สปสช.ตรวจพบทุจริตงบบัตรทองรอบ 2 เบื้องต้น 34 ล้าน

สปสช.6 ส.ค.-สปสช.แถลงคืบหน้าตรวจสอบทุจริตงบบัตรทอง ในหน่วยบริการคลินิกในพื้นที่ กทม.รอบ2 เบื้องต้นพบความเสียหาย 34 ล้านบาท ชี้เป็นพฤติกรรมสมคบคิดระหว่างหน่วยบริการ คลินิกและห้องแล็บ พร้อมจะเร่งสางปัญหาตรวจสอบทุจริตในคลินิก ทั้งหมดในพื้นที่ กทม.ให้แล้วเสร็จ ส.ค.นี้


นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ สปสช. กล่าวถึงความคืบหน้าการเร่งดำเนินการเอาผิดกับหน่วยบริการทุจริตเงินบัตรทอง ว่า จากที่คณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ได้ตรวจสอบเอกสารและหลักฐานการเบิกจ่ายค่าบริการเท็จ พบว่าคลินิกชุมชนอบอุ่น และแล็บที่ให้บริการตรวจทางปฏิบัติการทางวิทยาศาสาตร์ มีพฤติกรรม สมรู้ร่วมคิดกัน มีความ จงใจทั้งปลอมข้อมูลผู้ป่วย จากไม่เคยรับการตรวจมาก่อน หรือ บิดเบือนข้อมูล ทั้งน้ำหนัก ส่วนสูง ถือว่าเป็นแล็บผี

และมีความผิดร้ายแรง เข้าข่าย การทำลายระบบสุขภาพ ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบสุขภาพ ทำลายความน่าเชื่อถือทางวิชาชีพโดยพบว่า มีประชาชนถูกสวมสิทธิหรือปลอมข้อมูลทางสุขภาพกว่า 2แสนคน สูญเสียโอกาสในการเข้าถึงบริการที่จำเป็น เช่น การถูกแอบอ้าง ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เมื่อระบบจะขึ้นว่ามีการรักษาแล้ว ก็เสียโอกาสไปทันที


นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการตรวจสอบคลินิกได้วางไว้ 5 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1มีการตรวจสอบ 18 คลินิก และ 2 คลินิกทันตกรรม และ 2 แล็บปฎิบัติการ ซึ่งตรวจสอบเสร็จแล้วและดำเนินการฟ้องเรียกค่าเสียหายแล้ว 2.ตรวจสอบ 63 คลินิก และ 3 คลินิกทันตกรรม ซึ่งก็มีการดำเนินคดีอาญาแล้วเช่นกัน ระยะที่ 3ขยายการตรวจสอบ 107 คลินิก และ95 คลินิกทันตกรรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอยต่อของระยะ 2 และ3

ส่วนระยะที่4 ตรวจสอบ การเบิกจ่ายบริการคัดกรองโรค 17 รายการ ขยายผลย้อนหลังปี2553 และระยะที่ขยายการตรวจสอบคลินิกในปริมณฑล ในพื้นที่เขต 4,5 และ6

ทั้งนี้ คาดว่า ภายในเดือน ส.ค.นี้ จะเร่งตรวจสอบคลินิกชุมชนอบอุ่น 180 แห่ง และคลินิกทันตกรรม 180 แห่ง ให้แล้วเสร็จ ทั้งหมด


นพ.การุณย์ กล่าวว่า ขณะนี้ สปสช.ระดมทีมผู้ตรวจสอบทั้งจากส่วนกลางและพื้นที่จากต่างจังหวัดเข้ามาตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายบริการคัดกรองโรคทั้งหมดของหน่วยบริการ สามารถตรวจไปแล้วเกือบ 160,000 ฉบับ พบเอกสารไม่น่าเชื่อถือประมาณ 80,000 ฉบับ ซึ่งกรณีที่พบว่าเป็นการตกแต่งข้อมูลเป็นเท็จ และการสวมสิทธิ โดยเป็นการตรวสอบ และ ดำเนินคดีไปแล้ว 81 คลินิกชุมชนอบอุ่น 5 คลินิกทันตกรรม และ 2 แล็บ มีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นในระยะที่ 2 ที่ยังตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ อยู่ที่ประมาณ 34 ล้านบาท ซึ่งต้องเรียกเก็บเงินคืนทั้งหมด และดำเนินคดีทางกฎหมาย

สำหรับมูลค่าความเสียหายที่มีการเรียกคืนเงินนั้น จากการตรวจสอบคลินิกล็อตแรก คลินิก 18 แห่ง 2 คลินิกทันตกรรม มีมูลค่าความเสียหาย 72 ล้านบาท และล็อต 2 จำนวนคลินิก 66 แห่ง(คลินิก+ทันตกรรม3 แห่ง) 34 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว