ทางออก “ครอบครัวไทยปมขัดแย้งการเมือง”

กรุงเทพฯ 24 ต.ค.-เสวนาหาทางออกครอบครัวไทย ขัดแย้งการเมือง ปมทุกข์ทั้งบ้าน เปิดใจรับฟังรักษาสัมพันธภาพครอบครัว ไม่ห้าม ไม่ใช้ความรุนแรง ทำให้บ้านเป็นที่ปลอดภัย ด้านแพทย์แนะใช้ประเด็นการเมืองเป็นแบบฝึกหัด เปิดโอกาส พื้นที่ ผู้ใหญ่เด็กร่วมเรียนรู้ เคารพความเห็นต่าง


เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2563 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)จัดงานเสวนา “ทางออก…ครอบครัวไทยในวิกฤตการเมือง”

นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ส่งผลกระทบต่อครอบครัวทำให้เกิดความทุกข์ทั้งสองฝ่าย ทั้งมุมพ่อแม่และมุมลูก แต่ไม่ควรใช้วิธีเถียงกันเรื่องของข้อมูลเพราะจะทำให้พังทั้งสองฝ่าย ต้องทำความเข้าใจว่า ต่างยุคต่างสมัย ต่างมีข้อมูลคนละชุด แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องคำนึงถึงความสัมพันธภาพครอบครัว สุดท้ายแล้วการเมืองจบแต่ความสัมพันธ์ในครอบครัวยังคงอยู่ ในบทบาทของความเป็นผู้ใหญ่นั้นต้องการให้ลูกเชื่อฟัง แต่เราต้องเปิดใจฟังลูกด้วย ฟังโดยไม่โต้แย้ง ต่อว่า แล้วพูดเสริมว่าพ่อแม่เป็นห่วงลูกที่ต้องไปร่วมชุมนุม พ่อแม่อาจเดินทางไปด้วยสักครั้งสองครั้งเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นห่วง ซึ่งมีตัวอย่างของครอบครัวที่โทรเข้าปรึกษาบอกว่ารับฟังลูก 2 ชม.และลูกได้กล่าวขอบคุณพ่อแม่ที่รับฟัง บรรยากาศในครอบครัวดีขึ้น


นางฐาณิชชา กล่าวต่อว่า สำหรับพ่อแม่ ควรหาเพื่อนพูดคุยเพื่อปรับทุกข์ นอกจากนี้พ่อแม่ไม่ควรใช้ความรุนแรง ห้ามปราม หรือตัดเงินไปโรงเรียน เพราะเด็กวัยนี้จะเชื่อเพื่อนแล้วจะไม่กลับบ้าน แต่ครอบครัวต้องทำให้เด็กรู้สึกว่ากลับบ้านแล้วปลอดภัย มีใครสักคนที่บ้านที่เขาไว้ใจ เพราะเด็กยังไม่เข้าใจว่าทำไมไปชุมนุมแล้วไม่ปลอดภัย ขณะเดียวกันเมื่อเด็กไปชุมนุมแล้วยังไปเรียนหนังสือ ที่น่าห่วงคือ บางครอบครัวลูกอยู่กับปู่ย่าตายายอาจจะคุยกันยาก แต่ก็ต้องพยายามรับฟังให้มากขึ้น

พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน กล่าวว่า อยากให้พ่อแม่เปิดใจมองเห็นพลังของเด็กวัยรุ่นที่ลุกขึ้นมาตั้งคำถาม สร้างการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นพลังความเชื่อในรูปแบบหนึ่ง ในมุมหนึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีที่เขาคิดวิเคราะห์ แล้วเกิดการลงมือลงแรงที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เขาเชื่อ เพราะฉะนั้นให้มองเป็นเรื่องที่มีแง่มุมดีๆ ซึ่งการรับฟังที่ดีไม่ใช่ฟังเพื่อการสั่งสอนแต่เป็นการรับฟังความต้องการและความรู้สึกที่เกิดขึ้น การที่กลุ่มเด็กลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว เกิดคำถามว่าเขารู้สึกอึดอัดคับข้องใจ หรือว่ามีสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นเราอาจจะรับฟังความรู้สึกตรงนั้น

“อยากให้พ่อแม่ชวนให้เขาคิดชวนให้เขาเข้าใจ ชวนให้เขารู้สึกคิดถึงคุณค่าของความแตกต่างในสังคม เมื่ออยู่ในสังคมที่คิดแตกต่างกันแต่อยู่ร่วมกันได้ โดยเคารพความแตกต่างกัน ถือเป็นทักษะที่สำคัญมากที่เด็กรุ่นใหม่จะเติบโตไป นอกจากนี้ผู้ใหญ่ต้องให้พื้นที่เพื่อจะให้เด็กได้แสดงออก ซึ่งการได้ยินเสียงของเด็กถือว่าสำคัญมาก อย่างน้อยก็รู้ว่าเขากำลังคิดถึงอะไร แม้เราจะไม่เห็นด้วย บางอย่างมองว่าไม่ดี แต่การได้ลงมือทำในสิ่งที่เชื่อคือการเรียนรู้ในรูปแบบหนึ่งและเรียนรู้ด้วยการกระทำด้วยตัวเอง คือการเรียนรู้เพื่อช่วยในการเติบโต” พญ.จิราภรณ์ กล่าว


พญ.จิราภรณ์ กล่าวต่อว่า การที่พ่อแม่และลูกคิดแตกต่างกันถือเป็นแบบฝึกหัดที่ดีมาก เพราะอนาคตก็อาจมีความคิดแตกต่างกันอีก ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือทำความเข้าใจและเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ต้องระมัดระวังเพราะการที่ไปตัดสินหรือตีตรา จะทำให้ไม่เกิดการรับฟังจริงๆ ซึ่งคนที่เสียประโยชน์จากการตัดสินจากคำพูดเหล่านั้นคือตัวพ่อแม่ เมื่อไปตัดสินหรือตีตราใครเราแทบจะไม่ได้ฟังในเรื่องที่เขาสื่อออกมาจริง ๆเป็นเรื่องที่พ่อแม่ควรจะฝึกคุยกันให้ได้ เพื่อจะรับฟังความต้องการของกันและกัน ฝึกแชร์ข้อมูลที่เราได้มาหรือเรารู้ โดยไม่คาดหวังว่าเขาจะเชื่อ เพราะเราอาจมีความไม่พอใจถ้าเขาไม่เชื่อ

น.ส.ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ นักกระบวนกรการสื่อสารอย่างสันติ กล่าวว่า การสื่อสารอย่างสันติด้วยหัวใจ เปรียบเทียบง่ายๆ กับการสื่อสารด้วยสัญญาณไฟในใจของเรา 3 ระดับไฟเขียวคือ การสื่อสารด้วยความเข้าใจ สนใจใคร่รู้ เปิดใจ ยอมรับ เข้าใจ ซึ่งไม่ได้แปลว่าเห็นด้วย บางคนกลัวเสียจุดยืนของตนเอง จริงๆควรกลับมาที่พื้นฐานของครอบครัวคือความรัก ระดับไฟเหลือง คือเมื่อเราเริ่มโกรธ เราควรหยุดรอ หยุดเพื่อคิดหาทางออกหรือวิธีการแก้ปัญหาที่ไม่ซ้ำเติมให้เกิดความรุนแรง แต่ถ้าเป็นระดับไฟแดง เป็นระดับอันตราย มีโอกาสเกิดความรุนแรง หรือเกิดภาวะซึมเศร้า ต้องหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดึงไฟแดงกลับมาที่ไฟเขียว ไม่ว่าจะโกรธขนาดไหน เราต้องมีสติ อาจใช้วิธีใช้มือมาจับที่หัวใจ สัมผัสที่หัวใจรู้ตัวว่าโกรธ แล้วกลับมาที่พื้นฐานความรัก จะช่วยให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวดีขึ้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“แพทองธาร” พอใจผลเลือก อบจ. เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่

“นายกฯ แพทองธาร” พอใจผลเลือกตั้งนายก อบจ. บอกต้องนำมาวิเคราะห์หมด ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เผย “ทักษิณ” ทำเต็มที่ คุ้มสตางค์ค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง แจงปราศรัยเดือดไม่ใช่คาแรคเตอร์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์