พช.จับมือ ยสท.พัฒนาพื้นที่ต้นแบบสู่ “โคก หนอง นา โมเดล”

กรุงเทพฯ 20 ม.ค. – พช. เดินหน้าจับมือ การยาสูบ (ยสท.) ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ร่วมกันบริหารจัดการพื้นที่การยาสูบแห่งประเทศไทย น้อมนำแนวพระราชดำริฯ พัฒนาพื้นที่ต้นแบบ มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต ชาวไร่ยาสูบรวมทั้งพี่น้องประชาชนในพื้นที่การยาสูบแห่งประเทศไทยทั่วประเทศ


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมประชุมหารือ นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย และคณะ ในการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ตามกลไกการขับเคลื่อนสืบสานศาสตร์พระราชาเพื่อการปฏิรูปประเทศ ในพื้นที่ของยาสูบแห่งประเทศไทย ด้วยการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาสืบสาน รักษา และต่อยอด ภายใต้แนวพระราชดำริ” เพื่อวางแผนในการพัฒนาคน พัฒนาทีม สร้างพื้นที่ต้นแบบ โดยมี ทีมที่ปรึกษา ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล หรือ อ.โก้ และ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ หรือ อ.หน่า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมให้ข้อมูล ณ ห้องรับรองอธิบดี ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณเงินกู้เพื่อฟื้นฟูหลังโควิด-19 ให้กรมการพัฒนาชุมชนดำเนินการโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” กว่า 4,700 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมโครงการ 25,179 ครอบครัว กระจายอยู่ใน 3,246 ตำบล ทั่วประเทศไทยใน 73 จังหวัด โดยมุ่งหวังที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชนได้พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานให้คนไทยทุกคนว่า เศรษฐกิจพอเพียงหรือทฤษฎีใหม่ จะทำความเจริญและช่วยให้ประเทศชาติรอดปลอดภัย นอกจากนี้ โครงการนี้เป็นสิ่งที่ดีต่อพี่น้องประชาชน โดยกรมการพัฒนาชุมชนได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย มีมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ของ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ มีอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ส่ง ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล หรือ อ.โก้ และ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ หรือ อ.หน่า มาช่วยวางแผนและดำเนินงานตามโครงการฯ


นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การยาสูบแห่งประเทศไทยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ในการเข้ามาสืบสาน สนองงานตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และการยาสูบแห่งประเทศไทย มีความพร้อมที่จะดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่น และจะเป็นแรงสนับสนุนให้กับกรมการพัฒนาชุมชนเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการยาสูบแห่งประเทศไทย จะร่วมขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” โดยการร่วมกันพิจารณากำหนดพื้นที่เป้าหมายและบริหารจัดการที่ดินของการยาสูบแห่งประเทศไทย สามารถที่จะปรับสภาพตามภูมิสังคม ตามบริบทแวดล้อมเพื่อที่จะพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อที่จะมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิต ของชาวไร่ยาสูบรวมทั้งพี่น้องประชาชน ที่อาศัยในพื้นที่การยาสูบแห่งประเทศไทย ทั่วประเทศต่อไป

ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล กล่าวว่า ในการสร้างคนในพื้นที่ให้มีความรู้นำไปใช้ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดการย้ายถิ่นฐานเข้าสู่เมือง ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในขณะนี้ การทำเกษตรยุคใหม่ช่วยลดการบุกรุกป่า ลดการแออัดของประชากร ลดปัญหายาเสพติด ลดปัญหาสังคมน้อยลง เพราะคนอยู่ในชุมชนมากขึ้น กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ยังมีแผนการพัฒนาการเติมความรู้ให้คน โดยความรู้ 3 ชุด 1) ศาสตร์พระราชาเศรษฐกิจพอเพียงหรือทฤษฎีใหม่ 2) ภูมิปัญญาท้องถิ่นแต่ละท้องที่ 3) นวัตกรรมที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาคนส่งไปยังดูแลบ้านเกิดภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อไปพัฒนาฟื้นฟูดิน น้ำ ป่า วิถีวัฒนธรรมของตนเองฟื้นฟูทุนเดิมที่มีอยู่ให้นำกลับมาใช้ใหม่ ผ่านกลไกการสร้างความสามัคคีโดยการใช้จิตอาสาพัฒนาชุมชน ไม่ได้ใช้ทุนทรัพย์เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้กรมฯ ยังได้เน้นย้ำในการสร้างคนการพัฒนาคน “สร้างคนให้เป็นครู” และสร้างพื้นที่การเรียนรู้ระดับตำบล ระดับพื้นที่ต้นแบบฯ ให้ทุกจุดที่เริ่มดำเนินการเป็นพื้นที่เป้าหมายโรงเรียนชุมชน เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาคนตลอดชีวิตทุกช่วงวัย ตั้งแต่หญิงตั้งครรภ์จนถึงผู้สูงอายุ ทุกคนสามารถเป็นครู Localization ซึ่งมาจากคำว่า “อนุรักษ์และพัฒนา” ซึ่งเป็นคำที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานไว้ให้ “พัฒนาคือสร้างสรรค์” แก่กรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งจะนำ Localization นำไปแก้ปัญหา Globalization เริ่มจากพัฒนาคนให้รู้จัก “พอเพียง” เลิกแข่งขัน หันมาแบ่งปัน นำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้คนในชุมชน

รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ได้ยกตัวอย่างพื้นที่ อ.แม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มชาวต่างชาติ ทำธุรกิจร่วมกับคนไทยด้านฝ่ายอินทรีย์ และการพัฒนาพื้นที่ในอุทยาน การทำงานระดับเด็กและเยาวชน (เด็กไทย และเด็กอินเตอร์) การทำงานยึดหลักศาสตร์ของพระราชาให้ถ่องแท้ก่อนนั้น โดยมีเป้าหมายชัดเจน ในเชิงกสิกรรมธรรมชาติในการพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์พันธุกรรมพืช ยังมีสถาปัตยกรรมของพื้นที่ ศิลปวัฒนธรรม ต้องมีการวางแผนพัฒนาคน สร้างทีมคน ทีมครู ร่วมกันกับชุมชนโดยรอบด้วย เป็นการขับเคลื่อนในพื้นที่ มีการวิเคราะห์สภาพพื้นที่ แหล่งน้ำเดิม มองแผนพัฒนาศิลปวัฒนธรรมของพื้นที่ และเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมในการพัฒนาพื้นที่ควบคู่ไปด้วย


ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน ได้มีผลการดำเนินงาน ดังนี้ 1) มีพื้นที่ของศูนย์ ศึกษาและพัฒนาชุมชน จำนวน 11 แห่ง และขยายผลต้นแบบจำนวน 21 แห่ง รวม 32 แห่ง ได้รับการพัฒนาเป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” 2) เกิดการสร้างงานสร้าง รายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ต้นแบบจำนวน 11 แห่ง และขยายผลต้นแบบจำนวน 21 แห่ง รวม 32 แห่ง ในระยะสั้น 5 เดือน (พฤษภาคม – กันยายน 2563) จำนวน 96 คนในอัตราคนละ 7,000 บาท/เดือน และมีการฝึกปฏิบัติเชื่อมโยงเครือข่าย ในพื้นที่ต้นแบบฯ และจุดขยายผลต้นแบบ ผ่านกิจกรรมเอามื้อสามัคคี แห่งละ 7 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 224 ครั้งมีผู้เข้าร่วมแห่งละ 20 คน ต่อครั้ง รวมจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งสิ้นอย่างน้อย 4,620 คน 3) มีผู้นำต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่รูปแบบประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงจากศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 11 แห่งจำนวน 1,100 คนและจากเครือข่ายเจ็ดภาคีจำนวน 400 คนรวมทั้งสิ้น 1,500 คนในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพและมีการสร้างเครือข่ายผู้นำการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่รูปแบบประยุกต์ “โคก หนอง นา โมเดล” ดูจากกระบวนการเรียนรู้ด้วยการฝึกปฏิบัติผ่านกิจกรรมเอามื้อสามัคคีในพื้นที่ตัวอย่างของผู้นำต้นแบบจำนวน 1,500 แห่ง (จาก ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 11 แห่งจำนวน 1100 คนและจากเครือข่ายภาคีจำนวน 400 คน แห่งละ 15 คนรวม 22,500 คน

โครงการนี้สิ่งสำคัญ คือ การพัฒนาคน ดังนั้น คนที่กรมการพัฒนาชุมชนรับสมัครมาทำงานในแปลงเกือบหมื่นคนทั่วประเทศ รับเงินเดือน ๆ ละ 9,000 บาท 1 ปี เราจึงต้องเรียกผู้เข้าร่วมโครงการว่า “นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ” คือ คนที่เข้ามาร่วมทำงานในศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ ไม่ใช่คนงาน ไม่ใช่ลูกจ้าง เจตนารมณ์นอกจากเรื่องรายได้และการเป็นเพื่อนคู่คิดของเจ้าของแปลงแล้ว เป้าหมายสูงสุดคือ ได้ learning by doing เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจากการปฏิบัติจริง โดยเริ่มตั้งแต่การฝึกอบรมหลักสูตรเดียวกันกับเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนและครัวเรือนเป้าหมาย เมื่อทำงานครบ 1 ปี ก็นำไปต่อยอดปฏิบัติจริงในครัวเรือน เป็นการฝึกทำงานให้รู้จริงให้ชิน

นายสุทธิพงษ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้ายว่า การเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม ของพื้นที่ยาสูบ ต้องมีการวางแผนในการพัฒนาคน ต้องสร้างทีมคน ทีมครู โดยทำความร่วมมือกับชุมชนโดยรอบพื้นที่ ควรดูแลศึกษาพื้นที่ก่อนลงมือทำควบคู่ไปกับการช่วยเหลือชุมชน คนที่ยากลำบาก คนยากจน ให้คนกลุ่มนี้เขามีรายได้ มีอาชีพ เลี้ยงชีพได้ เป็นแรงงานในการดูแลพื้นที่ของยาสูบ และดูว่าพืชชนิดใดบ้างที่สามารถปลูกได้เหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ จะก่อให้เกิดชุมชนแห่งการเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แห่งความหวัง พร้อมเป็นพื้นที่เปิดรับการจับจ่ายใช้สอยเพื่อแลกกับความสุข และความรู้ในพื้นที่ มีโฮมสเตย์ ที่พักผ่อน และเป็นแหล่งในการหาความรู้ของศาสตร์พระราชา เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบเพื่อป้อนแก่โรงงานได้ อาทิ กัญชา สีที่มาจากธรรมชาติ คราม ส่งต่อไปยังการผลิตผ้าได้ หากผู้ว่าการยาสูบตัดสินใจเลือกพื้นที่มาเข้าร่วมนั้น ต้องวางแผนทำการเกษตร 2 ขา ร่วมด้วย ในการจัดทำ “โคก หนอง นา โมเดล” ส่งเสริมด้านการเกษตร จักได้ร่วมกัน MOU ในลำดับต่อไป ในการดำเนินงาน “โคก หนอง นา โมเดล” และการทำการเกษตร 2 ขา ในพื้นที่ที่ถูกคัดเลือก ต่อไปนั้นยังสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนได้

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชน มีภารกิจหลักในการพัฒนาผู้นำชุมชน องค์กรชุมชนและเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างความสามารถและความเข้มแข็งของชุมชน ร่วมไปถึงเชื่อมโยงเครือข่ายในพื้นที่ทั้ง 7 ภาคี ได้แก่ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมลชนเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันสังคมไทยประสบปัญหาสภาวะหนี้ ภาคครัวเรือนสูงขึ้น รวมไปถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศทำให้เกิดปัญหาความมั่นคงด้านอาหารรวมทั้งปัญหาคนว่างงานจึงได้จัดทำโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้าประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดลซึ่งมีการดำเนินงานจำนวน 3 กิจกรรมคือ 1) การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่เก้าประยุกต์สู่โคก หนอง นา โมเดล 2) การขับเคลื่อนพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล 3) การเสริมสร้างและการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง นอกจากจะช่วยสร้างและกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนแล้ว ยังสามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ “แก้ได้ หายจน ชีวิตมั่นคง ครอบครัวมั่งคั่ง ชุมชนยั่งยืน” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]