ปทุมวัน 30 ก.ย.-นักเรียน-ครูโรงเรียนดังแต่งดำ ผูกโบชมพูขับไล่ ผอ. แต่งตั้งไม่เป็นธรรม ส่อทุจริต เรียกร้องนายกฯ -รมว.ศึกษา ร่วมถกขีดเส้นเย็นวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ก.ย.) เวลา 11.30 น.นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สวมชุดพละ ผูกโบชมพู รวมตัวขับไล่ นายโสภณ กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา บริเวณหน้าอาคาร 8 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยมีการอ่านแถลงการณ์ ชมรมยุวชนพลเมือง (TU Activists) ร่วมกับ กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ กลุ่มเกี๊ยวอุดเงยหน้าท้าเผด็จการ คณะกรรมการงานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และชมรมอื่นๆ ประณามการแต่งตั้ง โยกย้ายบุคลากรในโรงเรียนอย่างไม่ชอบธรรม และการทำหน้าที่ผู้อำนวยการอันมีข้อบกพร่องหลายประการ
สืบเนื่องจากมีการลงนามคำสั่ง รวม 14 ฉบับ เป็นคำสั่งแต่งตั้งและโยกย้ายบุคลากรในโรงเรียนหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งหัวหน้าตึก และหัวหน้ากลุ่มการสาระการเรียนรู้ต่างๆ ซึ่งเป็นคำสั่งแต่งตั้งที่ละเมิดจริยธรรมการบริหาร วัฒนธรรมองค์กร และขาดความชอบธรรม เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ไม่มีหตุผลชัดเจนในการแต่งตั้งโยกย้าย ผู้ดำรงตำแหน่งเดิม ก็มิได้มีความผิดหรือข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ และเหตุผลที่ว่า “ให้การปฏิบัติหน้าที่ราชการของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา เป็นไปด้วยความ เรียบร้อยและมีประสิทธิภพ” ก็ไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากผู้อำนวยการคนปัจจุบันกำลังจะเกษียณอายุราชการ ซึ่งบุคลากรที่ได้รับการแต่งตั้งจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การบริหารของ ดร.โสภณ กมล ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ บุคลากรที่ได้รับการแต่งตั้งหลายคนก็ไม่ได้มีผลงานใดๆ เป็นที่ประจักษ์ แต่กลับเป็นผู้ที่มีความสนิทสนม ใกล้ชิด หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้อำนวยการโรงเรียน
รวมถึงตลอดระยะเวลาที่เป็น ผอ.มีการบริหารที่ผิดพลาดและไม่โปร่งใสตลอดมา เช่นแผนการเรียนวิทยศาสตร์-คณิตศาสตร์ของ นักเรียนชั้น ม.5 ที่ไม่มีเกณฑ์ชัดเจน ทำให้ภายหลังมีการฟ้องร้องและโยกย้ายห้องเรียนของนักเรียน การจัดซื้ออุโมงค์ตรวจวัดอุณหภูมิที่มีราคาสูงกว่าปกติถึง 3เครื่อง โดยไม่จำเป็น เนื่องจากโรงเรียนมีครูเวรประจำประตูทำหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิอยู่แล้ว การจัดพิมพ์หนังสือเรียนของโรงเรียน และการเรียกก็บเงินจากนักเรียนที่มากกว่าความเป็นจริง อีกทั้งยังไม่ออกใบเสร็จให้นักเรียนที่จ่ายเงินไปแล้ว จึงขอให้ ผอ.ยกเลิกคำสั่งอันไม่ชอบธรรมเหล่านี้เสีย รวมถึงขอให้บุคลากรทุกท่านที่ได้รับการแต่งตั้งจากคำสั่งดังกล่าวลาออกจากตำแหน่ง
จากนั้น กลุ่มนักเรียนได้ทำกิจกรรมคืนความอัปยศ ปลดรูปนายโสภณ จากห้องเกียรติยศ อาคาร 3 ก่อนคว่ำรูป และนำไปไว้ที่ห้องทำงานของนายโสภณ ที่อาคาร 8
เวลา 12.30 น.นายภราดร นาทันรีบ นายกสโมสรอาจารย์เตรียมอุดมศึกษา วาระ 2561-2563 อ่านแถลงการณ์ คณะอาจารย์เตรียมอุดมศึกษา เรื่อง ขอเรียกร้องให้โรงเรียนยกเลิกคำสั่งที่นายโสภณ กมล ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ออกคำสั่ง รวม 16 ฉบับ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการครูให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ หลายตำแหน่ง ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบธรรม และขาดความเป็นธรรม ผิดหลักธรรมาภิบาล และทำลายวัฒนธรรมองค์กรอันดีงามของโรงเรียน
เหตุผลที่ระบุไว้ในคำสั่งว่า “เพื่อให้การบริหารราชการของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเกิดประสิทธิภพและเกิดประสิทธิผล” นั้น ไม่สมเหตุสมผลเพราะผู้ดำรงตำแหน่งแต่เดิม มิได้เป็นผู้ที่ขาดประสิทธิภาพในการทำงานตามที่กล่าวอ้าง และยังเป็นที่ยอมรับของคณะครู บุคลากร และนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
คำสั่งดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดความวุ่นวาย สร้างความแตกแยกและทำให้กระบวนการทำงานในโรงเรียนไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ทั้งยังบั่นทอนขวัญและกำลังใจของคณะครูและนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาอย่างร้ายแรง
เวลา13.00น.คณะอาจารย์ คณะกรรมการนักเรียน ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ร่วมแถลงข่าวขอให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังปัญหา และร่วมหาแนวทางการแก้ไข ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ในเวลา 15.30 น. ระบุสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบนักเรียนโดยตรง ยืนยันครูที่ถูกโยกย้ายไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง แต่ส่งผลกระทบต่อความเป็นครูจึงขอเรียกร้องขอให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งดังกล่าว เนื่องจากไม่มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติผู้ได้รับการแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ และเป็นการแต่งตั้งแบบปัจจุบันทันด่วน ก่อน ผอ.สิ้นสุดวาระเพียง 2วัน และพบว่าผู้ที่ได้รับการแต่งตั้ง เป็นผู้มีความเกี่ยวข้องกับสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาที่เพิ่งมีการก่อตั้งเมื่อ 3 กันยายนที่ผ่านมาและยังพบพิรุธเรื่องเงินบริจาคของสมาคมอีกด้วย ขณะที่นักเรียนกำลังใกล้จะสอบปลายภาค คำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย กระทบการออกข้อสอบและสภาพจิตใจนักเรียน
อย่างไรก็ตาม หากรัฐมนตรีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มาร่วมหาแนวทางตามเวลา เตรียมกำหนดแนวทางเคลื่อนไหวต่อไป.-สำนักข่าวไทย