กรุงเทพฯ 11 เม.ย. – “อนุทิน” มอบ สปสช. ช่วยประสานจัดหาเตียงรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ร่วมกับกรมการแพทย์-สพฉ. ให้สายด่วน สปสช. 1330 ร่วมเป็นหน่วยประสานจัดหาเตียงกับสายด่วนกรมการแพทย์ 1668 กรณีโรงพยาบาลตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วไม่มีเตียงรองรับ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 10 เม.ย. เป็นต้นไป
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบนี้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก การควบคุมโรคจำเป็นต้องมีการตรวจคัดกรองเป็นวงกว้าง เพื่อหาตัวผู้ติดเชื้อและนำเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาอย่างรวดเร็วที่สุด ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะตั้งแต่เริ่มมีการระบาดระลอกใหม่เป็นต้นมา ก็มีผู้เดินทางไปรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ทาง สปสช.ขอย้ำอีกครั้งว่า ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง มีอาการป่วย มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ เดินทางไปสถานที่ที่มีการระบาด หรือแม้แต่ไม่มีอาการป่วยและไม่แน่ใจว่าติดเชื้อหรือไม่ สามารถเดินทางไปรับการตรวจคัดกรอง หรือปรึกษาแพทย์ได้ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน โดยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น สปสช.จะจ่ายแทนประชาชนให้เอง รวมทั้งหากพบว่าติดเชื้อ สปสช.ก็จ่ายค่ารักษาให้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี เนื่องจากมีจำนวนผู้ไปรับการตรวจมากขึ้น ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาโรงพยาบาลหลายแห่งอาจเกิดความกังวล เพราะเมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อแล้ว โรงพยาบาลจะต้องรับคนๆ นั้นเข้าเป็นผู้ป่วยในการดูแลของตัวเอง ทำให้โรงพยาบาลบางแห่งเกิดความกังวล อาจไม่กล้าตรวจ เพราะเกรงว่าถ้าตรวจเจอเชื้อแล้วจะไม่มีเตียงรองรับเพียงพอ โดยทางกระทรวงสาธารณสุข จับมือโรงเรียนแพทย์ กรุงเทพมหานคร ตำรวจ กลาโหม และโรงพยาบาลเอกชน เตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ประสานส่งต่อผู้ป่วยในเครือข่ายหรือข้ามเครือข่ายได้ เปิดสายด่วนกรมการแพทย์ 1668 ประสานช่วยผู้ติดเชื้อที่ยังหาเตียงรักษาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม สายด่วน 1668 อาจจะไม่พอรองรับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้กรมการแพทย์ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน (สพฉ.) และ สปสช. จัดระบบรองรับ โดยจะให้สายด่วน 1330 ของ สปสช. ร่วมเป็นหน่วยประสานจัดหาเตียงให้แก่ผู้ป่วยที่ไม่มีเตียงในโรงพยาบาลรองรับ โดยเป็นการดำเนินการร่วมกับสายด่วนกรมการแพทย์ 1668 ที่ทำหน้าที่จัดหาเตียงให้กับผู้ติดเชื้อ ซึ่ง สปสช.ได้หารือกับ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ในการช่วยดำเนินการดังกล่าวแล้ว โดยทางกรมการแพทย์จะส่งจำนวนเตียงว่าง ทั้งในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม มาให้ สปสช. เพื่อช่วยประสานจัดหาเตียงรองรับผู้ป่วยต่อไป ยกตัวอย่างเช่น นาย A ไปรับการตรวจที่โรงพยาบาล B แล้วตรวจพบว่ามีเชื้อโควิด-19 แต่ปรากฏว่า โรงพยาบาล B ในขณะนั้นมีผู้ป่วยโควิดจำนวนมาก จนเตียงเต็มหมดแล้ว ทำให้ไม่มีเตียงสำหรับนาย A ในโรงพยาบาลนั้น ทางพยาบาลของโรงพยาบาลสามารถโทรเข้าสายด่วนกรมการแพทย์ 1668 ได้ หรือหากสายไม่ว่าง เนื่องจากคู่สายเต็ม ก็สามารถโทรมาที่สายด่วน สปสช. 1330 ได้ เพื่อให้ประสานจัดหาเตียงในโรงพยาบาลอื่นๆ แก่นาย A ได้เลย และเมื่อ 1330 หาเตียงได้แล้ว ในขั้นตอนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลปลายทาง ก็จะมีรถพยาบาลของ สพฉ. มาช่วยรับส่งให้ โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง
ในส่วนของผู้ป่วยที่ก่อนหน้านี้ไปตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่โรงพยาบาลที่ไปตรวจเตียงเต็ม ส่วนหนึ่งมีกลุ่มที่ไม่มีอาการ ก็สามารถโทรศัพท์ประสานมาที่สายด่วน สปสช. 1330 ได้เช่นกัน
นพ.จเด็จ กล่าวว่า สายด่วน 1330 ได้เริ่มดำเนินการจัดหาเตียงแก่ผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่วานนี้ (10 เม.ย.64) เป็นต้นไป ดังนั้น โรงพยาบาลที่ประสบปัญหาเตียงไม่พอ สามารถติดต่อประสานงานเข้ามาได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงประชาชนที่ตรวจแล้วพบเชื้อ แต่มีปัญหายังไม่ได้รับการรักษาด้วยเช่นกัน. – สำนักข่าวไทย