1 ธ.ค.จ่อห้ามรถใหญ่เข้ากรุง 06.00-21.00 น.

กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- กทม.จ่อห้ามรถบรรทุกเกิน 6 ล้อ เข้ากรุง 06.00 -21.00 น. เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ ประสานกรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร ออกข้อบัญญัติ หากไม่ดำเนินการ จ่อให้อำนาจผู้ว่าฯ กทม.แทน


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่าในวันที่ 17 พ.ย.นี้ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมการขนส่งทางบก กรมธุรกิจพลังงาน กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจร ตลอดจนนักวิชาการต่างๆ ร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ขณะนี้ได้ทำหนังสือประสานไปยังกรมการขนส่งทางบก (ขส.) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ออกข้อบัญญัติควบคุมรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ห้ามเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป หากยังไม่มีการดำเนินการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะใช้อำนาจผู้ว่าฯ กทม.ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย พ.ศ.2535 ต่อไป


เข้าใจดี ถึงความเดือดร้อนของพี่น้องผู้ประกอบการขนส่ง แต่ในช่วงเวลาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ไปจนถึงประมาณกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่อากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ มีมลพิษ ย่ำแย่ ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนมากซึ่งข้อกำหนดที่ออกมาไม่ได้ห้ามให้รถใหญ่วิ่ง เพียงแต่ขอให้เปลี่ยนระยะเวลาในการเดินทาง เพื่อลดการสร้างมลภาวะ และบรรเทาปัญหารถติดในพื้นที่แค่นั้น” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

ส่วนการเตรียมพร้อมในโรงเรียนสังกัด กทม.จะจัดทำห้องปลอดฝุ่นในศูนย์เด็กเล็กของกรุงเทพมหานคร 297 ศูนย์ รวม 1,000 กว่าห้อง และห้องเรียนเด็กเล็กชั้นอนุบาล ในโรงเรียนสังกัดกทม. 437 แห่ง รวมๆแล้วประมาณ 2,500 ห้อง โดยทุกห้องเรียนจะติดตั้งพัดลม โดยมีแผ่นกรองฝุ่นขนาด 1×1.20 เมตร ติดในห้องห้องสะ 2 ตัว รวมกว่า 10,000 เครื่อง ซึ่งได้ขอสนับสนุนจากสมาคมจีนยุคใหม่ สั่งแผ่นกรองจากประเทศจีนนำมาบริจาคให้ กทม. โดยจะจัดทำห้องปลอดฝุ่นให้เสร็จก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้

นอกจากนี้จะขอสนับสนุนพัดลมเพื่อนำแผ่นกรองฝุ่นติดด้านหลังใช้ในห้องที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศด้วย ขณะนี้ได้รับการจริจาคมาแล้วประมาณ 500 เครื่อง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ