กรุงเทพฯ 20 ส.ค. – ศิริราช ร่วมกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ย้ำผลวิจัยการฉีดวัคซีนแบบไขว้ กระตุ้นภูมิต้านสายพันธุ์เดลตาได้
ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การฉีดสลับหรือฉีดกระตุ้น มีจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อมีเชื้อกลายพันธุ์เดลตา โดยศูนย์วิจัยคลินิกศิริราชได้ทำการวิจัย 2 โครงการ คือ
1. การฉีดเข็ม 1 และเข็ม 2 ด้วยวัคซีนต่างชนิดกันในคนทั่วไป คือ เริ่มต้นด้วย SV1-AZ2 พบว่าผลการตรวจภูมิคุ้มกันขึ้นสูง 1354.51
2. ฉีดกระตุ้นด้วยเข็มที่ 3 ในผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ในบุคลากรทางการแพทย์ โดยใช้ AZ เข็มที่ 3 พบว่าจะได้ผลดีสุด ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงถึง 1558.79
ขณะที่ได้ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทำการตรวจภูมิ เฉพาะกับสายพันธุ์เดลตา ด้วยวิธี PRNT50 พบว่า SV/AZ และ SV+SV/AZ เพิ่มภูมิคุ้มกันสูง ทั้งสองแบบสอดคล้องกัน
ด้าน นพ.บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงการวิจัยวัคซีนสลับ รวมทั้งการตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันในคนที่ได้รับวัคซีนสลับแบบ Plaque Reduction Neutralization Test (PRNT) ใช้เชื้อไวรัสจริงทำในห้องชีวนิรภัยระดับสูงสุด เป็นมาตรฐานสากล สรุปได้ว่า
1. คนที่ได้รับวัคซีน SV+AZ จะให้ภูมิคุ้มกันที่ดีพอๆ กับการฉีดวัคชีน AZ+AZ แต่ใช้เวลาสั้นลง
2. การฉีด AZ+SV ให้ภูมิคุ้มกันเทียบเท่าการฉีด SV+SV
3. การฉีดกระตุ้นด้วย AZ หลังได้รับวัคซีน SV 2 เข็ม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีมากกับสายพันธุ์เดลตา
4. การฉีดกระตุ้นด้วย Sinopharm หลังได้รับวัคซีน SV+SV ภูมิสูงขึ้น แต่ยังน้อยกว่าการกระตุ้นด้วยวัคซีนต่างชนิดกัน (Platform) โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ทำการวิเคราะห์สายพันธุ์ไวรัสนับ 1,000 ตัวอย่าง/สัปดาห์ โดยละเอียด แต่ยังไม่พบไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย