สำนักข่าวไทย 30 ส.ค.-สำนักพุทธฯ สั่งตั้งกรรมการสอบกลุ่มพระปาร์ตี้หมูกระทะ ที่เชียงใหม่ พร้อมสั่งพักตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดที่ร่วมอยู่ในวงด้วย
นายสิปป์บวร แก้วงาม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (รองผอ.พศ.) เปิดเผยถึงกรณีที่เมื่อกลางดึก 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ได้เข้าจับเจ้าอาวาส วัดปันเสา ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่ พร้อมพระลูกวัด รวม 6 รูป และฆราวาสอีก 1 คน กำลังล้อมวงจัดปาร์ตี้หมูกระทะ ภายในกุฏิสนทนาธรรมอย่างสนุกสนาน โดย พบแก้วเบียร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สิบกระป๋องอยู่ในห้องหลังได้รับการร้องเรียนจึงเข้าตรวจสอบนั้น
ในเรื่องนี้ ทาง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทราบเรื่องและได้มีการสั่งการให้ดำเนินการ โดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ สั่งตั้งกรรมการสอบพระทั้ง 6รูปแล้ว พร้อมสั่งให้พักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดที่นั่งปรากฎในปาร์ตี้หมูกระทะ และให้มีการแต่งตั้งรักษาการเข้าอาวาสวัดปันเสามาดำรงตำแหน่งแทนก่อนในระหว่างการตั้งกรรมการสอบข้อ่เท็จจริง
รอง ผอ.พศ.ยังเปิดเผยว่า กรณีนี้พบการกระทำผิดส่วนของกฎหมายทางโลกชัดเจน การนั่งล้อมวง จับกลุ่มกลางดึก ความผิดข้อหารวมตัวมั่วสุมในลักษณะที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ส่วนผิดทางธรรมนั้น ให้อำนาจการพิจารณา ของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาว่าจะมีโทษทางสงฆ์อย่างไร ต้องดูปัจจัยประกอบกันว่าจะผิดพระธรรมวินัย ในส่วนที่มีการดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนผลของโทษนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตามระดับโทษของสงฆ์มีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ และจนถึงให้ปาราชิกซึ่งแม้ตามหลักของปาราชิก การดื่มสุราไม่ได้เข้าข่ายถึงความผิดดังกล่าว แต่ก็ต้องดูตามปัจจัยความผิดประกอบ
อย่างไรก็ตามหากพบกว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่ทำให้วงการสงฆ์เสื่อมเสียอย่างร้ายแรงก็คณะกรรมการก็สามารถลงความเห็นให้พระที่กระทำการดังกล่าว พ้นสภาพการเป็นพระสงฆ์ได้ และต้องดูความผิดตามกฎหมายบ้านเมืองมาประกอบกันด้วย แต่อย่างไรก็ตามขอให้รอผลการตรวจสอบก่อน ซึ่งที่ผ่านมา ทราบว่าเป็นการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งยังไม่เคยมีเรื่องมาถึงสำนักพุทธศาสนามาก่อน แต่ต้องตรวจสอบจากในพื้นที่ว่าเป็นการกระทำครั้งแรก หรือทำมาแล้วหลายครั้งหรือไม่
จากการสอบถาม ทางสำนักพระพุทธศาสนาฯไม่ได้ระบุว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบหลังกรรมการขึ้นมากี่วัน แต่จะเร่งดำเนินการ เนื่องจากประชาชนให้ความสนใจ .-สำนักข่าวไทย
