กรุงเทพฯ 19 ส.ค.-องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ชี้คนไทยตื่นตัวร่วมตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชันมากขึ้น เตรียมเปิดตัวเครื่องมือพิเศษจับทุจริตงบฟื้นฟูโควิด 4 แสนล้าน
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT แถลงข่าวเตรียมจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2563 ในวันอังคารที่ 15 กันยายน ซึ่งจัดต่อเนื่องปีนี้เป็นครั้งที่ 9 โดยในปีนี้ จัดภายใต้แนวคิด “จับโกงโคตรง่ายแค่ปลายนิ้ว – Power of Data” ในรูปแบบงานใหม่ ที่เรียกว่าเป็น Virtual Collaboration ครั้งแรกขององค์กรฯ ที่เปลี่ยนจากการแสดงพลังจากโลกออฟไลน์มาสู่โลกออนไลน์ สร้างการมีส่วนร่วมของพลังสังคมในพื้นที่ปลอดภัย สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19
นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการทำงานขององค์กรฯในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา พบว่า คนไทย ตื่นตัว ร่วมตรวจสอบและต่อต้านคอร์รัปชันมากขึ้น เกิดการสร้างภาคีเครือข่ายขยายตัวไปทั่งประเทศ และมีผลสำเร็จเกิดขึ้นในหลายโครงดาร ที่เห็นชัดเจน เช่น โครงการปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ซึ่งโครงการนี้ฝึกให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นผู้เฝ้าระวังและแจ้งเหตุ โดยขยายเครือข่ายไปทั่วประเทศและมีประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสเป็นจำนวนมาก รวมถึงโครงการข้อตกลงคุณธรรม เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างภาคประชาชนและภาครัฐอย่างเป็นทางการ โดยเปิดให้ตัวแทนภาคประชาชนเข้าเป็นตัวแทนและผู้สังเกตการณ์ในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการของรัฐ ที่ผ่านมาร่วมตรวจสอบหลายร้อย โครงการ รวมมูลค่ากว่า 2ล้านล้านบาท สามารถประหยัดงบประมาณของชาติได้กว่า 2 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของความร่วมมือกับองค์กรที่มีความหลากหลายทั้งภาคธนาคาร ตลาดทุนและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ในการสร้างการเดินหน้ากระตุ้นให้ประชาชนเข้ามาร่วมในการเฝ้าระวังและตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นประสบผลสำเร็จ
ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในวันงานต่อต้านคอร์รัปชัน 15 กันยายนนี้ จะมีการเปิดตัว เครื่องมือช่วยในการจับตาและตรวจสอบการใช้งบประมาณตามแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 กว่า4 แสนล้านบาท ภายใต้ชื่อ “จับโกงงบ COVID ด้วย ACT Ai” ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจากเครื่องมือ ACT Ai เดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเครื่องมือนี้สร้างขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณตามแผน แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง เนื่องจากเป็นงบประมาณก้อนใหญ่ และมีความจำเป็นสำหรับคนไทยทุกคน ห่วงว่าอาจรั่วไหลในระหว่างทาง หากไม่มีการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้สร้างเครื่องมือนี้ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการแจ้งข้อมูล ซึ่งเครื่องมือนี้จะเริ่มเปิดใช้ในวันที่ 15 กันยายนเป็นวันแรก
นอกจากนี้ในวันงานจะมีกิจกรรม การเสวนา จากผู้ บทบาทในการต่อต้านคอร์รัปชันทั้งระดับประเทศและระดับโลก เช่น การเสวนาหัวข้อ “สืบ-จาก-ข้อมูล” กับเพจ CSI LA และปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน , ทอล์กเดี่ยวหัวข้อ Big Data as a Solution จาก ดร.วันฉัตร สุวรรณกิตติ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กับความสำคัญและเรื่องราวการผลักดันเครื่องมือที่ช่วยให้รัฐไทยเปิดเผยข้อมูลการทำงานและงบประมาณเพื่อความโปร่งใสในการบริหาร, ทอล์กเดี่ยวหัวข้อ Organize Data, Organized Society จาก ธนิสรา เรืองเดช ผู้ร่วมก่อตั้งหลักของPunchUp พร้อมแขกรับเชิญพิเศษจากต่างประเทศ ผู้มุ่นมั่นผลักดันการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างสังคมการเมืองการใช้งบประมาณที่โปร่งใสและตรวจสอบได้จนได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความหวังให้กับทุกคนกับการแก้ปัญหาคอร์รัปชันในประเทศไทย
ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้ดูแลโปรเจ็กต์ACT Ai กล่าวว่าอยากชวนทุกคนมาร่วมกันเป็นหูเป็นตา ผ่านเครื่องมืออย่าง “จับโกงงบ COVID ด้วย ACT Ai” ที่องค์กรฯร่วมกับทีมงานคนรุ่นใหม่อย่างทีม PunchUp พัฒนาขึ้น ช่วยทำให้ทุกคนสามารถทำความเข้าใจ และมีส่วนร่วมกับการตรวจสอบได้มากขึ้น เชื่อว่าเครื่องมือที่จะเปิดตัวให้ทุกคนมาร่วมใช้งานนี้ จะเป็นก้าวแรกของการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนที่จะทำให้นักการเมือง ข้าราชการหรือภาคเอกชนต้องตระหนักให้มากขึ้นว่าการโกง กำลังจะถูกจับตามองโดยพวกเราทุกคน โดยในวันงานจะมีการแนะนำวิธีการใช้เครื่องมือนี้อย่างละเอียด .-สำนักข่าวไทย