สบส.เร่งไขปมสาวดับจากสารทึบรังสี

กรมสบส.1 ต.ค.-สบส.ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เร่งเดินหน้าไขปมสาวดับจากการแพ้สารทึบรังสี หลังเข้ารับการตรวจเอ็กซเรย์กับโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ในจังหวัดเชียงใหม่


จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล ถึงหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยอาการปวดท้องน้อย กับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จังหวัดเชียงใหม่ แต่เมื่อโรงพยาบาลมีการฉีดสารทึบรังสีเพื่อทำการเอกซเรย์ ตรวจเช็กร่างกาย หญิงสาวรายดังกล่าวกลับเกิดอาการแพ้สารทึบรังสีขั้นรุนแรง จนเสียชีวิต นั้น

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสุนนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการทางการแพทย์ ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัยตามความประสงค์ ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย และศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 1 กรม สบส. ประสานขอความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ เข้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว


โดย สสจ.เชียงใหม่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 และในส่วนของกรม สบส.ก็ได้มีการประสานขอประวัติผู้ป่วย และเอกสารทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล ซึ่งในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลเอกชนได้ชี้แจงว่าแพทย์พบผู้เสียชีวิตมีประวัติของอาการปวดหน่วงท้องและแสบเวลาปัสสาวะ มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อต้นเดือนกันยายน 2563 จึงเชื่อว่าไม่มีการตั้งครรภ์ อีกทั้งไม่มีประวัติการแพ้ยาและอาหารใดๆ จึงได้ดำเนินการเอกซเรย์

อย่างไรก็ตามกรม สบส.จะนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดเสนอต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานการรักษา เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อสาเหตุการเสียชีวิต และคลายข้อสงสัยของญาติผู้เสียชีวิตว่าโรงพยาบาลฯ มีการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินเบื้องต้นตามมาตรฐานวิชาชีพ และมีการสั่งการวินิจฉัยโรคเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานก็จะมีการดำเนินการด้านจริยธรรมกับแพทย์ผู้ให้บริการ รวมทั้งผู้ดำเนินการสถานพยาบาลก็จะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ในฐานไม่ควบคุม ดูแลให้แพทย์ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ กรม สบส.พร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้บริโภคทุกคน หากประสบปัญหาการรักษาพยาบาล หรือบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลเอกชน สามารถแจ้งที่สายด่วน กรม สบส. 1426 ในวันและเวลาราชการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้