สบส.สั่งปิด 2 คลินิก เซ่นปมปลอมเอกสารเบิกจ่ายงบ สปสช.

กรมสบส.7 ส.ค.-กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แจ้งความดำเนินคดีคลินิก 18 แห่งในเขตกรุงเทพฯ ฐานทำเอกสารเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันเป็นเท็จเพื่อเบิกจ่ายงบหลวง พร้อมออกคำสั่งปิดคลินิก 2 แห่ง ชั่วคราว 30 วัน ก่อนเดินหน้าขยายผลสอบให้ครอบคลุม เพื่อจัดการขบวนการทุจริต รักษาผลประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน


นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีที่มีผู้ร้องเรียนการเบิกจ่ายเงินบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ของคลินิก 18 แห่งในเขตกรุงเทพฯ ว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจโรคและให้บริการแก่ประชาชน ว่า กรมสบส.ในฐานะหน่วยงานหลักในการคุ้มครองผู้บริโภคในด้านระบบริการสุขภาพ ได้สั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่จากกองกฎหมาย และกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรม สบส.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ คลินิก 18 แห่งซึ่งกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากเอกสารและสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องกับคลินิก จนพบข้อเท็จจริงว่าคลินิกทั้ง 18 แห่งมีการจัดทำเอกสารเท็จเพื่อเบิกจ่ายงบตรวจสุขภาพจาก สปสช.จริง พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงเข้าแจ้งความ ร้องทุกข์ กล่าวโทษกับกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ตามมาตรา 73 ของพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ฐานจัดทำหรือยินยอมให้ผู้อื่นจัดทำหลักฐานเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการเอกสารแสดงการตรวจโรค เอกสารแสดงผลการรักษาพยาบาลของสถานพยาบาล หรือเอกสารกรณีอื่นอันเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาศัยอำนาจตามมาตรา 49 มีคำสั่งให้คลินิกทั้ง 18 แห่ง ปรับปรุงให้ถูกต้องตามความเป็นจริงภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่มีคลินิก 2 แห่งที่ไม่สามารถดำเนินการตามได้


กรม สบส.จึงมีคำสั่งให้ปิดคลินิกดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อดำเนินการให้ถูกต้อง มิฉะนั้นกรม สบส.จะมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลของคลินิกทั้ง 2 แห่งต่อไป

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรม สบส. จะร่วมกับ สปสช.ขยายผลตรวจสอบคลินิกเพิ่มเติม เพื่อจัดการขบวนการทุจริตเบิกจ่ายงบของรัฐและรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชน โดยแบ่งการดำเนินการตรวจสอบ 18 คลินิกในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ต่อไปจะตรวจสอบสถาน พยาบาลซึ่งมีทั้งโรงพยาบาลรวมทั้งคลินิกชุมชนอบอุ่นในเขตกรุงเทพฯ เพิ่มเติมอีก 66 แห่ง ในต้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยประสานกับคณะกรรมการสอบสวนที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตั้งขึ้น และสปสช. ต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ส่งชาวจีนกลับบ้าน

เสร็จสิ้นภารกิจส่ง 621 เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับจีน

จบภารกิจส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา รวม 3 วัน 13 เที่ยวบิน ส่งกลับชาวจีน 621 คน ที่เหลือต้องรอการเจรจา 3 ฝ่าย ไทย จีน และเมียนมา กำหนดแนวทางรับตัวอีกครั้ง

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง