กทม.ซ้อมเสมือนจริงแผนบูรณาการสาธารณภัยระดับ 2

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.- กทม.ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย ฝึกซ้อมแผนบูรณาการสาธารณภัย ระดับ 2 จำลองสถานการณ์ซับซ้อนเสมือนจริง เกิดโรงงานสารเคมีระเบิด มีสารเคมีรั่วไหล ไฟไหม้ อาคารถล่ม มีผู้ประสบภัยติดค้างใต้ซากอาคาร แถมระหว่างระงับเหตุรถอพยพคนงานพลิกคว่ำลื่นไถลตกน้ำ


ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกซ้อมแผนบูรณาการสาธารณภัย ระดับ 2 ประจำปี 2565 โดยมีนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีและร่วมฝึกซ้อมแผนฯ ณ ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม เขตหนองแขม

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำลองสถานการณ์ว่า ในพื้นที่ถนนพุทธมณฑล สาย 3 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม มีเหตุสารเคมีระเบิดเพลิงลุกไหม้อาคารโรงงานผลิตชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์รถยนต์ ซึ่งเป็นอาคารโรงงานขนาดใหญ่ 4 หลัง พื้นที่ 10 ไร่ มีคนงานทั้งหมด 500 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสารเคมีรั่วไหล ไฟไหม้ อาคารถล่ม รวมถึงมีผู้ประสบภัยติดค้างอยู่บนอาคาร 4 ชั้น และใต้ซากอาคารที่ถล่ม โดยในระหว่างระงับเหตุที่อาคารโรงงาน ปรากฏว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์อพยพคนงานพลิกคว่ำ คนงานติดค้างอยู่ในรถยนต์ที่พลิกคว่ำและลื่นไถลตกน้ำ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ แต่หลังจากชุดปฏิบัติการทุกชุดรายงานสถานการณ์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขมพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นภัยที่มีความรุนแรง ไม่สามารถควบคุมได้ ต้องขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก จึงแจ้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรับทราบและทำการประกาศยกระดับ


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งการอนุมัติยกระดับเป็นสาธารณภัย ระดับ 2 บัญชาการเหตุการณ์โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร อาทิ สำนักงานเขตหนองแขม สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักเทศกิจ สำนักผังเมือง สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล สำนักการคลัง (กองโรงงานช่างกล) สำนักสิ่งแวดล้อม (กองกำจัดมูลฝอย) สำนักอนามัย และสำนักการแพทย์ (ศูนย์เอราวัณ) รวมถึงหน่วยงานภายนอก อาทิ ทหาร ตำรวจ การประปา การไฟฟ้า อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครมูลนิธิ และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน เข้าร่วมฝึกซ้อมแผนดังกล่าวแบบเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ การฝึกซ้อมเป็นการจำลองสถานการณ์สาธารณภัย ระดับ 2 เต็มรูปแบบ Full Scale Exercise เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานภายนอก ทั้งหมด 10 ชุดปฏิบัติการ ประกอบด้วย 1. ชุดปฏิบัติการเผชิญเหตุชุดแรก First Response 2. ชุดปฏิบัติการควบคุมและบัญชาการเหตุ Command and Control Team 3. ชุดปฏิบัติการดับเพลิง Fire Team 4. ชุดปฏิบัติการกู้ภัยที่สูงและที่อับอากาศ Rope Rescue and Confined Space Rescue Team 5. ชุดปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง USAR : Urban Search and Rescue Team 6. ชุดปฏิบัติการกู้ภัยทางน้ำ Water Rescue Team 7. ชุดปฏิบัติการตอบโต้สารเคมีและวัตถุอันตราย HAZMAT : Hazardous Materials Team 8. ชุดปฏิบัติการกู้ภัยอุบัติเหตุจากยานพาหนะและเครื่องจักร Vehicle and Machinery Rescue Team 9. ชุดปฏิบัติการสื่อสารอากาศยานไร้คนขับ Communication and Drone Team 10. ชุดปฏิบัติการทางการแพทย์ Medical Team เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ สามารถบริหารจัดการสาธารณภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรู้ทักษะในการบริหารจัดการภัยด้วยรูปแบบและวิธีการต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องตามหลักการและเป็นมาตรฐานสากล รวมถึงเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกซ้อมสามารถปฏิบัติงานหลักและให้การสนับสนุน รวมทั้งสนธิกำลังเข้าร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า งานด้านสาธารณภัยต้องมีการซ้อม มีการใช้เครื่องมือ ต้องมีการใช้ทีมหลาย ๆ ทีมเข้ามาร่วมกัน ต้องมีการสร้างสถานการณ์เสมือนจริง เพื่อกระตุ้นให้ผู้ซ้อมฝึกการตัดสินใจจากสถานการณ์ โดยการซ้อมในวันนี้มีหลายหน่วยงานที่ร่วมกันฝึกซ้อม มีสถานการณ์ที่กำหนดขึ้นหลากหลายรูปแบบ ทั้งสถานการณ์เพลิงไหม้ เพื่อให้เราได้ทดสอบชุดผจญเพลิง ในบางสถานการณ์นอกเหนือจากเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้ว ยังมีสถานการณ์เรื่องสารเคมีรั่วไหลด้วย หรืออาจมีสถานการณ์ซับซ้อน มีอุบัติเหตุขนาดใหญ่เกิดขึ้นอีกในระหว่างนั้น เช่น เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ เกิดเหตุอาคารที่เพลิงไหม้ถล่มลงมา เพื่อเป็นการประเมินกำลังเจ้าหน้าที่ ศักยภาพความสามารถ เครื่องมืออุปกรณ์ ระบบการทำงาน รวมถึงการทำงานเป็นทีมจากหลายหน่วยงานที่มาทำงานร่วมกันในแต่ละหน้าที่ การเข้าพื้นที่เกิดเหตุ การสนธิกำลังกัน


“สาธารณภัยเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิด หากเกิดขึ้นแล้ว เราต้องพร้อมเข้าระงับเหตุการณ์ ถามว่าอยากให้การฝึกซ้อมวันนี้ราบรื่นไหม ต้องตอบว่าที่จริงอยากให้การฝึกซ้อมราบรื่น แต่ถ้าการฝึกซ้อมไม่ราบรื่นจะดีมาก เพราะจะทำให้เราเห็นว่า ขนาดการฝึกซ้อมยังมีความวุ่นวาย ยังมีปัญหาอุปสรรค ซึ่งสถานการณ์จริงเราไม่รู้ว่าจะมีความยุ่งยากมากกว่านี้อีกกี่เท่า ตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่เราจะนำปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมมาปรับปรุงแก้ไขกัน เพื่อให้การปฏิบัติงานจริงเกิดประสิทธิภาพ” รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าว

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า การฝึกซ้อมในวันนี้จะได้เห็นถึงความพร้อม ความเชี่ยวชาญ และทักษะของแต่ละหน่วยงานในสิ่งที่ตนเองต้องทำ แต่ความพร้อมการเข้าสู่สถานการณ์จะมีความยากที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งพื้นที่การเข้า-ออก ระยะเวลา และประชาชน การซ้อมวันนี้จะไม่มีในส่วนประชาชน ซึ่งในเหตุการณ์จริงจะต้องให้ประชาชนปลอดภัยไว้ก่อน การเข้าถึงพื้นที่จริงอาจจะทำได้ยาก ต้องทำงานแข่งกับระยะเวลาและสถานการณ์ที่เพิ่มขึ้น เพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย ความพร้อมอาจจะลงลดบ้าง ด้วยความซับซ้อนจากสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น แต่เราจะพยายามทำอย่างเต็มที่

การฝึกซ้อมในวันนี้ เราทำให้มีความซับซ้อนเกิดขึ้น เพื่อเวลาเกิดสถานการณ์ขึ้นจริง เราจะได้ใช้เวลาในการคิด การตัดสินใจได้เร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาดให้น้อยลง ที่สำคัญ สำนักงานเขตในพื้นที่จะเป็นหน่วยงานหลัก เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ จะรู้ลึกรู้ในรายละเอียดของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดไม่ให้สาธารณภัยเกิดขึ้นก่อนได้มาก สำนักงานเขตจะสามารถกำกับควบคุมพื้นที่ให้มีความง่ายต่อการเข้าสู่สถานการณ์มากขึ้นในด้านการปฏิบัติงาน การฝึกซ้อมดังกล่าวจะทำให้ทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีความเข้าใจ รู้บทบาทภารกิจหน้าที่ของตน เมื่อเกิดเหตุจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว พร้อมในการช่วยเหลือประชาชนให้รอดชีวิต และเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งทหารทุกเหล่าทัพ ตำรวจ อาสาสมัครมูลนิธิ ภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายต่าง ๆ ที่ร่วมกันฝึกซ้อมแผนบูรณาการสาธารณภัยในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]