กทม. 2 เม.ย. – กระทรวงมหาดไทย จัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2565
วันนี้ (2 เม.ย.65) เวลา 07.00 น. ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2565 โดยมีนายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้แทนส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศศิธร จันทมฤก นางจิรวรรณ เพ็ญพาส อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ คณะกรรมการสมาคมแม่บ้านมหาดไทย คณะกรรมการสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และพี่น้องประชาชน ร่วมพิธี
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ ถวายราชสักการะ และถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล ความว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ใต้ฝ่าละอองพระบาทได้ทรงอุทิศพระองค์ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพระราชทานความช่วยเหลือ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เด็กและผู้ยากไร้ในชนบท ให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมั่นคง การส่งเสริมการศึกษา และสุขภาพอนามัยแก่เด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา
นอกจากนี้ ใต้ฝ่าละอองพระบาท ยังทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สนับสนุนโครงการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมไทย ด้านนาฏศิลป์ ดนตรีไทย อักษรศาสตร์ รวมถึงพระราชนิพนธ์บทกวี ร้อยแก้ว ร้อยกรอง และพระราชนิพนธ์บทร้องทั้งบทเพลงไทยเดิมและเพลงไทยสากล เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสำคัญในศิลปวัฒนธรรมของชาติ รวมทั้งทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันเป็นการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ในการที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อาทิ มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิสายใจไทย มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล โรงเรียนจิตรลดา และสภากาชาดไทย รวมทั้งทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับ “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรพันธุกรรมพืชของประเทศ “โครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้แก่ประชาชน โดยเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักมาบริโภค และการมีผักที่ดีมีคุณภาพรับประทานตลอดทั้งปีในระดับครัวเรือน สำหรับผักที่เหลือก็แบ่งปันให้เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นการสร้างความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ระหว่างกัน
นอกจากนี้ ในสถานการณ์โรคร้ายโควิด-19 ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นมา ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงตระหนักถึงสถานการณ์โรคร้ายอย่างถ่องแท้ รวมถึงภาระอันหนักหน่วงของบุคลากรทางการแพทย์แถวหน้าจึงได้พระราชทานความช่วยเหลือผ่านมูลนิธิชัยพัฒนาในโครงการกองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด-19 (และโรคระบาดต่าง ๆ) หลายวาระ เช่น ห้องระบบแลกเปลี่ยนความดันลบแบบสมบูรณ์ (True Negative Pressure) จำนวน 31 แห่ง ให้แก่โรงพยาบาล อีกทั้งพระราชทานเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ทรงมีพระราชกระแสให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยหาทางให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนให้ครบโดยเร็ว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และในด้านการศึกษา ทรงสืบสานและพัฒนาต่อยอดในการสนับสนุนการศึกษาของเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสในการศึกษา ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วทุกภูมิภาค เป็นระยะเวลาต่อเนื่องและยาวนาน ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทรงดำรงพระองค์เปรียบประดุจทูตสันถวไมตรีกิตติมศักดิ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับนานาประเทศ โดยเฉพาะประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา และประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นอาทิ” . – สำนักข่าวไทย