มุ่งแก้ PM2.5 จัดทีมแพทย์ตรวจสุขภาพปอด-ภูมิแพ้

ลำพูน 11 ธ.ค.- สสส.–ศธ.-ภาคีสภาลมหายใจภาคเหนือ ลงพื้นที่ จ.ลำพูน มุ่งแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 จัดทีมแพทย์ตรวจสุขภาพปอด-ภูมิแพ้ พบกลุ่มเด็กป่วยสูงสุด โรคทางเดินหายใจ-หัวใจและหลอดเลือด-ผิวหนัง-ตาอักเสบ สสส. ดัน “ห้องเรียนสู้ฝุ่น” หยุดวิกฤติ ด้าน ศธ. เตรียมบรรจุเข้าหลักสูตรเรียน แก้ปัญหายั่งยืน

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2564 ที่โรงเรียนเวียงเจดีย์วิทยา อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และ 9 ภาคีสภาลมหายใจภาคเหนือ จัดเวทีสาธารณะ “ปลอดฝุ่น ปลอดภัย ในสถานศึกษา” พร้อมตรวจสุขภาพปอด ทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง วัดระดับคาร์บอนนอกไซต์ ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ในพื้นที่จังหวัดลำพูน จำนวน 1,000 คน โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืด และระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ


โดย นายชาติวุฒิ วังวล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ฝุ่น PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะคนที่อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ จากข้อมูลการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2564 โดยพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง น่าน และลำพูน พบผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM2.5 ถึง 26,614 ราย โดยกลุ่มโรคที่พบสูงสุด 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ กลุ่มโรคตาอักเสบ ที่สำคัญยังพบว่า กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสูงที่สุด ได้แก่ กลุ่มเด็กและเยาวชน

“สสส. เร่งขยายพื้นที่ต้นแบบ “ห้องเรียนสู้ฝุ่น” จาก 30 โรงเรียนให้ครอบคลุม 140 โรงเรียนทั่วประเทศ ในปี 2565 ซึ่งจากเดิมจะมีเพียงระดับประถมศึกษาตอนปลายในโรงเรียนของรัฐบาล ขณะนี้ ได้ขยายผลสู่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ทั้งโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนานาชาติ เพื่อพัฒนาพื้นที่ต้นแบบในการรับมือกับวิกฤตฝุ่น PM2.5 ผ่านการสร้างองค์ความรู้ โดยมีโรงเรียนเป็นแกนกลาง สู่การตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพร่วมกับชุมชน และท้องถิ่น รวมทั้งมีข้อเสนอเชิงนโยบายการรับมือกับวิกฤตฝุ่นและพื้นที่วิกฤตในสถานศึกษา สู่นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ” นายชาติวุฒิ กล่าว


นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า โรงเรียนในจังหวัดลำพูนมีมาตรการการรับมือกับปัญหาฝุ่น PM2.5 อาทิ มาตรการติดตามคุณภาพอากาศแบบวันต่อวัน เมื่อพบค่าฝุ่นที่อันตราย ครูจะประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนสวมใส่หน้ากาก N95 สำหรับวิชาที่ต้องเรียนกลางแจ้งเปลี่ยนมาเรียนในห้องเรียนแทน ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการ “ห้องเรียนสู้ฝุ่น” ของ สสส. เพื่อบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอน เป็นการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในกรณีค่าฝุ่นส่งผลต่อสุขภาพ พร้อมพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์

นายสมนึก วันหลี ผู้ใหญ่บ้านก้อจอก ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน กล่าวว่า ตำบลบ้านก้อ มีลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยป่าและภูเขา ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ส่วนใหญ่จึงเกิดจากไฟไหม้ป่า รวมถึงคนในชุมชนยังขาดความเข้าใจเรื่องผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ทำให้ยังมีการเผาเกิดขึ้นในพื้นที่บางส่วน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ ที่ผ่านมา เมื่อมีการเผาในพื้นที่ตำบลบ้านก้อ จะมีการประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายให้สวมใส่หน้ากาก N95 เท่านั้น การเข้าร่วมโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นของ สสส. ครั้งนี้ นอกจากโรงเรียนในพื้นที่จะเน้นการสอนแบบบูรณาการในห้องเรียนให้แก่เด็กนักเรียน ยังมีการต่อยอดจัดกิจกรรมอบรมครู ผู้ปกครอง แกนนำในพื้นที่ เพื่อขยายผลให้คนในชุมชนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีวิธีจัดการตัวเอง โดยงดการเผานา-ไร่ป้องกันการเกิดฝุ่นควันในพื้นที่ โดยมุ่งเป้าลดการเผาในพื้นที่ตำบลบ้านก้อ 100% ในปี 2565

ศ.ดร.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย (TAC) หัวหน้าทีมแพทย์ผู้ให้บริการตรวจสุขภาพประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำพูน กล่าวว่า ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ภูมิแพ้ ถุงลมโป่งพอง หอบหืด ทำให้การทำงานของปอดเสื่อมลง และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งปอด แนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากปัญหาฝุ่น PM2.5 มี 4 วิธี คือ 1.สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากาก N95 2.หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง 3.พักผ่อนให้เพียงพอ และ 4.รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ เน้นผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง เพื่อช่วยล้างสารพิษในกระแสเลือด ซึ่งอาการแพ้ฝุ่น PM 2.5 สังเกตได้ คือ 1.ผิวหนัง เป็นผื่นแดง คัน 2.ดวงตา ตาแดง บวม คันตา น้ำตาไหล และ 3.ทางเดินหายใจ คันคอ แน่นหน้าอกและโพรงจมูก ไอ จาม มีน้ำมูกใส หากอาการแสบคอ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด หรือมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์


“การตรวจสุขภาพผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้เอ็กซเรย์ปอด เพื่อวินิจฉัยโรคหอบหืดและโรคถุงลมโป่งพอง พร้อมตรวจรักษาโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจโดยการพ่นยา เมื่อตรวจเจอแพทย์จะให้คำแนะนำการปฏิบัติตัว และส่งต่อผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาลในพื้นที่ทันที” ศ.ดร.พญ.อรพรรณ กล่าว

ทั้งนี้ สภาลมหายใจภาคเหนือ 9 แห่ง ประกอบด้วย สภาลมหายใจภาคเหนือ สภาลมหายใจเชียงราย สภาลมหายใจเชียงใหม่ สภาลมหายใจน่าน สภาลมหายใจพะเยา สภาลมหายใจแพร่ สภาลมหายใจแม่ฮ่องสอน สภาลมหายใจลำปาง และสภาลมหายใจลำพูน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ