมืองพัทยา สะท้อนให้เห็นว่าการรู้เท่าทันข่าวลวงและข้อมูลเท็จ เป็นเรื่องของคนทุก Generations

ถึงแม้มีความแตกต่างกัน แต่กิจกรรม TRICK or TRUST ก็ทำลายกำแพงแห่งวัย ซึ่งนอกจากความสนุกสนานที่ได้ สาระความรู้ที่สอดแทรกอยู่ในทุกกิจกรรม ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ จากการตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้านก่อนจะแชร์ต่อ



จุดประกายรับข้อมูลข่าวสาร ตรวจสอบรอบด้าน สร้างสังคมรู้เท่าทัน

ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้ฝึกการตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามต่อข้อมูลและภาพที่เห็น ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ ตรวจสอบข้อมูลก่อนส่งต่อ โดยมีเสียงสะท้อนว่าควรบรรจุเนื้อหาสาระความรู้ที่เหมาะสมในหลักสูตรการเรียนการสอนให้เยาวชน ประชาชนจะได้เรียนรู้ทักษะการรู้เท่าทันสื่อ

ปิดท้ายด้วยมุมมองของ คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท กล่าวว่า “นี่คือการริเริ่มของศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

เราพยายามทำให้คนรู้เท่าทันสื่อ เพราะสิ่งนี้คือภูมิคุ้มกันที่จะป้องกันทุก ๆ คนให้พ้นจากเรื่องที่อันตรายมาก ๆ คือเรื่องของภัยจากข้อมูลข่าวสารในยุคนี้

จริง ๆ แล้วทุกคนต้องมีภูมิคุ้มกัน และการที่ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันได้ก็คือการเรียนรู้ เราจึงเปิดตัวมุมมองของหลักสูตรการเรียนรู้อีกแบบหนึ่ง จากเดิมที่บอกว่าระวังข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ เราจะต้องตรวจสอบก่อนจะแชร์ต่อ ตอนนี้เรามองว่าเขาหลอกกันอย่างไร อะไรทำให้หลอก อะไรทำให้คนตกเป็นเหยื่อและเครื่องมือ”


ทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็คืออีกหนึ่งหลักสูตรดี ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมที่รู้เท่าทัน


บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนักสืบสายชัวร์ x ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST ภายใต้การสนับสนุนโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย