ขนไก่ไทยระเบิดฟอร์มเก่งเข้าลุ้น 4 แชมป์ศึกปรินเซสฯ”คุณหญิงปัทมา” ชื่นมื่นชวนแฟนๆ มาร่วมเชียร์

3 ก.พ.67 กรุงเทพฯ-การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ระดับนานาชาติในศึก “ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024” (Princess Sirivannavari Thailand Masters 2024) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 7,240,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร รอบรองชนะเลิศ


ประเภทหญิงเดี่ยว “เม” ศุภนิดา เกตุทอง มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 17 ของโลก โชว์ฟอร์มเก่งไล่ตบทำคะแนนเอาชนะ อาชมีตาร์ ชาลีฮา มืออันดับ 61 ของโลกจากอินเดีย 2-0 เกม 21-13,21-12 “เม” ศุภนิดา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ อายะ โอโฮริ มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากญี่ปุ่น ที่เอาชนะ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือวาง 5 ของรายการ มืออันดับ 19 ของโลก มาได้ 2-0 เกม 21-16,21-12

ประเภทหญิงคู่ “อันนา”นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด เจ้าของแชมป์เก่า คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลก ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยกันบุกทำคะแนนเอาชนะ ฟาเบียน่า ดาวรพูจี กุสุมา กับ อมาเลีย คาฮาย่า พราตีวี่ คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปได้แบบสนุก 2-0 เกม 21-13, 23-21 “อันนา”นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ หลัว ซูมิง กับ ลี ยี่จิง คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากจีน ที่เอาชนะ ลี ยูริม กับ ชิน เซืองชาน คู่มืออันดับ 26 ของโลกจากเกาหลีใต้ มาได้ 2-0 เกม21-15,21-18


ประเภทชายคู่ “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล คู่มืออันดับ 76 ของโลก เปิดเกมบุกไล่ตบเอาชนะคู่รุ่นพี่ “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย”กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 33 ของโลก ไปได้ 2-0 เกม 24-22,21-13

“พี” พีรัชชัย กับ “โอโม่” พรรคพล ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์ระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์แรกของทั้งคู่ โดยจะพบกับ เหอ จีจิง กับ เหริน เซียงหยู คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากจีน ที่เอาชนะ มูฮัมมัด โชฮีบุล ฟรีคี่ กับ บาร์กัส มัวลาน่า คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากอินโดนีเซีย มาได้ 2-0 เกม 21-15,21-6

ประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลก ยังคงทำผลงานได้อย่างร้อนแรงไล่ต้้อนทำคะแนนเอาชนะ เรฮาล นาฟาล คูชาจานโต กับ ลิซ่า อายู กูสุมาวาตี คู่มืออันดับ 17 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปได้ 2-0 เกม 21-17,21-14 “บาส” เดชาพล กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เฉิน ตังเจี๋ย กับ เตียว อีเหว่ย คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย ที่เอาชนะ ฮิโรกิ มิโดริกาวะ กับ นัตสึ ไซตะ คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น ไปแบบสนุก 2-0 เกม 21-11, 21-17


ประเภทชายเดี่ยว โจว เทียนเฉิน มือวาง 5 ของรายการ มืออันดับ 14 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ มาร์ก คัลโจว มืออันดับ 51 ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ 2-0 เกม 21-15,21-12, โลว เคียงยิว มือวาง 2 ของรายการ มืออันดับ 12 ของโลกจากสิงคโปร์ ชนะ ซู ลี่หยาง มืออันดับ 90 ของโลกจากไต้หวัน 21-14 , 21-14

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผลงานของทีมนักกีฬาแบดมินตันไทย รวมถึงทีมโค้ชที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีนักกีฬาแบดมินตันไทยผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์ได้มากถึง 4 ประเภท จากหญิงเดี่ยว “เม” ศุภนิดา เกตุทอง ,หญิงคู่ “อันนา”นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด , ชายคู่ “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล, คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย แน่นอนที่สุดว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักกีฬาทำผลงานได้อย่างสุดยอดก็คือแฟนๆ แบดมินตันชาวไทยที่เดินทางมาร่วมกันส่งเสียงเชียร์ทีมนักกีฬาแบดมินตันไทยกันเป็นจำนวนมากที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ทุกๆ คนร่วมกันส่งเสียงเชียร์ปลุกเร้านักกีฬาจนประสบความสำเร็จได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ”

คุณหญิงปัทมา กล่าวต่ออีกว่า “เม ศุภนิดา” สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้จะทำให้คะแนนสะสมเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์จะแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในประเภทหญิงเดี่ยวของไทย ซึ่งคงต้องขับเคี่ยวกันอีก 5 รายการที่เหลือในยุโรป ระหว่างเมย์ศุภนิดา , หมิว พรปวีณ์ และ “ครีม” บุศนันทน์”

“ส่วน ประเภทหญิงคู่ สองพี่น้อง “อันนา” นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด สามารถผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง เป็นการสร้างความมั่นใจให้ทั้งคู่หลังจากต้องหยุดพัก จากการแข่งขันในช่วงต้นปีเพราะปัญหาการบาดเจ็บที่เข่าซ้ายของมูนา เบญญาภา แต่หลังจากจบจากรายการนี้เชื่อว่าทั้งสองคนจะมั่นใจและกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งในรายการยุโรปที่จะถึงในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม”

“ขณะที่ประเภท คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นับเป็นการโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ปีนี้เปิดศักราชของปีด้วยการคว้าแชมป์ที่ อินเดีย โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 750 มาแล้ว เชื่อมั่นว่าการที่บาส- ปอป้อกลับมาฟอร์มดีในปีนี้จะเรียกความมั่นใจ ในการเดินทางเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส และชายคู่ดาวรุ่งของไทย “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน สามารถพลิกชนะ นักแบดมินตันระดับโลกได้ตั้งแต่รอบแรกจนพาตัวเองเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศนับเป็นการเข้าชิงเลิศรายการระดับเวิลด์ทัวร์เป็นครั้งแรกของทั้งสองคน เชื่อเหลือเกินว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะสร้างความมั่นใจและเป็นประสบการณ์ให้น้องทั้งสองคนพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นกำลังสำคัญของประเภทชายคู่ของประเทศไทยอย่างแน่นอน”

“ขอขอบคุณแฟนๆ แบดมินตันที่เดินทางมาร่วมชมเชียร์ในสนามกันอย่างคึกคักทำให้สนามเต็มแน่นเป็นประวัติศาสตร์ และอยากขอเชิญชวนแฟนๆ กีฬาชาวไทยให้เดินทางมาร่วมกันส่งเสียงเชียร์ไปพร้อมๆกัน ส่วนใครที่ยังไม่มีบัตรเข้าชมสามารถมาซื้อได้ที่หน้าสนามแข่งขัน เชื่อมั่นว่าหากมีกำลังใจที่ดีมีเสียงเชียร์ที่กึกก้องจากแฟนๆ ชาวไทยจะเป็นพลังกระตุ้นอันยิ่งใหญ่ให้กับนักกีฬาแบดมินตันไทยทำผลงานทำลายประวัติศาสตร์ที่นักกีฬาแบดมินตันไทยเคยสร้างเอาไว้ในปี 2018 ที่กวาดแชมป์มาครองได้มากถึง 3 ประเภท ซึ่งตอนนี้มีกระแสตอบรับจากแฟนๆ และเป็นที่ต้องการเป็นเจ้าของบัตรในรอบชิงชนะเลิศอย่างมาก” คุณหญิงปัทมา กล่าวทิ้งท้าย-614

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]