ดีเอสไอ 1 ก.ย.-ดีเอสไอให้เหยื่อคดี “โครงการเพชรบุรีปาร์ค” แจ้งความเสียหายผ่านระบบคิวอาร์โค้ดฯ เผยพบชาวต่างชาติเขตจังหวัดท่องเที่ยวถูกหลอกเพิ่ม
พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีบริษัท นิว นอร์ดิค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ถูกร้องเรียนจากชาวต่างชาติว่า หลอกลวงให้ลงทุนในธุรกิจอาคารชุดหรือทรัพย์สินในโครงการเพชรบุรีปาร์ค ในพื้นที่กว่า 555 ไร่ พื้นที่ ต.ไร่โคก อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี มูลค่าเสีย หาย 3,400 ล้านบาท โดยมีพื้นที่บางส่วนทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่ายางหัก-เขาปุ้ม 499 ไร่ หลังจากดีเอสไอรับเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสืบสวนที่ 37/2564 และมอบหมายให้กองคดีทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีผู้เสียหายซึ่งเป็นชาว ต่างชาติจำนวนมากถูกบริษัทฯดังกล่าวหลอกลวงให้นำเงินมาลงทุนในโครงการของบริษัทฯ ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดอื่นๆนอกจากเพชรบุรี คือพื้นที่เมืองพัทยา ชลบุรี , พื้นที่เกาะสมุย , สุราษฎร์ธานี , ชุมพร และภูเก็ต
จึงมีคำสั่งให้คณะพนักงานสืบสวน ดีเอสไอสืบสวนพฤติการณ์และการกระทำของบริษัทฯทั้งหมด และขอให้ผู้เสียหายที่ต้องการจะให้ข้อมูลเพื่อนำไปประกอบการสืบสวนที่เป็นประโยชน์ทางคดีสามารถส่งข้อมูลดังกล่าวผ่านทาง QR Code หรือลิงค์ https://forms.gle/cJm3etUGM7LUBMMW9 เข้ามาได้ที่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติฯ
พ.ต.ท.อมร หงส์ศรีทอง ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายจำนวนมากและถือเป็นความผิดนอกราชอาณาจักรจึงต้องขอให้ทางอัยการสูงสุดมอบหมายให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้อัยการฯได้มีคำสั่งมาแล้วและดีเอสไออยู่ระหว่างดำเนินการตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อทำคดี อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนที่ได้ความเสียหายจากโครงการดังกล่าวสามารถส่งข้อมูลให้ดีเอสไอได้โดยใช้ระบบคิวอาร์โค้ดของกรมฯที่แจ้งไว้
ก่อนหน้านี้กองคดีทรัพยากรธรรมชาติฯดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงพบมีการซื้อที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) จำนวน 21 แปลง เนื้อที่รวม 555-1-49 ไร่ เพื่อจัดทำโครงการเพชรบุรี ปาร์ค ประกอบด้วย โรงแรม คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว สวนอาหาร สวนน้ำ ครบวงจร จากนั้นได้นำเอาโครงการดังกล่าว ออกโฆษณาขายให้กับประชาชนทั้งในและต่างประเทศ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับห้องชุดและผลตอบแทนการลงทุน ชวนประชาชนเข้ามาซื้อหรือลงทุนในโครงการมีการโฆษณาชักชวนต่อบุคคลโดยทั่วไป มีการเสนอจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนเงินคืนให้กับผู้ที่นำเงินมาร่วมลงทุนกับโครงการ ร้อยละ 10 ต่อปีของการชำระเงินเต็มจำนวน คิดเฉลี่ยจ่ายเป็นรายเดือนเริ่มตั้งแต่เดือนถัดมานับจากการชำระเงินเต็มจำนวนจนกระทั่งโครงการได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทำให้มีผู้ให้ความสนใจนำเงินมาร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากข้อมูลพบว่าเป็นจำนวนเงินถึง 3,400 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย