ขนไก่ไทยระเบิดฟอร์มเก่งเข้าลุ้น 4 แชมป์ศึกปรินเซสฯ”คุณหญิงปัทมา” ชื่นมื่นชวนแฟนๆ มาร่วมเชียร์

3 ก.พ.67 กรุงเทพฯ-การแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ระดับนานาชาติในศึก “ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024” (Princess Sirivannavari Thailand Masters 2024) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 7,240,000 บาท ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร รอบรองชนะเลิศ


ประเภทหญิงเดี่ยว “เม” ศุภนิดา เกตุทอง มือวาง 4 ของรายการ มืออันดับ 17 ของโลก โชว์ฟอร์มเก่งไล่ตบทำคะแนนเอาชนะ อาชมีตาร์ ชาลีฮา มืออันดับ 61 ของโลกจากอินเดีย 2-0 เกม 21-13,21-12 “เม” ศุภนิดา ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ อายะ โอโฮริ มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากญี่ปุ่น ที่เอาชนะ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มือวาง 5 ของรายการ มืออันดับ 19 ของโลก มาได้ 2-0 เกม 21-16,21-12

ประเภทหญิงคู่ “อันนา”นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด เจ้าของแชมป์เก่า คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 13 ของโลก ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยกันบุกทำคะแนนเอาชนะ ฟาเบียน่า ดาวรพูจี กุสุมา กับ อมาเลีย คาฮาย่า พราตีวี่ คู่มือวาง 4 ของรายการ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปได้แบบสนุก 2-0 เกม 21-13, 23-21 “อันนา”นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ หลัว ซูมิง กับ ลี ยี่จิง คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากจีน ที่เอาชนะ ลี ยูริม กับ ชิน เซืองชาน คู่มืออันดับ 26 ของโลกจากเกาหลีใต้ มาได้ 2-0 เกม21-15,21-18


ประเภทชายคู่ “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล คู่มืออันดับ 76 ของโลก เปิดเกมบุกไล่ตบเอาชนะคู่รุ่นพี่ “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย”กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 33 ของโลก ไปได้ 2-0 เกม 24-22,21-13

“พี” พีรัชชัย กับ “โอโม่” พรรคพล ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปลุ้นแชมป์ระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์แรกของทั้งคู่ โดยจะพบกับ เหอ จีจิง กับ เหริน เซียงหยู คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากจีน ที่เอาชนะ มูฮัมมัด โชฮีบุล ฟรีคี่ กับ บาร์กัส มัวลาน่า คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากอินโดนีเซีย มาได้ 2-0 เกม 21-15,21-6

ประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 6 ของโลก ยังคงทำผลงานได้อย่างร้อนแรงไล่ต้้อนทำคะแนนเอาชนะ เรฮาล นาฟาล คูชาจานโต กับ ลิซ่า อายู กูสุมาวาตี คู่มืออันดับ 17 ของโลกจากอินโดนีเซีย ไปได้ 2-0 เกม 21-17,21-14 “บาส” เดชาพล กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เฉิน ตังเจี๋ย กับ เตียว อีเหว่ย คู่มือวาง 2 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย ที่เอาชนะ ฮิโรกิ มิโดริกาวะ กับ นัตสึ ไซตะ คู่มือวาง 3 ของรายการ คู่มืออันดับ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น ไปแบบสนุก 2-0 เกม 21-11, 21-17


ประเภทชายเดี่ยว โจว เทียนเฉิน มือวาง 5 ของรายการ มืออันดับ 14 ของโลกจากไต้หวัน ชนะ มาร์ก คัลโจว มืออันดับ 51 ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ 2-0 เกม 21-15,21-12, โลว เคียงยิว มือวาง 2 ของรายการ มืออันดับ 12 ของโลกจากสิงคโปร์ ชนะ ซู ลี่หยาง มืออันดับ 90 ของโลกจากไต้หวัน 21-14 , 21-14

คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผลงานของทีมนักกีฬาแบดมินตันไทย รวมถึงทีมโค้ชที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีนักกีฬาแบดมินตันไทยผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์ได้มากถึง 4 ประเภท จากหญิงเดี่ยว “เม” ศุภนิดา เกตุทอง ,หญิงคู่ “อันนา”นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด , ชายคู่ “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล, คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย แน่นอนที่สุดว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักกีฬาทำผลงานได้อย่างสุดยอดก็คือแฟนๆ แบดมินตันชาวไทยที่เดินทางมาร่วมกันส่งเสียงเชียร์ทีมนักกีฬาแบดมินตันไทยกันเป็นจำนวนมากที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ทุกๆ คนร่วมกันส่งเสียงเชียร์ปลุกเร้านักกีฬาจนประสบความสำเร็จได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ”

คุณหญิงปัทมา กล่าวต่ออีกว่า “เม ศุภนิดา” สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้จะทำให้คะแนนสะสมเพื่อไปโอลิมปิกเกมส์จะแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในประเภทหญิงเดี่ยวของไทย ซึ่งคงต้องขับเคี่ยวกันอีก 5 รายการที่เหลือในยุโรป ระหว่างเมย์ศุภนิดา , หมิว พรปวีณ์ และ “ครีม” บุศนันทน์”

“ส่วน ประเภทหญิงคู่ สองพี่น้อง “อันนา” นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด สามารถผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง เป็นการสร้างความมั่นใจให้ทั้งคู่หลังจากต้องหยุดพัก จากการแข่งขันในช่วงต้นปีเพราะปัญหาการบาดเจ็บที่เข่าซ้ายของมูนา เบญญาภา แต่หลังจากจบจากรายการนี้เชื่อว่าทั้งสองคนจะมั่นใจและกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งในรายการยุโรปที่จะถึงในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม”

“ขณะที่ประเภท คู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นับเป็นการโชว์ฟอร์มได้ดีอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ปีนี้เปิดศักราชของปีด้วยการคว้าแชมป์ที่ อินเดีย โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 750 มาแล้ว เชื่อมั่นว่าการที่บาส- ปอป้อกลับมาฟอร์มดีในปีนี้จะเรียกความมั่นใจ ในการเดินทางเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปารีส และชายคู่ดาวรุ่งของไทย “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน สามารถพลิกชนะ นักแบดมินตันระดับโลกได้ตั้งแต่รอบแรกจนพาตัวเองเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศนับเป็นการเข้าชิงเลิศรายการระดับเวิลด์ทัวร์เป็นครั้งแรกของทั้งสองคน เชื่อเหลือเกินว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะสร้างความมั่นใจและเป็นประสบการณ์ให้น้องทั้งสองคนพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นกำลังสำคัญของประเภทชายคู่ของประเทศไทยอย่างแน่นอน”

“ขอขอบคุณแฟนๆ แบดมินตันที่เดินทางมาร่วมชมเชียร์ในสนามกันอย่างคึกคักทำให้สนามเต็มแน่นเป็นประวัติศาสตร์ และอยากขอเชิญชวนแฟนๆ กีฬาชาวไทยให้เดินทางมาร่วมกันส่งเสียงเชียร์ไปพร้อมๆกัน ส่วนใครที่ยังไม่มีบัตรเข้าชมสามารถมาซื้อได้ที่หน้าสนามแข่งขัน เชื่อมั่นว่าหากมีกำลังใจที่ดีมีเสียงเชียร์ที่กึกก้องจากแฟนๆ ชาวไทยจะเป็นพลังกระตุ้นอันยิ่งใหญ่ให้กับนักกีฬาแบดมินตันไทยทำผลงานทำลายประวัติศาสตร์ที่นักกีฬาแบดมินตันไทยเคยสร้างเอาไว้ในปี 2018 ที่กวาดแชมป์มาครองได้มากถึง 3 ประเภท ซึ่งตอนนี้มีกระแสตอบรับจากแฟนๆ และเป็นที่ต้องการเป็นเจ้าของบัตรในรอบชิงชนะเลิศอย่างมาก” คุณหญิงปัทมา กล่าวทิ้งท้าย-614

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ

ทำเนียบ 1 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกประชุม ครม. วาระพิเศษ เร่งพิจารณารับรองร่างถ้อยแถลงภาษีสหรัฐ 19% ให้มีผลอย่างเป็นทางการ พร้อมหารือหลักเกณฑ์งบฯ ฉุกเฉินเยียวยาเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่รัฐ-ประชาชน เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ส.ค.) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เชิญประชุม ครม. นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องของอัตราภาษีตอบโต้จากสหรัฐอเมริกา โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ที่ ห้อง 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และการประชุมทางสื่ออิเลคทรอนิกส์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เมื่อเช้านี้ประเทศไทยได้รับแจ้งจาก สหรัฐฯว่า สินค้าจากไทยที่ส่งไปจำหน่ายในสหรัฐฯจะถูกเรียกเก็บภาษี 19% ซึ่งเท่ากับหลายๆประเทศในภูมิภาค ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะพอทำให้เรายังคงแข่งขันได้ โดยในกระบวนการเจรจานี้ มีขั้นตอนสำคัญคือรัฐบาลไทยต้อง ออกถ้อยแถลงร่วมไทย-สหรัฐฯ ซึ่งคณะทำงาน โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง […]

คณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อ ถึงอุบลฯ ลุยพิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดน

ทำเนียบ 1 ส.ค.- โฆษกรัฐบาล เผยคณะทูต-ผู้ช่วยทูตทหาร-สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เดินทางถึงอุบลราชธานี เตรียมลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อเวลา 09.25 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า คณะผู้แทนทางการทูต ผู้ช่วยทูตทหารจาก 23 ประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศรวมกว่า 100 คน ได้เดินทางถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมลงพื้นที่แนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา การเดินทางในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและ ความโปร่งใสของรัฐบาลไทย ที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้คณะทูตต่างประเทศและสื่อมวลชนได้เห็น ข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานต่อประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม โดยไม่ปิดบังหรือบิดเบือน คณะทูตต่างประเทศที่ลงพื้นที่ในวันนี้ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูต 3 ประเทศ ได้แก่ บรูไน ญี่ปุ่น และเมียนมา อุปทูต 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สปป.ลาว และอินโดนีเซีย ผู้แทนทางการทูตระดับต่าง ๆ จาก 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ […]

สหรัฐประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19%

1 ส.ค. – ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% และมาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทนไทย 19% กัมพูชา 19% มาเลเซีย 19% มีผลวันนี้ (1 ส.ค. 68) ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทีมไทยแลนด์ ได้ทำงานอย่างเต็มที่และรอบคอบในทุกมิติ มุ่งมั่นเสนอเงื่อนไขและข้อแลกเปลี่ยนของไทยสามารถยอมรับได้ โดยพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้มากที่สุด โดยทุกประเด็นการเจรจาล้วนผ่านกระบวนการวิเคราะห์อย่างลึกซึ้ง และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของชาติ หากผลการเจรจาออกมาดีเกินคาด เราทุกคนคงจะดีใจไปด้วยกันแต่หากผลออกมาน้อยกว่าที่หวังไว้ ตนหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจว่ารัฐบาลและทีมเจรจาได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และหวังว่าเราจะก้าวผ่านความท้าทายนี้ด้วยความร่วมมือและพลังใจของพวกเราทุกคน.-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เผยไทยฝนน้อย-เหนือตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสานตอนบน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 […]