รมว.ศธ.สั่งจับตาสถานการณ์โควิด-19 ห่วงโอไมครอนระบาดในเด็ก

กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – รมว.ศธ.สั่งติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด ห่วงโอไมครอนระบาดในเด็ก พร้อมย้ำเตือนครู-ผู้ปกครอง ร่วมกันดูแลป้องกัน ลดละเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง


น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน (Omicron) น่ากังวล คือ ในหลายประเทศอัตราการป่วยนอนโรงพยาบาลของผู้ติดเชื้อโอไมครอน ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี มีเป็นจำนวนมาก และมีรายงานของสถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (AAP) ระบุว่า การแพร่ระบาดรุนแรงของโอไมครอน ในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ล้มป่วยเพิ่มมากขึ้น และ 50% ของเด็กที่ป่วยจากโควิดเข้าโรงพยาบาล มีอาการรุนแรงจนต้องรักษาในห้อง ICU หรือห้องดูแลผู้ป่วยหนัก ซึ่งตนเป็นห่วงเด็กๆ ทุกคน ถึงแม้ช่วงวัย 5-11 ปี เพิ่งมีวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้ แต่เด็กๆ ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างครอบคลุม

กระทรวงศึกษาธิการ ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทุกสายพันธุ์ เฝ้าระวัง และประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด ขณะนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วง จึงขอย้ำเตือนครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง ให้ร่วมกันดูแลป้องกันเด็กๆ และขอให้ป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด ใส่หน้ากากเสมอ อยู่ห่างๆ คนอื่น และลดละเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อลดและชะลอการระบาดลง


สำหรับการจัดการเรียนการสอน มีการออกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงศึกษาธิการ (เพิ่มเติม ครั้งที่ 1) ระบุให้สถานศึกษาในสังกัดและในกำกับของ ศธ. ประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงอย่างรอบด้านของนักเรียนหรือครูที่อาจเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 หากมีนักเรียนหรือครูที่เป็นกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว ให้สถานศึกษาสามารถพิจารณาปรับการเรียนการสอนเป็นระบบการศึกษาทางไกล คือ On air, Online, On hand และ On demand ได้ตามความเหมาะสม และประสานกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างใกล้ชิด ดังนั้น การหยุดสอนแบบ Onsite หรือไม่ จึงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่

ในวันที่ 10 ม.ค.นี้ กระทรวงศึกษาธิการ จะจัดงานเสวนา “โอไมครอนร้ายจริงหรือ? ถึงต้องปิดโรงเรียน” โดยจะพูดคุยถึงนโยบายความปลอดภัยในสถานศึกษา การปรับการจัดการเรียนรู้ทุกรูปแบบ (5 on) เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ทุกที่ ทุกสถานการณ์ และการเตรียมความพร้อมที่จะเปิด onsite ของทุกโรงเรียนอย่างปลอดภัย โดยความร่วมมือของ ศธ. กับ สธ. และมีวิทยากรมาชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยถ่ายทอดสดผ่าน obec channel ตั้งแต่เวลา 11.30 น. เป็นต้นไป จึงขอเชิญชวนสถานศึกษาทุกสังกัดและผู้ปกครองร่วมรับฟัง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย

“เฉิน” ตัวการสำคัญฉกเงินคนจีนในไทย บงการอยู่ต่างประเทศ

คดีคนจีนหลอกฉกเงินคนจีน รวมมูลค่า 13 ล้านบาท ตำรวจตามไปพบรถคันก่อเหตุ และยึดเงินคืนมาได้ แต่ “อาเฉิน” ตัวการสำคัญ หนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ทำเนียบฯ เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ 2568

ทำเนียบรัฐบาล จัดเต็ม เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ2568 เปิดหน้าทำงาน-นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี สวมบทบาทโฆษกรัฐบาล “นิวส์จิ๋ว” อ่านข่าวภาคภาษาไทย และอังกฤษ พบขบวนมาสคอต “หมูเด้ง” และผองเพื่อน