สปสช.2 ต.ค.-สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯยินดีให้บริการผู้ป่วยเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีที่ได้รับผลกระทบกรณี สปสช.ยกเลิกสัญญาหน่วยบริการเอกชนในพื้นที่ กทม. ย้ำพร้อมรับผู้ป่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้มาใช้สิทธิ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
นพ.อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ยกเลิกสัญญากับหน่วยบริการเอกชนในเขตพื้นที่ กทม.มีประชาชนที่หน่วยบริการประจำถูกยกเลิกและมีสถานะกลายเป็นสิทธิว่างจำนวนมาก ทางสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ในฐานะเป็นโรงพยาบาลที่ดูแลรักษาเฉพาะด้าน ยินดีให้บริการให้แก่ประชาชนอายุต่ำกว่า 15 ปีที่ได้รับผลกระทบจากการถูกยกเลิกสิทธิ ซึ่งปัจจุบันนี้สถาบันฯมีเตียงผู้ป่วยใน 465 เตียง มีคลินิกผู้ป่วยนอกแยกเฉพาะทางด้านต่างๆอีก 37 คลินิก เพราะฉะนั้นจึงมีความพร้อมที่จะรับผู้ป่วยเด็กที่เจ็บป่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นพ.อดิศัย กล่าวว่า จริงๆ แล้ว สปสช.ยังมีเครือข่ายอื่น เช่น โรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลสังกัด กทม.ที่มีศักยภาพและยินดีให้บริการผู้ป่วยอยู่แล้ว ในส่วนของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีเองก็ยินช่วยเติมเต็มเพื่อให้คนไข้มีทางเลือกมากขึ้น คนไข้ที่อยู่ละแวกใกล้เคียงหรือที่สามารถเดินทางมารับบริการก็จะได้รับการอำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น
“เราสามารถรับผู้ป่วยได้ตามสถานการณ์ ตามจำนวนผู้ป่วยที่มาในช่วงนั้น ๆ ซึ่งในส่วนของผู้ป่วยใน ปกติมีอัตราการใช้เตียงอยู่ที่ 60% ดังนั้นจึงมีศักยภาพที่จะรองรับอยู่แล้ว รวมทั้งจำนวนคลินิกผู้ป่วยนอกที่มีมากเพียงพอ” นพ.อดิศัย กล่าว
ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ยังให้ความมั่นใจแก่ผู้ป่วยที่มาใช้สิทธิว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ สปสช.สนับสนุนนั้นครอบคลุมค่าใช้จ่ายพื้นฐานเกือบหมดอยู่แล้ว จึงไม่เป็นปัญหากับผู้ป่วยว่าจะต้องเสียเงินเมื่อมารับบริการ ยกเว้นบางรายการ เช่น ห้องพิเศษ ซึ่งก่อนที่จะเกิดปัญหาการยกเลิกสัญญาหน่วยบริการ ทางสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีก็ให้บริการผู้ป่วยเด็กที่เป็นสิทธิว่างอยู่พอสมควร มีระบบต่างๆ รองรับอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
“อยากให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้ง 3 ฝ่ายคือประชาชนได้รับบริการ ไม่ต้องกังวลใจว่าตัวเองมีปัญหาสุขภาพแล้วจะไม่มีที่รองรับสปสช.ก็มีที่เลือกให้ประชาชนที่เป็นสิทธิว่างได้มีที่รักษาส่วนสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีก็ได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์”นพ.อดิศัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย