จาการ์ตา 5 ต.ค.- สมาคมฟุตบอลแห่งอินโดนีเซียเผยว่า ความล่าช้าในการเปิดประตูทางออกที่สนามฟุตบอลซึ่งเกิดจลาจลหลังจบการแข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
สมาคมฯ แถลงเมื่อวันอังคารว่า ยอดผู้เสียชีวิตมีไม่ต่ำกว่า 130 คน สมาคมฯ มีคำสั่งแบนเป็นการถาวรกับประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ประสานงานความปลอดภัยของสโมสรอาเรมา เอฟซี ซึ่งเป็นเจ้าบ้านนัดที่เกิดเหตุแล้ว โทษฐานไม่ดูแลความปลอดภัยของสนามแข่งขันและไม่รีบสั่งเปิดประตูทางออกอย่างทันท่วงที ประตูทั้งหมดควรต้องเปิดล่วงหน้า 10 นาทีก่อนจบการแข่งขัน แต่ในวันที่เกิดเหตุ หลายประตูยังคงปิดอยู่ทั้งที่กรรมการเป่านกหวีดจบการแข่งขันไปแล้ว 7 นาที คนเปิดประตูมีไม่กี่คนและไปไม่ถึงหลายประตูในช่วงที่ผู้ชมเริ่มยื้อแย่งกันหนีแก๊สน้ำตาที่ตำรวจยิงสกัดแฟนฟุตบอลที่พยายามลงไปในสนาม
ด้านตำรวจยังคงยืนยันในวันเดียวกันโดยอ้างภาพจากกล้องวงจรปิดที่ประตูทางออก 6 ประตูจากทั้งหมด 14 ประตู ซึ่งเป็นจุดที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุดว่า ประตูไม่ได้ปิดแต่แคบมาก สามารถออกได้คราวละ 2 คน แต่มีคนพยายามหนีออกพร้อม ๆ กันจำนวนมาก ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้จัดการแข่งขัน สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างภาพถ่ายจากสนามมาลัง จังหวัดชวาตะวันออกที่เกิดเหตุจลาจลว่า ประตูทางออก 1 ประตู ประกอบด้วยบานประตู 4 บาน
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า (FIFA) และสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชียหรือเอเอฟซี (AFC) มีคำแนะนำไว้ว่า ควรต้องปิดประตูทางออกตลอดการแข่งขันเพื่อความปลอดภัย และห้ามใช้แก๊สน้ำตาเป็นเครื่องมือควบคุมฝูงชน อย่างไรก็ดี มาตรฐานความปลอดภัยนี้ไม่ได้บังคับใช้กับการแข่งขันภายในประเทศหรือลีกระดับประเทศ.-สำนักข่าวไทย