กทม.ซ้อมเสมือนจริงแผนบูรณาการสาธารณภัยระดับ 2

กรุงเทพฯ 25 ก.ค.- กทม.ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย ฝึกซ้อมแผนบูรณาการสาธารณภัย ระดับ 2 จำลองสถานการณ์ซับซ้อนเสมือนจริง เกิดโรงงานสารเคมีระเบิด มีสารเคมีรั่วไหล ไฟไหม้ อาคารถล่ม มีผู้ประสบภัยติดค้างใต้ซากอาคาร แถมระหว่างระงับเหตุรถอพยพคนงานพลิกคว่ำลื่นไถลตกน้ำ


ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกซ้อมแผนบูรณาการสาธารณภัย ระดับ 2 ประจำปี 2565 โดยมีนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีและร่วมฝึกซ้อมแผนฯ ณ ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม เขตหนองแขม

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำลองสถานการณ์ว่า ในพื้นที่ถนนพุทธมณฑล สาย 3 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม มีเหตุสารเคมีระเบิดเพลิงลุกไหม้อาคารโรงงานผลิตชิ้นส่วนประกอบอุปกรณ์รถยนต์ ซึ่งเป็นอาคารโรงงานขนาดใหญ่ 4 หลัง พื้นที่ 10 ไร่ มีคนงานทั้งหมด 500 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากสารเคมีรั่วไหล ไฟไหม้ อาคารถล่ม รวมถึงมีผู้ประสบภัยติดค้างอยู่บนอาคาร 4 ชั้น และใต้ซากอาคารที่ถล่ม โดยในระหว่างระงับเหตุที่อาคารโรงงาน ปรากฏว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์อพยพคนงานพลิกคว่ำ คนงานติดค้างอยู่ในรถยนต์ที่พลิกคว่ำและลื่นไถลตกน้ำ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ แต่หลังจากชุดปฏิบัติการทุกชุดรายงานสถานการณ์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขมพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นภัยที่มีความรุนแรง ไม่สามารถควบคุมได้ ต้องขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอก จึงแจ้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครรับทราบและทำการประกาศยกระดับ


ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งการอนุมัติยกระดับเป็นสาธารณภัย ระดับ 2 บัญชาการเหตุการณ์โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร อาทิ สำนักงานเขตหนองแขม สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักเทศกิจ สำนักผังเมือง สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล สำนักการคลัง (กองโรงงานช่างกล) สำนักสิ่งแวดล้อม (กองกำจัดมูลฝอย) สำนักอนามัย และสำนักการแพทย์ (ศูนย์เอราวัณ) รวมถึงหน่วยงานภายนอก อาทิ ทหาร ตำรวจ การประปา การไฟฟ้า อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัครมูลนิธิ และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน เข้าร่วมฝึกซ้อมแผนดังกล่าวแบบเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ การฝึกซ้อมเป็นการจำลองสถานการณ์สาธารณภัย ระดับ 2 เต็มรูปแบบ Full Scale Exercise เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการต่าง ๆ ร่วมกับหน่วยงานภายนอก ทั้งหมด 10 ชุดปฏิบัติการ ประกอบด้วย 1. ชุดปฏิบัติการเผชิญเหตุชุดแรก First Response 2. ชุดปฏิบัติการควบคุมและบัญชาการเหตุ Command and Control Team 3. ชุดปฏิบัติการดับเพลิง Fire Team 4. ชุดปฏิบัติการกู้ภัยที่สูงและที่อับอากาศ Rope Rescue and Confined Space Rescue Team 5. ชุดปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง USAR : Urban Search and Rescue Team 6. ชุดปฏิบัติการกู้ภัยทางน้ำ Water Rescue Team 7. ชุดปฏิบัติการตอบโต้สารเคมีและวัตถุอันตราย HAZMAT : Hazardous Materials Team 8. ชุดปฏิบัติการกู้ภัยอุบัติเหตุจากยานพาหนะและเครื่องจักร Vehicle and Machinery Rescue Team 9. ชุดปฏิบัติการสื่อสารอากาศยานไร้คนขับ Communication and Drone Team 10. ชุดปฏิบัติการทางการแพทย์ Medical Team เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านต่าง ๆ สามารถบริหารจัดการสาธารณภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรู้ทักษะในการบริหารจัดการภัยด้วยรูปแบบและวิธีการต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องตามหลักการและเป็นมาตรฐานสากล รวมถึงเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกซ้อมสามารถปฏิบัติงานหลักและให้การสนับสนุน รวมทั้งสนธิกำลังเข้าร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า งานด้านสาธารณภัยต้องมีการซ้อม มีการใช้เครื่องมือ ต้องมีการใช้ทีมหลาย ๆ ทีมเข้ามาร่วมกัน ต้องมีการสร้างสถานการณ์เสมือนจริง เพื่อกระตุ้นให้ผู้ซ้อมฝึกการตัดสินใจจากสถานการณ์ โดยการซ้อมในวันนี้มีหลายหน่วยงานที่ร่วมกันฝึกซ้อม มีสถานการณ์ที่กำหนดขึ้นหลากหลายรูปแบบ ทั้งสถานการณ์เพลิงไหม้ เพื่อให้เราได้ทดสอบชุดผจญเพลิง ในบางสถานการณ์นอกเหนือจากเกิดเหตุเพลิงไหม้แล้ว ยังมีสถานการณ์เรื่องสารเคมีรั่วไหลด้วย หรืออาจมีสถานการณ์ซับซ้อน มีอุบัติเหตุขนาดใหญ่เกิดขึ้นอีกในระหว่างนั้น เช่น เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ เกิดเหตุอาคารที่เพลิงไหม้ถล่มลงมา เพื่อเป็นการประเมินกำลังเจ้าหน้าที่ ศักยภาพความสามารถ เครื่องมืออุปกรณ์ ระบบการทำงาน รวมถึงการทำงานเป็นทีมจากหลายหน่วยงานที่มาทำงานร่วมกันในแต่ละหน้าที่ การเข้าพื้นที่เกิดเหตุ การสนธิกำลังกัน


“สาธารณภัยเป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิด หากเกิดขึ้นแล้ว เราต้องพร้อมเข้าระงับเหตุการณ์ ถามว่าอยากให้การฝึกซ้อมวันนี้ราบรื่นไหม ต้องตอบว่าที่จริงอยากให้การฝึกซ้อมราบรื่น แต่ถ้าการฝึกซ้อมไม่ราบรื่นจะดีมาก เพราะจะทำให้เราเห็นว่า ขนาดการฝึกซ้อมยังมีความวุ่นวาย ยังมีปัญหาอุปสรรค ซึ่งสถานการณ์จริงเราไม่รู้ว่าจะมีความยุ่งยากมากกว่านี้อีกกี่เท่า ตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่เราจะนำปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมมาปรับปรุงแก้ไขกัน เพื่อให้การปฏิบัติงานจริงเกิดประสิทธิภาพ” รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าว

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า การฝึกซ้อมในวันนี้จะได้เห็นถึงความพร้อม ความเชี่ยวชาญ และทักษะของแต่ละหน่วยงานในสิ่งที่ตนเองต้องทำ แต่ความพร้อมการเข้าสู่สถานการณ์จะมีความยากที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งพื้นที่การเข้า-ออก ระยะเวลา และประชาชน การซ้อมวันนี้จะไม่มีในส่วนประชาชน ซึ่งในเหตุการณ์จริงจะต้องให้ประชาชนปลอดภัยไว้ก่อน การเข้าถึงพื้นที่จริงอาจจะทำได้ยาก ต้องทำงานแข่งกับระยะเวลาและสถานการณ์ที่เพิ่มขึ้น เพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย ความพร้อมอาจจะลงลดบ้าง ด้วยความซับซ้อนจากสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้น แต่เราจะพยายามทำอย่างเต็มที่

การฝึกซ้อมในวันนี้ เราทำให้มีความซับซ้อนเกิดขึ้น เพื่อเวลาเกิดสถานการณ์ขึ้นจริง เราจะได้ใช้เวลาในการคิด การตัดสินใจได้เร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาดให้น้อยลง ที่สำคัญ สำนักงานเขตในพื้นที่จะเป็นหน่วยงานหลัก เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ จะรู้ลึกรู้ในรายละเอียดของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดไม่ให้สาธารณภัยเกิดขึ้นก่อนได้มาก สำนักงานเขตจะสามารถกำกับควบคุมพื้นที่ให้มีความง่ายต่อการเข้าสู่สถานการณ์มากขึ้นในด้านการปฏิบัติงาน การฝึกซ้อมดังกล่าวจะทำให้ทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีความเข้าใจ รู้บทบาทภารกิจหน้าที่ของตน เมื่อเกิดเหตุจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว พร้อมในการช่วยเหลือประชาชนให้รอดชีวิต และเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งทหารทุกเหล่าทัพ ตำรวจ อาสาสมัครมูลนิธิ ภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายต่าง ๆ ที่ร่วมกันฝึกซ้อมแผนบูรณาการสาธารณภัยในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

รองเลขาธิการนายกฯ แจ้งความดำเนินคดี “ฮุนเซน”

กทม. 20 มิ.ย.-“สมคิด” รองเลขาธิการนายกฯ เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดี “ฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้แก้เกี้ยวให้ “แพทองธาร” ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ความยาว 17.6 วินาที ที่หลุดออกมาจากฝั่งเขา จนสร้างความแตกแยก จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ และไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยืนยันไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากทำลายความมั่นคง ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นแหล่งที่มาของต้นโพสต์ หารือกับอัยการสูงสุดและประสานสถานทูตประเทศนั้น เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

นายกฯ​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 20 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรี​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่น​แม้รัฐบาลหวังหลีกเลี่ยงการปะทะ​ แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย ทุกภาคส่วนต้องพร้อม ย้ำผู้บริหารมหาดไทย​ แม้มีการเปลี่ยนแปลง​ แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเข้มแข็งไม่มีการเปลี่ยน บอก สัญญารัฐบาลไม่ทิ้งกระทรวงใด​ ขณะที่ช่วงบ่ายเตรียมบินไป จ.อุบลราชธานี พบแม่ทัพภาคที่ 2 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย​ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี สระแก้ว โดยมี นางสาวธีรรัตน์​ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมการประชุม โดยนายกรัฐมนตรี​ […]