ผอ.สปคม.แจงการสอบสวนโรคเคสดีเจดัง

สธ.28 ม.ค.-ผอ.สปคม.ย้ำการสอบสวนโรคเคสดีเจดัง เป็นอำนาจของพื้นที่ และต้องสอบสวนโรคมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนและจุดเชื่อมโยงกรณีป่วยกลุ่มก้อน


นพ.วิชาญ ปาวัน ผอ.สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กล่าวถึงหลักการสอบสวนโรคในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า โดยหลักการคือพื้นที่รับผิดชอบ คือกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีสำนักงานอนามัย และกองควบคุมโรคติดต่อ เป็นผู้สอบสวนโรค ส่วน สปคม.เป็นหน่วยงานเสริม กรณีที่ 1. มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ใหญ่ มีความซับซ้อน และ 2. กรณีเคสข้ามเขต เช่น ติดเชื้อจากจังหวัดอื่น แต่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ กทม. สปคม.จะมาเชื่อมให้

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการเซ็ตระบบว่าโรงพยาบาลหรือแล็บใดตรวจเจอผู้ติดเชื้อ จะต้องสอบสวนโรคเบื้องต้นโดยพยาบาลโรคติดเชื้อ และทำใบโนเวล หรือใบสวนโรคเบื้องต้น มาที่ สปคม. จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบเพิ่มเติมว่าครบถ้วนหรือไม่ ถ้ายังไม่ครบก็สอบสวนเพิ่ม โดยอาจจะสอบตรงไปที่ตัวผู้ติดเชื้อ หรืออาจจะตรวจสอบไปที่พยาบาลฯ คนที่สอบสวนเบื้องต้นก็ได้ เมื่อได้ข้อมูลแล้วจะส่งข้อมูลทั้งหมดพร้อมใบสอบสวนโรคเบื้องต้น เข้าสู่ระบบแจ้งสำนักอนามัย และกองควบคุมโรค


จากนั้น สำนักอนามัยจะมาดูว่าผู้ติดเชื้อฯ อยู่ในพื้นที่ไหนของ กทม. แล้วแจ้งต่อไปยังศูนย์บริการสาธารณสุขในเขตพื้นที่ เพื่อลงไปสอบสวนโรคในพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง แล้วแจ้งข้อมูลกลับมาที่สำนักอนามัย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีรายงานผู้ติดเชื้อเยอะ ศูนย์ฯ ทำไม่ไหว ก็จะประสานมายังสำนักอนามัย และ สปคม. เพื่อช่วยในการสอบสวนโรค

นพ.วิชาญ กล่าวว่า สำหรับการสอบสวนโรคในเคสดีเจดังนั้น ทาง สปคม. จะเคลียร์ใบสอบสวนโรคเบื้องต้นกับสำนักอนามัย แล้วในรายที่สำนักอนามัยสอบไม่ได้ ก็จะแจ้งกลับมาที่ สปคม. เพื่อตรวจสอบข้อมูล ซึ่งก็ต้องบอกว่าบางครั้ง สปคม.ก็ไม่ได้ข้อมูลมาเช่นกัน ถึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงสรุปไทม์ไลน์ครั้งแรกออกมาเช่นนั้น ซึ่งเขาก็ต้องยอมรับผลที่เกิดขึ้น

เมื่อถามว่าล่าสุดผู้ติดเชื้อชี้แจงว่า ได้มีการให้ข้อมูลไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าไทม์ไลน์ออกมาเช่นนั้นได้อย่างไร นพ.วิชาญ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้ออาจจะเข้าใจว่าได้ให้ข้อมูลกับพยาบาลคนแรกที่สอบสวนเบื้องต้นแล้ว แต่สิ่งที่ผู้ติดเชื้อต้องเข้าใจคือการสอบสวนโรคคือการสัมภาษณ์ ซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแล้วจบ ยิ่งลักษณะเป็นกลุ่มก้อน ยิ่งต้องสอบสวนเยอะ จะมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ทั้งสำนักอนามัย สปคม. กรมควบคุมโรคติดต่อไปสอบถามแล้วนำข้อมูลมารวมกันเพื่อดูว่าได้ให้ข้อมูลตรงกันหรือไม่ เชื่อมต่อกันได้หรือไม่


พร้อมย้ำว่าไทม์ไลน์จะเป็นประโยชน์กับทีมสอบสวนโรค ในการวิเคราะห์พฤติกรรมเสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง เช่น การสังสรรค์ เกิดการตื่นตัวในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่ควบคุมสูงสุดเราต้องระลึกเสมอว่าทุกพื้นที่ ทุกกิจกรรมมีความเสี่ยงหมด ดังนั้นพฤติกรรมการป้องกันตัวเองสำคัญที่สุด คือการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ญาติแรงงานไทยเฮลั่นบ้านหลังเห็นภาพการปล่อยตัว

1 ปีกว่า กับการรอคอยสุดทรมาน แต่วันนี้ครอบครัวแรงงานไทย ทั้ง 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัว ยิ้มออก โล่งใจ บอกว่าเป็นวันที่รอคอย ปาฏิหาริย์มีจริง