พช.-อพ.สธ.จับมือขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ

กรุงเทพฯ 29 ก.ย.- พช. และ อพ.สธ. จับมือขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เพื่อน้อมนำพระราชดำริไปสู่การปฏิบัติ รักษาภูมิปัญญาและอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนายพรชัย จุฑามาศ รองผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ กรมการพัฒนาชุมชน โดยมี นายกองตรีธงชัย สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ที่ปรึกษาโครงการ อพ.สธ. นายโชคชัย แก้วป่อง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ดร.ปิยรัษฎ์ ปริญญาพงษ์ เจริญทรัพย์ เลขานุการคณะกรรมการโครงการ อพ.สธ. และคณะกรรมการดำเนินโครงการฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน

โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) ดำเนินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของพันธุกรรมพืชต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย ก่อให้เกิดกิจกรรมร่วมคิด ร่วมปฏิบัติ ที่นำผลประโยชน์มาถึงประชาชนชาวไทย ตลอดจนให้มีการจัดทำระบบข้อมูลพันธุกรรมพืชให้แพร่หลายสามารถสื่อถึงกันได้ทั่วประเทศ ภายใต้ 3 ฐานทรัพยากร ได้แก่ ทรัพยากรชีวภาพ ทรัพยากรกายภาพ และทรัพยากรวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ใน 3 กรอบการดำเนินงาน คือ กรอบการเรียนรู้ทรัพยากร กรอบการใช้ประโยชน์ และกรอบการสร้างจิตสำนึก และในเดือนมิถุนายน 2560 กรมการพัฒนาชุมชนได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เข้าร่วมสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.)


ในการประชุมครั้งนี้ เป็นการรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา และประสานการจัดทำแผนงานและการดำเนินโครงการ เพื่อพิจารณาร่างแผนแม่บทโครงการนอุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ กรมการพัฒนาชุมชน ปี 2565-2569 ให้สอดคล้องกับแผนแม่บทโครงการฯ ระยะ 5 ปีที่เจ็ด (1 ตุลาคม 2564-30 กันยายน 2569) และสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง

นายพรชัย จุฑามาศ รอง ผอ.โครงการ อพ.สธ. กล่าวว่า ดีใจที่กรมการพัฒนาชุมชน ทำงานที่สอดคล้องกัน เมื่อปี 2561 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีรับสั่งมาว่า “ให้ดำเนินการไปสู่งานปกติของทุกหน่วยงาน” นั่นคือ ให้เอางานที่ทำอยู่แล้วเป็นงานสนองพระราชดำริได้ งานของ อพ.สธ. เป็นงานที่สืบทอดงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในการรักษาฐานทรัพยากรของประเทศ ที่จะนำไปสู่เศรษฐกิจพอเพียง นั่นคือการพึ่งตนเองได้ ซึ่งต้องมีทรัพยากรที่เป็นกายภาพ ดิน น้ำ พลังงาน ชีวภาพคือ พืช สัตว์ จุลินทรีย์ และเรื่องของวัฒนธรรมภูมิปัญญา วิถีชีวิตของเรา ขนมธรรมเนียมต่างๆ เป็นเรื่องของภูมิสังคม

การอนุรักษ์ทรัพยากรนั้น ไม่เฉพาะทรัพยากรกายภาพและทรัพยากรชีวภาพเท่านั้น ทรัพยากรทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ก็เป็นสมบัติที่ต้องรัก เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ให้เกิดประโยชน์ได้ ในแผนปฏิรูปประเทศในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำหนดให้มีศูนย์อนุรักษ์พัฒนาทรัพยากรท้องถิ่นตำบลทุกตำบลทั่วประเทศ นั่นคือ มีศูนย์ข้อมูลอยู่ที่ตำบล เพราะท้องถิ่นก็เหมือนประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่สามารถบริหารตัวเองได้ เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย อพ.สธ.จะช่วยในเรื่องวิชาการให้ มหาดไทย 4.0 จะต้องมีฐานข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่น ทั้งจากแผนพัฒนาท้องถิ่น แผนพัฒนาจังหวัด รวมทั้งฐานข้อมูล OTOP จากกรมการพัฒนาชุมชน


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนได้กล่าวในการประชุมว่า กรมการพัฒนาชุมชนน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยในรอบปีที่ผ่านมาได้น้อมนำแนวพระราชดำริโครงการบ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง มาขับเคลื่อนช่วงโควิด เป็นแผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และขับเคลื่อนระยะที่ 2 ทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างวัฒนธรรมการปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งในโครงการนี้มีตัวชี้วัดที่เป็นเลเยอร์ส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ เพราะมี KPI ในโครงการว่า แต่ละหมู่บ้านต้องปลูกอย่างน้อย 10-20 ชนิด และเป็นชุมชนเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันด้วยการจัดตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช อยู่ในความตั้งใจที่นำเรื่องการสร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักสวนครัวที่ตั้งเป้าไว้ที่ 12 ล้านครัวเรือน ให้เป็นหนึ่งในใต้ร่มของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช

และเรื่องที่สอง กรมการพัฒนาชุมชนได้น้องนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เรื่องทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อของบเงินกู้กระตุ้นเศรษฐกิจ ดำเนินการในพื้นที่ 25,179 ครัวเรือน และงบปี 2563 ได่ดำเนินการไปแล้ว 1,500 ครัวเรือน รวมทั้งพัฒนาพื้นที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน อีก 11 ศูนย์ ให้เป็นศูนย์เรียนรู้ต้นแบบ โดยครัวเรือนเหล่านี้และศูนย์ทั้ง 11 ศูนย์ จะกลายเป็นผู้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เพื่อจะได้รวบรวมต้นกล้าและเมล็ดพันธุ์เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกให้ประชาชน

เรื่องที่สาม คือ ในโอกาสที่กรมการพัฒนาชุมชนครบรอบ 60 ปี ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 กรมฯ จะพัฒนาปรับปรุงศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชของกรมการพัฒนาชุมชนให้มีความสมบูรณ์ เข้มแข็ง และยั่งยืน เป็นศูนย์เรียนรู้ให้พี่น้องประชาชนอย่างสมบูรณ์แบบเพิ่มมากขึ้น เรามีเป้าใหญ่ที่ว่า ครบ 60 ปี กรมการพัฒนาชุมชน ทุกตำบลจะให้มีศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืช และพยายามกระจายไปให้ครบทุกหมู่บ้าน โดยการทำอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นพลังสร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ทุกหมู่บ้านจะมีธนาคารเมล็ดพันธุ์พืช สร้างสังคมแห่งการเกื้อกูล พึ่งพาตนเองได้

“ขอให้คณะกรรมการโครงการฯ ได้ปรับปรุงร่างแผนแม่บทตามคำแนะนำและข้อเสนอของรองผู้อำนวยการโครงการฯ อพ.สธ. และให้ไปพิจารณางานที่เกื้อกูลกันกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ ที่สำคัญคือ โครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ช่วยทำให้ชัดเจนในเรื่องการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชด้วย และการบูรณาการภาคีเครือข่ายก็เป็นเรื่องใหญ่ เช่น ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน ให้ MOU กับโรงเรียนในพื้นที่เพื่อศึกษาและจัดให้มีกิจกรรมในศูนย์ฯ หรือจับคู่กับท้องถิ่นทำงานร่วมกัน อยากเห็นทุกศูนย์ฯ มีธนาคารเมล็ดพันธุ์และกล้าไม้ที่เก็บโดยคนของเราที่อยู่ในตำบลหมู่บ้าน สมาชิกภาคีเครือข่ายของเรา ช่วยกันรวบรวมให้มีสายพันธุ์เยอะๆ

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล็งเห็นความสำคัญว่า ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นมรดก เป็นทรัพย์สินของคนไทย เรื่องนี้เป็นความมั่นคงของชาติ เป็นหมุดที่ปักลงในแผนที่โลกว่าเรามีพันธุกรรมพืชอะไรอยู่ในแผ่นดินไทย ขอให้พวกเราช่วยกันทำให้เต็มที่ ทำหน้าที่ของเราให้ดี น้อมนำพระราชดำรัสใส่เกล้าใส่กระหม่อม เพื่อทำให้พระราชประสงค์ของพระองค์ท่านซึ่งมีนัยยะส่งถึงความสุขของชาวบ้านให้เป็นเป็นจริง”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำเขมรขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

สุรินทร์ 16 ก.ค.-มทภ.2 สั่ง กกล.สุรนารี จัดระเบียบนักท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม หารือ พล.ต.เนี๊ยะ ได้ข้อยุติ 3 ประการ เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร และขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม ลั่นไทยดำเนินคดีอดีตทหารพรานตามกฎหมายแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุความวุ่นวาย ที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จากกรณีที่ผู้หญิงชาวกัมพูชา เข้ามาด่าทอทหารไทย ในเขตพื้นที่ของไทยวานนี้(15 ก.ค.) ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้มีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเหมือนธม เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย ป้องกันกลุ่มคนไม่หวังดี โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รอง ผบ.กกล.สุรนารี ได้หารือร่วม พล.ต.เนี๊ยะ วงค์ ผบ.พลน้อย ร.42 เพื่อพบปะหารือ ณ ปราสาทตาเมือนธม โดยมีสรุปผลการพบปะดังนี้ 1.หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น หากเป็นนักท่องเที่ยวไทย ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแจ้งกับฝ่ายไทยเพื่อนำนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ เช่นเดียวกันหากนักท่องเที่ยวกัมพูชา ก่อปัญหา ขอให้ฝ่ายไทยแจ้ง ฝ่าย กัมพูชาเพื่อให้ฝ่ายกัมพูชา นำตัวนักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ 2.หากมีปัญหาในพื้นที่ การแก้ปัญหาให้ชุดประสานงานในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]