ตรวจเข้มเปิด On-site วันแรกโรงเรียนสังกัด กทม.

กทม.15 พ.ย.-กทม.ตรวจเข้มมาตรการป้องกันโควิด เปิดเทอม On-site วันแรก โรงเรียนสังกัด กทม.ระดับชั้นมัธยมฯ


เช้าวันนี้ (15 พ.ย.)นายเกรียงยศ สุดลาภา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯกทม.) พร้อมด้วยนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม.ลงพื้นที่ติดตามการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของโรงเรียนสังกัด กทม.ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ รร.มัธยมปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา โดยมี นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา นายดิชา คงศรี ผอ.เขตทวีวัฒนา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการศึกษา สำนักงานเขตทวีวัฒนา คณะครู บุคลากรทางการศึกษา โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ ศูนย์บริการสาธารณสุข 67 ทวีวัฒนา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูล

สำหรับ รร.มัธยมปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยเปิดการเรียนการสอนแบบ Online ในภาคเรียนที่ 2/64 ทุกระดับชั้น เมื่อวันที่ 1 พ.ย.64 พร้อมกับโรงเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 437 โรงเรียน ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ในสถานศึกษา และมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล Universal Prevention ที่กำหนด อาทิ ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนทั้งหมดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ และจัดหาอุปกรณ์ในการป้องกันการแพร่ระบาด จัดตั้งจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าสถานศึกษา ควบคุมทางเข้าและทางออก โดยลงทะเบียนก่อนเข้า-ออก การบันทึกข้อมูลรายงาน จัดพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ปกครองบริเวณหน้าโรงเรียน เป็นต้น


ส่วนระดับชั้นมัธยมศึกษา จัดการเรียนการสอนแบบ On-site ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำหนด และจัดการเรียนการสอนภายใต้มาตรการ Sandbox : Safety Zone in School ทั้ง 4 ด้าน คือ มาตรการด้านกายภาพ มาตรการด้านการมีส่วนร่วม มาตรการด้านการประเมินความพร้อมสู่การปฏิบัติ และมาตรการด้านการดำเนินการของโรงเรียนหรือสถานศึกษา โดยจำกัดนักเรียนในห้องเรียนไม่เกิน 25 คน ใช้การเรียนการสอนแบบสลับวันเรียน หรือจัดห้องเรียนใหม่ตามสภาพพื้นที่ของแต่ละโรงเรียน ร่วมกับการเรียนการสอนแบบ Online และปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น ได้แก่ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และ 7 มาตรการเข้ม สำหรับสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดอย่างเคร่งครัด

สำหรับ 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ประกอบด้วย 1.Distancing เว้นระยะห่าง 2.Mask wearing สวมหน้ากาก 3.Hand washing ล้างมือ 4.Testing คัดกรองวัดไข้ 5.Reducing ลดการแออัด และ 6.Cleaning ทำความสะอาด ส่วน 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ประกอบด้วย 1.Self – care ดูแลตนเอง 2.Spoon ใช้ช้อนส่วนตัว 3.Eating กินอาหารปรุงสุกใหม่ 4.Track ลงทะเบียนเข้าออกโรงเรียน 5.Check สำรวจตรวจสอบ และ 6.Quarantine กักกันตัวเอง

ด้าน 7 มาตรการเข้ม สำหรับสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ประกอบด้วย 1.สถานศึกษาประเมินความพร้อมเปิดเรียนผ่าน TSC+ และรายงานการติดตามการประเมินผลผ่าน MOECOVID 2.ทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble จัดนักเรียนเว้นระยะห่างในห้องเรียน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่มกัน 3.จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลอาหารและหลักโภชนาการ 4.จัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ได้แก่ การระบายอากาศภายในอาคาร การทำความสะอาด คุณภาพน้ำอุปโภคบริโภค และการจัดการขยะ 5.จัดให้มี School Isolation แผนเผชิญเหตุ และมีข้อซักซ้อมอย่างเคร่งครัด 6.ควบคุมดูแลการเดินทางเข้าและออกจากสถานศึกษา (Seal Route) ทั้งกรณีรถรับ – ส่ง นักเรียน รถส่วนบุคคล และพาหนะโดยสารสาธารณะ และ 7.จัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา


“วันนี้คณะผู้บริหาร กทม.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนวันเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด ซึ่ง รร.มัธยมปุรณาวาสปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด มีจุดคัดกรองบริเวณประตูทางเข้าโรงเรียน ตรวจวัดอุณหภูมิ จุดแอลกอฮอล์ล้างมือ พร้อมมีการตรวจ ATK นักเรียนในช่วงที่ผ่านมา 600 คน ผลตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อ หลังจากนั้นจะมีการสุ่มตรวจ ATK ร้อยละ10- 20 จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด สำหรับการเรียนการสอนทางโรงเรียนได้แบ่งนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา 1-6 ออกเป็น 2 กลุ่มๆละประมาณ 600 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1,365 คน โดยสลับกันมาเรียนตามตาราง กลุ่ม A จะเรียนแบบ On-site เรียนที่โรงเรียน กลุ่ม B เรียนแบบ On-hand เรียนที่บ้าน โดยหนังสือเรียน และแบบฝึกหัด รวมทั้งงดกิจกรรมการรวมกลุ่มของนักเรียน” รองผู้ว่าฯกทม. กล่าว

ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.มีความห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการบริหารจัดการด้านการศึกษา ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นักเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนในสังกัด กทม.ต้องปรับการเรียนการสอนเป็นแบบ Online ซึ่งปัจจุบันผู้ติดเชื้อโควิดมีจำนวนลดลง อีกทั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับวัคซีนเกินร้อยละ96 ส่วนนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนในสังกัด กทม.ได้รับวัคซีนเกินร้อยละ 80 กทม.จึงได้เปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ในระดับชั้นมัธยมศึกษา 1-6 รวมทั้งสิ้น 109 โรงเรียน แบบ On-site ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ พร้อมทั้งจัดให้มีการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) สำหรับนักเรียนที่จะเข้าชั้นเรียน

นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ผู้บริหาร กทม.ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของโรงเรียนสังกัด กทม.ดังนี้

พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯกทม.และนางสุธาทิพย์ สนเอี่ยม รองปลัด กทม.ลงพื้นที่โรงเรียนวัดไทร (ถาวรพรหมานุกูล) เขตจอมทอง

นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าฯกทม.และนายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัด กทม.ลงพื้นที่ รร.วัดสะแกงาม เขตบางขุนเทียน

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯกทม.และนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม.ลงพื้นที่โรงเรียนวัดเกาะสุวรรณาราม เขตสายไหม

นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. และนายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัด กทม.ลงพื้นที่โรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา เขตคลองเตย

นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัด กทม.ลงพื้นที่โรงเรียนกิ่งเพชร เขตราชเทวี

และนายณรงค์ เรืองศรี รองปลัด กทม.ลงพื้นที่โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ เขตบางกะปิ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]