กรุงเทพฯ 15 ก.ย.-พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกรณีไฟฟ้าดับในเกมไทยลีก ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี กับ โปลิส เทโร เอฟซี มาสอบปากคำแล้ว คาดต้นเหตุเกิดจากเบรกเกอร์ชำรุด ขณะที่คณะกรรมการพิจารณาวินัยฯ เตรียมประชุมพิจารณาโทษพรุ่งนี้
กรณีกระแสไฟฟ้าดับในศึกไทยลีก ระหว่างเกมการแข่งขันของ “การท่าเรือ เอฟซี” กับ “โปลิศ เทโร เอฟซี” เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และตัวแทน “การท่าเรือ เอฟซี” ได้ส่งเจ้าหน้าที่แจ้งความกับ สน.ท่าเรือ เพื่อหาตัวบุคคลที่ทำให้ไฟฟ้าดับมาดำเนินคดี
ล่าสุดพันตำรวจโทยรรยง สุวรรณสอาด รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.ท่าเรือ เปิดเผยว่าพนักงานสอบสวนได้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่สนาม มาสอบสวนแล้ว และพบว่าการไฟฟ้านครหลวง เขตคลองเตย จ่ายไฟให้ “การท่าเรือฯ” จากนั้นมีการจ่ายไฟต่อไปยังสนามฟุตบอลและบ้านพัก ปรากฏว่าระหว่างการแข่งขัน การจ่ายไฟทุกจุดเป็นไปตามปกติ แต่มีเบรกเกอร์ หรือ อุปกรณ์ตัดวงจรไฟฟ้าแบบอัตโนมัติขัดข้อง จึงติดต่อไปยังบริษัทเอกชนเจ้าของเบรกเกอร์ให้ส่งวิศวกรมาตรวจสอบ เบื้องต้นมั่นใจว่าเป็นปัญหาที่ตัวเบรกเกอร์ เพราะไฟฟ้าตามบ้านพักที่รับไฟมาจากจุดเดียวกันไม่ดับ แต่ดับเฉพาะที่บริเวณสนาม
ด้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานบริษัท ไทยลีก จำกัด เปิดเผยว่าคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาทจะทำการประชุมร่วมกับตัวแทนสโมสร รวมถึงการไฟฟ้า เพื่อหาข้อมูลว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร ในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) เวลา 13.00 น. ส่วนการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ว่าจะมีบทลงโทษถึงขึ้นปรับแพ้เลยหรือไม่นั้น ยืนยันว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ พิจารณาว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่และอย่างไร แต่หากบทลงโทษไม่เป็นธรรม “การท่าเรือ เอฟซี” สามารถโต้แย้งหรืออุทธรณ์ได้ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นตามระเบียบข้อบังคับ หากเป็นความผิดของเจ้าบ้านในกรณีที่ไฟดับนานเกิน 60 นาที จะถูกปรับแพ้ และเสียค่าปรับ
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่การแข่งขันดำเนินมาถึงนาทีที่ 87 แต่ปรากฏว่าไฟส่องสว่างของสนาม “แพท สเตเดี้ยม” เกิดขัดข้อง และไม่สามารถดำเนินการกลับมาแข่งขันต่อได้ตามระเบียบข้อบังคับ.-สำนักข่าวไทย