กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – สบส.แจ้งความดำเนินคดี “อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต” เปิดคลินิกเถื่อนย่านบางบัวทอง หลอกลวงประชาชนให้มารักษาโรคโดยไม่ได้รับอนุญาต อ้างเป็นศาสตร์การรักษาทางเลือกให้กับผู้ป่วย
นายชาตรี พินใย ผู้อำนวยการ กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เข้าพบ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต หรือนายกีรติ อายุ 53 ปี หลังเปิดโรงแรมเป็นศูนย์อบรมศาสตร์ ฝ่ามือพลังจิต ย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เปิดรักษาคนไข้ที่เจ็บป่วย หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปวดคอ บ่าไหล่ ปวดหลัง ไมเกรน ตาบอด และโรคชนิดต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วยโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับเชื้อเชิญให้หน่วยงานต่าง ๆ เดินทางมาพิสูจน์การรักษาผู้ป่วยด้วยศาสตร์พลังจิตที่เจ้าตัวอ้างว่า เป็นศาสตร์การรักษาทางเลือกให้กับผู้ป่วย
นายชาตรี เปิดเผยว่าหลังจากวานนี้ได้ร่วมกับตำรวจ ปคบ.เข้าตรวจสอบสำนักงานศูนย์ อ.เอก ฝ่ามือพลังจิต ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบความผิดหลายข้อหา อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจึงมอบหมายให้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ อ.เอก ใน 3 ข้อหา ได้แก่ ประกอบสถานบริการสุขภาพโดยไม่รับอนุญาต หรือเปิดคลินิกเถื่อน ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือหมอปัจจุบันเถื่อน และประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือแพทย์แผนไทยเถื่อน
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม และ พ.ร.บ.วิชาชีพแพทย์แผนไทย ถือว่าเข้าข่ายเจตนามุ่งหมายที่จะตรวจโรควินิจฉัย จึงถือว่าเข้าองค์ประกอบความผิดแล้ว และสถานประกอบการของ อ.เอก ก็เข้าข่ายไม่ได้รับอนุญาตจดทะเบียนให้ดำเนินกิจการสถานพยาบาลตามกฎหมาย จึงเข้าข่ายความผิดเช่นเดียวกัน และแม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีเรื่องร้องเรียนจากผู้เข้ารับการรักษา แต่เมื่อหารือกับตำรวจ พบมีการโฆษณาทางโซเชียลในลักษณะใช้ข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเอาเปรียบ หลอกลวงประชาชนให้มาใช้บริการ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือว่ารัฐตกเป็นผู้เสียหาย
นายชาตรี ระบุอีกว่า กลุ่มผู้กระทำความผิดเหล่านี้มักจะอาศัยฉวยโอกาสที่ประชาชนอาจจะมองว่าเข้าไม่ถึงระบบการรักษาไปรักษาในรูปแบบอื่น ๆ จึงขอแนะนำประชาชนว่าควรเข้ารับการรักษาตามแพทย์ในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมายจะดีกว่า ซึ่งทางรัฐบาลได้ดำเนินการส่งเสริมการให้บริการสุขภาพครอบคลุมถึงประชาชนทุกคนทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ อสม.ตามชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ส่วนกรณีที่มีดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงมาโฆษณาชวนเชื่อให้กับ อ.เอก นั้น นายชาตรี ระบุว่าเรื่องนี้อาจจะเข้าข่ายความผิดข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่จะต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและปรึกษากับพนักงานสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง ขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการรวบรวมเป็นหลักฐานและสอบรายละเอียดจากนายชาตรี รวมทั้งนำข้อมูลจากการตรวจค้นของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบในการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนจะเรียกให้ผู้ทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป. -สำนักข่าวไทย