ห่วงคนขับรถไกล แนะ 10 ท่าบริหารกาย คลายเมื่อย แก้ง่วง

กรุงเทพฯ 24 ธ.ค. – กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงคนขับรถทางไกล ใช้เวลานานจนเกิดอาการเมื่อยล้า แนะ 10 ท่ายืดเหยียดผ่อนคลาย บริหารใบหน้าบรรเทาอาการง่วงนอน ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด โดยรถยนต์ส่วนตัว ก่อนขับรถทางไกล ควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เตรียมผ้าเย็นเวลาง่วง สวมแว่นตากันแดดขณะขับรถ และสิ่งสำคัญควรตรวจสภาพของรถยนต์ให้พร้อมใช้งาน ปรับการนั่งขับรถให้ถูกต้อง โดยเลื่อนเบาะที่นั่งให้อยู่ในระดับเหมาะสมกับตนเอง หลังพิงพนักพอดี ไม่นั่งห่างหรือชิดพวงมาลัยมากเกินไป เพราะจะทำให้หลังโค้ง พิงพนักไม่ได้ หรือพิงได้แต่เวลาขับต้องเหยียดแขนและเข่ามากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปวดหลัง ซึ่งหากปวดหลังเป็นเวลานานและไม่มีการดูแลอย่างถูกวิธี อาจทำให้เสี่ยงปวดหลังถาวรได้ และควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยขณะขับรถ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

“ทั้งนี้ ระหว่างการเดินทาง ผู้ขับรถยนต์สามารถลดอาการเมื่อยล้าได้ แม้อยู่ในรถ ขณะที่รถหยุดนิ่ง หรือในช่วงรถติด ด้วยการบริหารร่างกายง่ายๆ เช่น ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อคอ ให้เอียงคอลงมาด้านข้าง เข้าหาหัวไหล่ ให้ฝั่งตรงข้ามรู้สึกตึง ทำค้างไว้ประมาณ 15 วินาที จากนั้นสลับปฏิบัติด้านตรงข้าม ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อคอด้านหลัง ให้ค่อยๆ ก้มศีรษะเข้าหาลำตัว จนรู้สึกตึงบริเวณลำคอด้านหลัง ลำตัวตรง ค้างไว้ประมาณ 15 วินาที ท่ายืดไหล่ ทำได้โดยนั่งยืดตัว แล้วบีบไหล่ยกขึ้นไปหาใบหู ค้างไว้ นับ 1-2 แล้วเอาลง จากนั้นทำซ้ำ 5 ครั้ง ท่าบิดตัว ทำได้โดยนั่งยืดตัวตรงขึ้น มือจับที่ขอบเบาะแล้วบิดตัวไปข้างใดข้างหนึ่งค้างไว้ นับ 1-5 จากนั้นสลับปฏิบัติอีกข้าง ทำประมาณ 5 ครั้ง ก็จะช่วยให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว


ทางด้าน นพ.อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กล่าวเสริมว่า ผู้ขับรถทางไกล ควรจอดรถพักเป็นระยะๆ เพื่อผ่อนคลายอาการเมื่อยล้า ด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อให้กับตนเอง ด้วยวิธีการง่ายๆ โดยเริ่มจากท่าที่ 1 ยืนตรง มือเท้าเอว ยื่นคางไปด้านหน้าจนใต้คางตึง ทำค้างไว้ 15 วินาที กลับสู่ท่าเริ่มต้น ศีรษะตรง แล้วก้มศีรษะจนตึงบริเวณคอด้านหลัง ค้างไว้ 15 วินาที กลับสู่ท่าเดิม (ห้ามกลั้นหายใจขณะบริหารกาย) ท่าที่ 2 ยืนตัวตรง วางมือซ้ายบนศีรษะ แล้วเอียงคอมาด้านขวา จนรู้สึกด้านซ้ายตึง ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำใหม่ด้านตรงข้ามเหมือนเดิม ท่าที่ 3 ยืนตรงแยกเท้าเท่าหัวไหล่ มือวางที่ขอบรถ และก้มตัวลงจนรู้สึกตึงที่ไหล่และหลังส่วนบน แขนตึงค้างไว้ 15 วินาที ท่าที่ 4 ยืนตรง ยกแขนขวาพับลงๆ ไว้กลางหลัง มือซ้ายจับศอกขวาดึงมาทางด้านซ้ายจนตึงต้นแขนด้านหลัง ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำใหม่ด้านตรงข้ามเหมือนเดิม ท่าที่ 5 ยืนตรง ยกแขนขวาไปด้านหน้าระดับไหล่ ปลายนิ้วตั้งขึ้น ใช้มือซ้ายวางที่ฝ่ามือขวา แล้วดันเข้าหาตัวจนรู้สึกตึงปลายแขนด้านใน ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำใหม่ด้านตรงข้ามเหมือนเดิม

ท่าที่ 6 ยืนตรงยกแขนขวาไปด้านหน้าระดับไหล่ คว่ำมือลง ใช้มือซ้ายวางที่หลังมือขวา แล้วดันเข้าหาตัวจนรู้สึกตึงปลายแขนด้านใน ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำใหม่ด้านตรงข้ามเหมือนเดิม ท่าที่ 7 ยืนตรงประสานมือขึ้นเหนือศีรษะ แขนตรงแล้วเอียงตัวไปด้านซ้ายจนรู้สึกลำตัวด้านขวาตึง ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำใหม่ด้านตรงข้ามเหมือนเดิม ท่าที่ 8 ยืนตรง เท้าห่างกันเท่าหัวไหล่ ค่อยๆ ก้มตัวลง จนรู้สึกตึงที่หลัง หรือใช้มือแตะที่ปลายเท้า ค้างไว้ 15 วินาที ท่าที่ 9 ยืนตรง มือซ้ายจับขอบประตูรถยนต์ พับขาขวาขึ้น มือขวาจับปลายเท้าขวาแล้วดึงขึ้นจนตึงต้นขาด้านหน้า ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำใหม่ด้านตรงข้ามเหมือนเดิม และท่าที่ 10 ยืนตรง มือจับท้ายรถยนต์ ก้าวเท้าซ้ายไปด้านหน้า แล้วย่อเข่าซ้ายไปข้างหน้า จนน่องที่ขาขวาตึง ค้างไว้ 15 วินาที ทำซ้ำใหม่ด้านตรงข้ามเหมือนเดิม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]